2กองทุน หุ้นเล็กแต่แซ่บ จากฝั่งยุโรป และ สหัรฐฯ

 

สวัสดีคร้าบบบบ นักลงทุนในกองทุนรวมทุกท่าน การลงทุนในช่วงนี้ก็ยังคงเต็มไปด้วยความเสี่ยงต่าง ๆ ที่คาดเดาได้ยาก ซึ่งผมบอกได้เลยครับว่า ต้องทำใจ เพราะว่าการลงทุนจะเป็นเช่นนี้ตลอดคือ จะมีปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้โผล่ออกมาเป็นประจำ (ไม่รู้ว่ามาจากไหนกันเยอะแยะ)

ซึ่งแน่นอนว่า เราไม่สามารถที่จะรู้ล่วงหน้าได้ หรือ คาดเดาได้ยากมาก แต่จากประสบการณ์การลงทุน มีสิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าน่าสนใจมากก็คือ

“การลงทุนระยะยาว ๆ กับ บริษัท ฯ ที่ดี นั้นก็ยังให้ผลตอบแทนที่ดีอยู่เสมอ ๆ ไม่เปลี่ยนแปลง”

นั่นก็หมายความว่า เวลาที่เราลงทุนระยะยาวปัจจัยที่สำคัญที่จะทำให้ได้ผลตอบแทนที่ดีนั้น ไม่ได้ขึ้นกับ สภาวะแวดล้อมของเศรษฐกิจโดยรวมเท่าไหร่นัก เนื่องจากว่าต่อให้เศรษฐกิจดี หรือ ไม่ดี หรือ มีปัจจัยเสี่ยงมหภาค เพิ่มขึ้นมาก็แล้วแต่สถานการณ์ในขณะนั้น

ถ้าบริษัท ฯ ที่เราเลือกลงทุนไปมีความเข้มแข็งจริง เติบโตได้จริง ถึงแม้ว่าจะมีบางช่วงที่ยอดขาย หรือ ผลกำไรลดลงก็ตาม แต่ในระยะยาวแล้ว บริษัทเหล่านี้ก็จะยังคงเติบโตได้ และ รอดพ้นจากภาวะทางการเงินที่แย่ ๆ จากเศรษฐกิจที่ไม่ดี ซึ่งจะทำให้มีการเติบโตมากขึ้นในภาวะที่ตลาดเอื้ออำนวย

ดังนั้นการลงทุนระยะยาวที่ดี ก็ควรที่จะยอมรับความเสี่ยง ความผันผวนในระยะสั้นให้ได้ และต้องคำนึงถึงตรงจุดนี้เสมอ ๆ ครับ ไม่งั้นก็จะมีอาการ “ขายก่อน” เพราะว่า “กลัว” การขาดทุน แต่ไม่ได้มองถึงระยะยาว และเมื่อการลงทุนเข้าสู่ภาวะปกติ สิ่งที่ขายไป ก็มักจะเริ่มกลับมาดี และก่อให้เกิดอาการ “รู้งี้ ถือไว้ก็ดี” เกิดขึ้น วนไปวนมาอยู่เรื่อย ๆ นั่นเอง

ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงก่อนหน้านี้ การลงทุนในหุ้นสหรัฐ ฯ อาจจะดูแล้วไม่ค่อยน่าลงทุน เนื่องจากราคาหุ้น ที่ใครหลาย ๆ คนบอกว่า “ราคาสูงเกินไป” และยังมีความเสี่ยงเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอยู่ค่อนข้างมาก

แต่ถ้ามองพื้นฐานของสหรัฐ ฯ แล้วละก็ จะเห็นได้ว่า บริษัทชั้นนำ ที่มียอดขายเพิ่มขึ้น หรือ ยอดขายดี ๆ และมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่เสมอ ๆ ก็ล้วนแล้วแต่อยู่ในสหรัฐ ฯ ค่อนข้างมาก เช่น Google , Facebook และบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ รวมถึงกลุ่ม Healthcare และ กลุ่มอุตสาหกรรม Start-up ที่กำลังเติบโต

เห็นไหมครับว่า กลุ่มอุตสาหกรรมนั้น ก็ยังคงมีโอกาสที่จะเติบโตได้อย่างดีมาก โดยเฉพาะบริษัทเล็ก ๆ และมีการปรับตัวโดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อการพัฒนาบริษัท ฯ แต่ในทางกลับกัน ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นเดียวกันนะครับ ไม่ว่าจะมีแต่ด้านที่ดี ซึ่งนักลงทุนเองก็ตัองให้ความสำคัญก่อนลงทุนนะครับ

ส่วนยุโรปเอง ถึงแม้ว่าความเสี่ยงจะยังคงสูงอยู่ เนื่องจากเศรษฐกิจก็ยังเติบโตไม่มากเท่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งจะเป็นแบบ ค่อยเป็น ค่อยไป แต่ถ้าไปดูเป็นรายประเทศ จะพบว่าบางประเทศนั้น บริษัท ฯ เริ่มฟื้นตัวทำให้ แนวโน้มกำไรบริษัท ฯ ต่าง ๆ ในยุโรปนั้น ดีขึ้นผิดกว่าที่คาดการณ์ไว้เสียด้วย

ส่วนความกังวลจาก Brexit ที่นักวิเคราะห์หลายค่ายมีความกังวลมาก ๆ ผมกลับมองว่า มีโอกาสเป็นไปได้ต่ำพอสมควร และถึงแม้ว่าจะเป็นจริง ผลกระทบทางธุรกิจเองถึงจะมีผลเยอะ แต่ผมก็เชื่อว่าจะมีบริษัท ฯ ที่ปรับตัวได้อย่างแน่นอนครับ ดังนั้น หุ้นในกลุ่มของยุโรปเองก็ยังมีความน่าสนในการลงทุนระยะยาวอยู่ แต่นักลงทุนเองก็คงต้องทำใจยอมรับความเสี่ยงจากปัจจัยต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นให้ได้ในระยะสั้น-กลาง ครับ

ดังนั้นใครที่จะลงทุนในกองทุนต่างประเทศ เช่น สหรัฐ ฯ และ กลุ่มประเทศยุโรปแล้วละก็คงต้องเป็นนักลงทุน ทั้งคนที่มีความรู้เรื่องลงทุน พร้อมที่จะรับความเสี่ยงได้ และมีความรู้เกี่ยวกับเศรษฐกิจ และบริษัท ฯ ต่าง ๆ พอสมควรเลยครับ

ส่วนถ้าเป็นนักลงทุนหน้าใหม่ แต่รับความเสี่ยงระยะสั้น - กลางได้สูง เพื่อเป้าหมายการลงทุนระยะยาว มีใจกล้าหาญ (ประหนึ่งว่าไปออกรบ) แล้วละก็ สามารถลงทุนได้ครับ

คราวนี้เรามาดูรายละเอียดของกองทุน 2 กองทุนที่ไปลงทุนใน US และ EU กันครับ

ซึ่งความน่าสนใจของกองทุน 2 กองทุนนี้ คือ มีผู้จัดการกองทุน มือฉมัง จะเป็นคนไปมองหาแหล่งลงทุนในธุรกิจ / บริษัทเล็กๆ ที่เพิ่งก่อตั้ง ที่มีราคาของหุ้นไม่สูงมาก (ธุรกิจระดับ S) โดยเมื่อเข้าไปลงทุน และรอให้ธุรกิจนั้นโตเป็น Size M และทำกำไรจากการขายมูลค่าหุ้นสูงขึ้นของธุรกิจนั้น ผลตอบแทนจากการ สังเกตการณ์ที่ผ่านมาค่อนข้างสูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นเดียวกัน

 

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ยูเอสสมอลแคป SCB US Small Cap Equity Fund (SCBUSSM)

นโยบายการลงทุน
เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ได้แก่ U.S. Small Companies Fund ในสกุลเงินดอลล่าห์สหรัฐ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

Master fund - US Small Companies Fund

-จัดตั้งภายใต้กฎหมายของประเทศไอร์แลนด์ (Ireland) และอยู่ภายใต้ UCITS

-บริหารงานภายใต้ความดูแลของ Dimensional Fund PLC

-มีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทขนาดเล็กในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยพิจารณาว่า บริษัทใดเป็นบริษัทขนาดเล็กจากมูลค่าตามตลาดเป็นสำคัญ และจะกระจายซื้อหุ้นของบริษัทขนาดเล็กผ่านตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ หรือนอกตลาดหลักทรัพย์
แนวทางการเลือกหุ้น : Maximum Opportunity - Universe การลงทุนที่กว้าง

นโยบายจ่ายเงินปันผล : ไม่จ่าย
ความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน : ตามดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน

2กองทุน หุ้นเล็กแต่แซ่บ จากฝั่งยุโรป และ สหัรฐฯ

เน้นการลงทุน ให้เกิด Maximum Performance : จากข้อมูลในอดีต หุ้นSmall Cap ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าหุ้นขนาดกลางและหุ้นขนาดใหญ่ สำหรับระยะเวลาการลงทุนระยะยาว

2กองทุน หุ้นเล็กแต่แซ่บ จากฝั่งยุโรป และ สหัรฐฯ

ส่วนประเด็นหลักที่น่าสนใจมาก ๆๆๆๆ ก็คือ ผู้จัดการกองทุนระดับโลกครับ ที่เคยได้รับรางวัล โนเบล มาแล้วนั่นเองครับ ประหนึ่งว่าเป็น The avenger เลยครับ

2กองทุน หุ้นเล็กแต่แซ่บ จากฝั่งยุโรป และ สหัรฐฯ

คราวนี้เรามาดูอีกกâ

Dr.Nut

Dr.Nut

GURU aomMONEY ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกองทุน การลงทุน และการเงิน

Related Story