หลายท่านคงคิดในใจว่า ทำไมผมถึงมาเขียนถึงกองทุนหุ้นน่าสะสม LTF และ RMF ส่งท้ายปี 2014 ซะแล้ว จริง ๆ ที่ผมรีบเขียนออกมาก็เพราะว่า ถ้าไปซื้อกองทุน LTF และ RMF ตอนสิ้นปี อาจจะทำให้เราได้หน่วยลงทุนที่แพงมากขึ้นก็เป็นไปได้ครับ เพราะว่าทุกคนก็พยายามที่จะซื้อกองทุนปลายปีด้วยกันทั้งสิ้นครับ ถึงแม้ระยะยาวแล้ว มูลค่าหน่วยลงทุนที่ซื้อ ณ วันนี้ อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลตอบแทนของกองทุนเสียเท่าไหร่ แต่ผมก็อยากให้ผู้ลงทุนได้วางแผนการซื้อกองทุนเสียแต่ เนิ่น ๆ ครับดีกว่าฉุกละหุกตอนสิ้นปี รู้ตัวอีกทีก็ซื้อไม่ทันเสียแล้วครับ

ก่อนจะไปถึงกองทุนคัดเลือก ผมขออธิบายเสียหน่อยว่า เราควรที่จะมีแนวคิดอย่างไรกับการลงทุนกับกองทุน LTF และ RMF ครับ

1. LTF และ RMF เป็นกองทุนที่ช่วยลดหย่อนภาษี และที่สำคัญคือช่วยเก็บออม แต่ผมอยากให้ทุกคนนึกถึง การเก็บออมเป็นหลัก ให้เรื่องภาษีเป็นเรื่องรอง เพราะว่าหลายท่านคิดว่าจะเอาแต่ลดหย่อนภาษี และ โปรโมชั่นจาก ธนาคาร หรือ บลจ. จนทำให้เลือกกองทุนผิดพลาด (เลือกกองทุนที่ทำผลตอบแทนไม่ดี ภาษีที่ได้ลดหย่อนอาจจะไม่คุ้ม)

2. ศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ก่อนลงทุน เนื่องจากหลายท่านจะซื้อแค่ลดหย่อนภาษี จริง ๆ กองทุนนี้ มีจุดประสงค์การจัดตั้งที่ดีมากนะครับ คือ อยากให้คนไทยรู้จักการลงทุน และ การออมเพื่อการเกษียณ ดังนั้น เราก็ต้องทำหน้าที่คนไทยที่ดี เพื่อตอบสนองต่อนโยบายดี ๆ นะครับ เพื่อที่คราวหน้าจะได้มีโครงการดี ๆ แบบนี้ออกมาอีก (ที่รัฐบาลจะยกเลิกก็เพราะคิดว่าคนรวยได้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีมากว่าคนชั้นกลางครับ ดังนั้นเรามาช่วยกันให้เห็นว่า พวกเราทุกคนได้ประโยชน์จากโครงการแบบนี้จริง ๆ กันนะครับ) ส่วนเรื่องยกเลิก LTF หรือไม่ ต้องลุ้นกันต่อไป ข้อมูลเพิ่มเติม กดที่นี่

3. การลงทุนผ่าน LTF จะเน้นการลงทุนในหุ้นเสียเป็นส่วนใหญ่ (มากกว่า 65 % ของเงินลงทุน) ดังนั้นความเสี่ยงจะค่อนข้างมากครับ สำหรับผู้เริ่มต้นลงทุน และส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรู้ด้วยว่าแต่ละกองทุนนั้น เอาเงินเราไปลงทุนกับอะไร ? ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ เราควรที่จะลงทุนด้วยกองทุนที่มีความเสี่ยงน้อย หรือ ปรับความเสี่ยงได้ตามที่เราต้องการ โดยเฉพาะกองทุน RMF นั้นเองครับ เพราะว่า RMF นั้นมีนโยบายกองทุน หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ความเสี่ยงต่ำ จนถึง สูงปริ๊ดครับ ถ้าเราเป็นผู้เริ่มต้น กองทุน RMF ก็จะเครื่องมือที่ดีในการบริหารความเสี่ยงไม่ให้มากเกินไป และเป็นกองทุนที่จะทำให้เรามีเงินใช้ในตอนเกษียณได้อย่างดีเลยครับ รวมถึงเป็นการฝึกวินัยในการออมไปด้วย เพราะว่าต้องซื้อต่อเนื่องทุกปีจนถึงอายุ 55 นั่นเองครับ

สรุปสั้น ๆ ว่า ให้ศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุน และอย่าดูเรื่องภาษีเป็นตัวหลัก ให้ดูที่กองทุนว่าให้ผลตอบแทนได้ดีหรือไม่ครับ รวมถึงถ้าเป็นไปได้ให้เก็บออมกับกองทุน RMF ก่อนถึงจะเป็น LTF เพื่อที่จะได้บริหารความเสี่ยงง่ายกว่า(LTF เป็นเน้นหุ้นทำให้ความเสี่ยงเยอะ ดังนั้น การที่ซื้อ RMF ตราสารหนี้มาเพื่อทำให้ความเสี่ยงลดลง) และการันตีเงินเกษียณตัวเองว่าจะมีพอใช้แน่ (หลายท่านคงสงสัย เขียนทำไมตั้งยาว สรุปสั้น ๆ 3-4 บรรทัดก็จบ......นั่นสิครับ 555+)   เอาละครับ เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ เรามาดูกองทุน LTF กันก่อนว่า มีกองทุนไหนที่น่าสนใจกันบ้างงงง

  1. CG-LTF ของ บลจ. UOB
  2. AB-LTF ของ บลจ. Aberdeen
  3. B-LTF ของ บลจ. บัวหลวง
  4. MS-CORE LTF ขอล บลจ. Manulife
  5. P-LTF ของ บลจ. ฟิลลิป
  6. 1 SG-LTF ของ บลจ. วรรณ

ทำไมผมถึงบอกว่า กองทุนเหล่านี้น่าสนใจ นั้นก็เพราะว่า ผลตอบแทนย้อนหลัง ไม่ว่าจะเป็น 1 ปี, 3 ปี, 5 ปี ย้อนหลัง กองทุน LTF เหล่านี้ ไม่ค่อยมีจังหวะต่ำกว่าเกณฑ์มาตราฐานอย่าง SET index เสียเท่าไหร่ครับ ที่สำคัญ กองทุนเหล่านี้รักษาผลตอบแทนได้ดี อยู่ในอันดับ 1-10 สุดยอดกองทุนตลอดช่วงอายุ 1,3,5 ปีนั่นเอง (อาจจะมีบางกองทุนหลุดไปอันดับ 11 บ้างแต่ก็ยังดีอยู่ครับ) ท่านไหนสนใจอยากดูผลตอบแทนย้อนหลัง เข้าไปดูได้ที่ Siamchart นะครับ ขอขอบคุณ Website ดี ๆ อย่าง Siamchart ด้วยนะครับ(ผมก็เป็นสมาชิกด้วยเช่นกัน)

ต่อมาเรามาดูกันนะครับว่า กองทุนไหนเป็นอย่างไร และมีอะไรที่น่าสนใจในแต่ละกองทุน

เรามาดูว่ากองทุนไหนให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอกันนะครับ

ก่อนอื่นเรามารู้จัก Rolling Return กันก่อนนะครับ (ไม่เล่นมุข Rolling Stone ละ 55+) โดยแต่ละจุดที่ท่านผู้อ่านเห็นบนกราฟนั้น จะเป็นตัวแทนของผลตอบแทนย้อนหลังประมาณ 3 ปี (3 ปี 1 เดือน) ครับ คือเจ้า Rolling Stone นี้เป็นวงดนตรี เอ้ย !!(เอาจนได้) เจ้า Rolling return นั้นจะบอกเรื่องราวที่มากกว่าจุดของผลตอบแทนเพียงอย่างเดียวครับ คือเราจะมองเห็นด้วยว่า ผลตอบแทนที่กองทุนทำได้มีการเคลื่อนไหวอย่างไรครับ จะเห็นได้ว่า กราฟของ กองทุน CG-LTF นั้นจะขึ้นลงระหว่างเดือนค่อนข้างมากทีเดียวครับ บ้างช่วงผลตอบแทนต่ำ แต่ว่ามาทำผลตอบแทนได้สูงเป็นบางช่วงครับ ดังนั้นอาจจะเหมือนกับนั่งรถไฟเหาะเลยทีเดียวครับ ซึ่งผมว่าใครที่ อายุเยอะ หรือรับความเสี่ยงไม่ได้ก็ไม่ควรที่จะเลือก เพราะว่าเดี๋ยวเห็นผลตอบแทนขึ้น-ลง มาก ๆ รวดเร็วแบบนี้จะหัวใจวายไปเสียก่อนนะครับ

ส่วนกองทุนที่ผมเห็นแล้วว่าผลตอบแทนที่ได้ค่อนข้างจะ สม่ำเสมอ ก็คือ ABLTF กับ BLTF ครับ ที่ดูแล้วไม่หวือหวา และยังให้ผลตอบแทนที่ดีด้วยครับ

คราวนี้เรามาดูกองทุนแต่ละกองทุนกันนะครับ ว่ามีสไตล์การบริหารอย่างไร