7-02

 

 

วันนี้ก็มีคนถามพี่ปึ้กเรื่องวิธีการลงทุนอีกแล้วครับ บางทีก็ถามจนพี่แอบคิดในใจว่า เด็ก ๆ พวกนี้มันไม่คิดจะหาความรู้ด้วยตัวเองเลยหรือไง ใช่สินะ โลกทุกวันนี้มันต้องการความรวดเร็ว ทันใจ ฉับไวไปเสียหมด อะไรสั้น ๆ ง่าย ๆ ก็อยากจะได้ แต่สุดท้ายกลายเป็นพลาดระยะยาวทุกที เฮ้อออ

พูดถึงเรื่องนี้ทีไรพี่ปึ้กต้องนึกถึง 10 ข้อผิดพลาดในการลงทุนที่พี่ปึ้กเคยจดไว้ในไดอารี่การลงทุนของตัวเองในสมัยหนุ่ม ๆ วันนี้เลยคิดว่าเอามาแชร์ให้ฟังกันดีกว่า เผื่อพวกน้อง ๆ ที่อยู่ในวัยหนุ่มสาวจะเข้าใจและคิดได้ แก่แล้วจะได้สบายเหมือนพี่ปึ้กไงจ๊ะ

 

7-01

 

1. ไม่หาความรู้ : บางคนรู้ว่าการลงทุนเป็นเรื่องดี แต่ไม่ชอบหาความรู้ เอาแต่ลงทุนตามกระแสหรือตามเพื่อน หารู้ไม่ว่าการไม่มีความรู้แล้วไปลงทุนมันอันตรายสุด ๆ  เหมือนเธอกำลังยืมจมูกคนอื่นหายใจ บางทีตอนซื้อเขาชวนซื้อ แต่ตอนขายเขารีบขาย ไม่ทันได้บอกเรา เราก็ติดดอยอยู่คนเดียว ทางที่ดีพี่ว่าลองค้นคว้า วิเคราะห์ข้อมูลดูเองบ้าง ให้ตัวเองเข้าใจเรื่องการลงทุนอย่างแท้จริง ก็อย่างว่าแหละนะ เงินก็เงินเรา จะเอาไปลงทุนอะไรก็ต้องรู้จักด้วย ถ้าลงทุนในสิ่งที่ไม่รู้จัก เกิดผิดพลาดขาดทุนขึ้นมาจะโทษใครไม่ได้นะจ๊ะ

2. ไม่ประเมินความเสี่ยง :  ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง จะลงทุนอะไร น้องต้องรู้จักตัวเองก่อนว่ารับความเสี่ยงได้แค่ไหน จะมาทำตัวเหมือนในเพลงเล่นของสูงไม่ได้นะ #รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง เพราะแต่ละคนนั้นรับความเสี่ยงได้แตกต่างกัน ถ้ารับไม่ได้ แต่ดันไปลงทุนในความเสี่ยงสูง ระวังจะต้องเสี่ยงไม่มีเงินใช้ด้วยนะครับ ถ้าใครอยากรู้ว่าตัวเรารับความเสี่ยงได้แค่ไหน ไปลองทำแบบประเมินบนเว็บไซต์ได้ที่  http://market.sec.or.th/public/event/InvestorSurvey.aspx หลังจากทำเสร็จแล้วเค้ามีตัวอย่างการจัดพอร์ตการลงทุนตามระดับความเสี่ยงให้ดูด้วยนะเออ   

3. ไม่จัดพอร์ต : เพราะเงินลงทุนแต่ละก้อนเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน อย่าเอาไปเสี่ยงเหมือนกันทุกก้อน การจัดพอร์ตจะทำให้เธอเหมือนมีตระกร้าใส่เงินลงทุนหลายใบ ใบไหนขาดทุนไป เธอก็ยังมีใบอื่นสำรองไว้  การจัดพอร์ตเป็นถือเป็นสกิลพื้นฐานของนักลงทุนเลยนะเธอ อย่าให้ใครรู้ว่าเธอทำไม่เป็นจะอายเค้าแย่เลยนะครับ

4. ไม่ติดตามการลงทุน : เอาเงินไปลงทุน แล้วก็ไม่สนใจติดตาม ว่าได้กำไรหรือขาดทุน ปัจจัยแวดล้อม สภาวะเศรษฐกิจชาติ เศรษฐกิจโลกที่จะกระทบต่อมูลค่าเงินลงทุนเราเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็ไม่เคยรู้ มาเห็นอีกทีก็ขาดทุนจนเจ็บหนัก ขอร้องเลยล่ะว่า ช่วยติดตามไว้บ้างนะ จะได้ปรับแผนการลงทุนได้ทันเวลา

5. ไม่มีวินัย : การลงทุนมีโอกาสที่จะได้กำไรและขาดทุน ถ้าเราไม่เคร่งครัดกับวินัยว่าเมื่อไหร่ควรซื้อ เมื่อไหร่ควรขาย น้อง ๆ คงประสบความสำเร็จในการลงทุนได้ยาก เมื่อลงทุนไปแล้วพี่ปึ้กขอแนะนำให้น้อง ๆ นึกตัวเลขกำไรที่อยากได้ไว้ในใจ พอได้เท่าที่เราต้องการก็ขาย หรือถ้าขาดทุน จะขาดทุนได้แค่ไหน และตัดใจ cut loss ให้ได้เพื่อบาลานซ์การลงทุนของเราอย่าให้เสี่ยงเกิ๊นนน

6. ไม่มีเงินแล้วไปกู้มาลงทุน :  บางคนเห็นคนอื่นลงทุนแล้วมีกำไร อยากได้กำไรบ้างแต่ไม่มีเงิน เลยไปกู้เงินมาลงทุน เสียดอกเบี้ยก็ยอมเพราะมั่นใจว่าเงินที่ได้คืนหักดอกเบี้ยเงินกู้แล้วยังไงก็ต้องเหลือเป็นกำไร แต่หารู้ไม่ว่าการลงทุนมีความเสี่ยงที่มูลค่าเงินลงทุนจะหดหายไป ดังนั้นไม่ได้มีแต่ได้กำไรอย่างเดียวนะจ๊ะ ขาดทุนไปจะเจ็บหนัก ทีนี้ก็เสียทั้งเงินที่กู้มา เสียทั้งดอกเบี้ยเงินกู้ ถ้าถึงวันนั้นจริง ๆ แล้วจะรู้ว่าความเศร้ามันเป็นยังไง

7. ลงทุนเกินกำลังของตัวเอง : การลงทุนบางประเภท เช่น  Futures ต่าง ๆ ที่เค้าโฆษณาว่าใช้เงินลงทุนน้อย ทำกำไรเร็ว หลายคนพอลงทุนได้กำไรบ่อย ๆ เข้าก็ขาดสติ ได้เยอะก็ยิ่งลงเยอะ คิดแต่ทางได้ไม่เผื่อใจทางขาดทุน ไม่ประเมินว่าตัวเองรับความเสี่ยงได้แค่ไหน พอขาดทุนก็เจ็บตัวหนัก ต้องระวังไว้เลยว่าการลงทุนพวกนี้ทำ #กำไรหนักมาก แต่ก็ #ขาดทุนหนักมาก ได้เหมือนกัน

8. ไม่ดูค่าธรรมเนียม : การลงทุนมีค่าธรรมเนียมที่เราต้องจ่าย เช่น ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ ค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุน โดยเค้าจะคิดเป็น % จากเงินลงทุนของเรามากน้อยต่างกันไปตามประเภทการลงทุน ค่าธรรมเนียมยิ่งแพงจะทำให้กำไรที่เราควรได้ลดน้อยลง ดังนั้น จะลงทุนอะไรก็ขอให้มองหาตัวเลขค่าธรรมเนียมดูก่อน อย่าให้เพื่อนล้อว่าลงทุนทำไมกำไรก็ไม่ได้ เพราะค่าธรรมเนียมกินหมด

9. เชื่อคนอื่นมากกว่าตัวเอง  : พี่ปึ้กเห็นมาเยอะ บางทีลูกค้าก็ปล่อยให้มาร์เก็ตติ้งซื้อขายแทนเพราะไว้ใจว่ารู้ข้อมูลดี น่าจะทำกำไรให้ได้ ปรากฏว่า โดนสั่งซื้อขายหุ้นบางตัวบ่อย ๆ เพราะอยากได้ค่าธรรมเนียมมาก ๆ หรือใช้บัญชีเราซื้อขายหุ้นให้ตัวเอง หรือลูกค้าคนอื่นซะอย่างงั้น พอเกิดความเสียหายก็ต้องมาร้องเรียน ฟ้องร้องกัน ช้ำใจไปทั้งคู่ ทางที่ดี คิดเอง วิเคราะห์เองบ้าง และตัดสินใจซื้อขายเองทุกครั้งเถอะจ้ะ

10. ไม่ลงทุน : พูดมาจนเหนื่อย แต่เชื่อไหมว่ามีคนมากมายบนโลกนี้เข้าใจว่าการฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์คือหนทางสู่ความร่ำรวย ไม่กล้าลงทุน กลัวขาดทุน กลัวความเสี่ยง กลัว … กลัว… กลัว … พี่ปึ้กบอกเลยว่าถ้าเธอจะเลือกเส้นทางนี้ ชีวิตลำบากแน่นอนจ้าเพราะดอกเบี้ยเงินฝากที่ได้มันน้อยกว่าเงินเฟ้อ เงินที่เก็บไว้ก็ไม่พอใช้ในอนาคต #บัญชีเงินฝากออมทรัพย์เค้ามีไว้เก็บเงินใช้จ่ายประจำวันแค่นั้นนะ รู้ยัง ที่จริงแล้วการลงทุนต่างหากที่จะทำให้เงินเก็บของเราเติบโตออกลูกออกหลานได้ทันหรือมากกว่าเงินเฟ้อ ยิ่งบวกบร๊ะลานุภาพของดอกเบี้ยทบต้น อะไรนะ!?! ไม่รู้จักดอกเบี้ยทบต้น!?! มันก็คือการได้ผลตอบแทนบนผลตอบแทนไง เริ่มลงทุนเร็ว มีวินัยลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เก็บไปนาน ๆ ทบต้นไปมา เงินเราก็ยิ่งโตได้มาก เรียกว่า แก่ไปไม่จน ใครที่คิดจะลงทุนแต่ยังทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มยังไง ก็ขอให้ไปเริ่มอ่&#x