“ 10 เรื่องที่ต้องรู้ ก่อนจะเลือกซื้อ กองทุน LTF / RMF "
แน่นอนว่าช่วงปลายปีแบบนี้ บรรดานัก (อยาก) ลงทุนทั้งหลาย ย่อมหาตัวเลือกการลงทุนกันอย่างเข้มข้น แต่จำนวนขอมูลอันมหาศาลเกี่ยวกับการลงทุนผ่านกองทุนรวมและรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย ที่แค่เห็นก็ตาลายแล้ว ก็ทำให้เราอยากหลีกหนีไปไกลๆเช่นกัน
หลายคนก็คงคิดว่า ‘แล้วทำไมถึงไม่มีใครมาบอกล่ะว่ากองทุนไหนน่าสนใจ?’
ใครบอกล่ะว่าไม่มี!!! ช่วงสิ้นปีแบบนี้ทีม aomMONEY ได้แทคทีมร่วมกับ หมอนัท เจ้าของเพจ คลินิกกองทุน และ พรี่หนอม กูรูสุดเท่จากเพจ TAXBugnoms มาเป็นผู้ช่วยเพื่อบอกเล่าเรื่องราว ของกองทุนรวม LTF/RMF กองทุนรวมที่นอกจากจะสร้างผลตอบแทนในระยะยาวแล้วยังให้สิทธิพิเศษทางภาษีอีกด้วย
แต่ Money Ideas อยากจะบอกเรื่องที่ต้องรู้ทั้ง 10 ข้อ ก่อนจะเลือกซื้อกองทุน LTF RMF กันก่อน
- การลงทุนผ่านกองทุนรวมต้องมีเข็มทิศ
การลงทุนอะไรต้องใช้เข็มทิศด้วย!!? สิ่งสำคัญที่สุดของการลงทุนคือเป้าหมาย แต่ละคนมีเป้าหมาย หรือความฝันไม่เหมือนกัน บางคนลงทุนเพื่อเกษียณตอนแก่ บางคนลงทุน เพราะจะนำเงินไปใช้เรียนต่อเมืองนอก แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร เราต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า ‘เราลงทุนเพื่ออะไร???’ หากตอบไม่ได้ รับรองว่าต่อให้ซื้อกองทุนที่ดี(แบบที่คนอื่นเขาว่า) ก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ของเราก็ได้
- หนึ่งในหัวใจสำคัญของการลงทุนคือ ‘เวลา’
การลงทุนเป็นอีกขั้นที่ต่อยอดขึ้นมาจากการออม นั่นเพราะหากเริ่มลงทุนตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น (แต่ถ้าทางจะไม่รุ่นกันแล้ว) ย่อมมีเวลาในการลงทุนมากกว่าคนที่เริ่มต้นตอนอายุตอนเป็นคุณลุงคุณป้ากันแล้ว (แต่ไม่ใช่ว่าวัยนี้ลงทุนกันไม่ได้นะ อย่าลืมว่าการลงทุนเป็นเรื่องที่ทุกคนควรทำ) รับความเสี่ยงได้มากกว่าทำให้ลงทุนได้หลากหลายกว่านั่นเอง
แต่รุ่นเดอะทั้งหลายอย่างเพิ่งใจเสีย!!! คิดว่าเลยพ้นวัยการลงทุนมาแล้ว จริงๆแล้วการลงทุนเริ่มต้นได้แม้ว่าตัวเองจะพ้นวัยใกล้เกษียณแต่สิ่งที่เปลี่ยนคือลักษณะการลงทุนและเวลาที่จะสร้างผลตอบแทนเท่านั้น อาจจะรับความเสี่ยงได้ไม่เท่าวัยรุ่นแต่รับรองว่าหากวางแผนการลงทุนเจ๋งๆ เผลอๆ จะได้ผลตอบแบบไม่คาดเลยทีเดียว!!! - ตัวเองคือใคร? นักผจญภัย? หรือ นักวางแผน?
การลงทุนย่อมมาพร้อมความเสี่ยงเสมอ ไม่มีการลงทุนใดในโลกที่ปราศจากความเสี่ยง ดังนั้นก่อนออกเดินทางสู่เส้นทางการลงทุน สิ่งที่ต้องรู้ก่อนก็คือคุณเป็นนักเดินทางแบบไหน? ชอบเดินทางแบบเสี่ยงมากหน่อย เจอหุบเหวให้กระตุ้นหัวใจเล่นแบบนักผจญภัย หรือเป็นนักเดินทางสายวางแผนแบบต้องรู้ทุกเส้นทาง คติประจำใจคือ ‘ปลอดภัยไว้ก่อน’
หากนักลงทุนยังตอบตัวเองไม่ได้ ก็อาจจะทำให้การเดินทางของคุณไม่สนุกแน่นอน แต่ก็มีหลายครั้งที่นักลงทุนมักบอกว่าชอบเดินทางแบบผจญภัย!!! มาเลยเสี่ยงๆนี่ชอบนัก!!! แต่พอถึงช่วงเวลาที่เราต้องลงเหวจริงๆนี่หน้าซีดกันเลยทีเดียว ดังนั้นทุกครั้งก่อนลงทุนทุกครั้งต้องคิดถึงข้อนี้ให้ดีทุกครั้ง - เสบียงก่อนออกเดินทางเตรียมพร้อมหรือยัง?
เสบียงวำหรับการเดินทางของนักลงทุนทั้งหลายไม่ใช่เงินหรอกนะจ๊ะ!!! เพราะเสบียงที่แท้จริงคือ ‘ความรู้’ ในสิ่งที่ตนเองต้องการลงทุนต่างหาก การลงทุนแบบ ‘เขาบอกว่า...’ หรือ ‘เพื่อนบอกว่า...’ แบบนี้ไม่นับเป็นความรู้นะคะคุณ
‘ความรู้’ ในที่นี้คือความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่เราอยากจะลงทุนจริงๆ เช่นหากเราต้องการลงทุนผ่านกองทุนรวมหุ้น ก่อนอื่นต้องรู้ว่าเป้าหมายของเราคืออะไร? มีเวลาในการลงทุนเท่าไหร่? ลักษณะหุ้นในกองทุนที่เราต้องการลงทุนเป็นแบบไหน? มีปันผลรึเปล่า?
แน่นอนว่าข้อมูลพวกนี้เยอะมากจนบางคนที่อยากเริ่มต้นก็รู้สึกปวดหัวแล้ว ไหนจะเรื่องการจัดพอร์ตอีก??? แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้สามารถติดตามอ่านบทความของกูรูได้หลายท่านจาก Website หรือแม้แต่ Youtube ก็ตาม อย่าลืมว่าหากลงทุนโดยไม่รู้นั่นแหละคือความเสี่ยงขั้นสูงสุดแล้ว - การลงทุนเปรียบเหมือนกับการปลกต้นไม้
อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่าการลงทุนนั้นมีหัวใจสำคัญคือ เวลา ดังนั้นทุกๆการลงทุนย่อมต้องอาศัยเวลาเพื่อให้ผลเติบโตงอกงามตามที่หวังไว้ แน่นอนว่าต้นไม้แต่ละชนิดยังมีระยะเวลาการเจริญเติบโตไม่เท่ากัน บางชนิดใช้เวลาเพียง 2-3 ปี ในขณะที่บางชนิดอาจจะต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 7-8 ปีกว่าจะออกดอกผลให้เราได้เห็น เช่นเดียวกับการลงทุนที่หลากหลายประเภทเองก็ย่อมต้องลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เห็นดอกผลเช่นกัน การลงทุนระยะสั้นๆแบบ 2-3 ปีก็มี แต่ก็ให้ผลได้ไม่เท่ากับการลงทุนระยะยาวที่ให้ผลตอบแทนสูงสมกับที่ต้องใช้เวลาในการดูแล
ดังนั้นนักลงทุนก่อนเริ่มต้นลงทุนควรเริ่มต้นจากเลือก ‘ชนิดต้นไม้’ หรือ ‘สินทรัพย์การลงทุน’ ให้ดีก่อนเลือกลงทุนให้ดี ไม่อย่างนั้นการลงทุนทั้งหมดอาจจะได้ผลไม่เต็มที่หรืออาจจะเสียการลงทุนไปทั้งหมดก็ได้ - ก่อนลงทุนต้องดู ‘ทุน’ ให้ดี
เพราะรูปแบบการลงทุนแต่ละคนไม่เหมือนกัน หากใครมีเงินก้อน ก็อาจจะเลือกลงทุนแบบจัดพอร์ต(อีกแล้ว) เพราะการจัดพอร์ตจะช่วยสร้างความสมดุลกับเงินที่มีเพื่อให้เราสามารถสร้างผลตอบแทนตามทุนที่เรามี แน่นอนว่าการลงทุนบบน้สิ่งสำคัญคือการจัดพอร์ตให้เหมาะสมกับ Style การลงทุนของตนเองและมีการตรวจเช็คเพื่อปรับพอร์ตให้เหมาะสมเสมอ
แต่หากเราไม่เงินก้อน เป็นมนุษย์ออฟฟิศทั่วไปที่สามารถพบเห็นได้ทั่วประเทศไทย แนะนำว่าการลงทุนแบบ DCA (เน้นลงทุนทุกเดือน เดือนละเท่าๆกัน) แบบนี้ก็เหมาะกับการลงทุนที่ใช้เวลาลงทุนนานๆหรือมีความเสี่ยงในการลงทุนค่อนข้างสูง ทำให้เมื่อถึงจุดวิกฤติเราเองก็ไม่เจ็บตัวมากนักและยังช่วยสร้างวินัยเพื่อการลงทุนไปในตัว - แม้จะลงทุนผ่านกองทุนที่ดีที่สุด ก