ช่วงตอน 4 โมงเย็นนิดๆเรากำลังจะดู Facebook เพื่อตอบคอมเม้นท์แฟนเพจ สรุปว่าเปิดไม่ได้!!

ตอนแรกคิดว่าเน็ตมีปัญหา พอถามเพื่อนในไลท์ก็พบว่าหลายคนเป็นเหมือนกัน

จนมาพบทวีตอันนี้ก็ถึงบางอ้อ เข้าใจละว่าอะไรๆก็เกิดขึ้นได้

 

3 ความคิดจากอาการติด Facebook

 

 

จากเหตุการณ์ Facebook หายไปสักพักทำให้เราคิดได้ว่า....

 

คิดที่ 1 คือ คิดถึง

แฟนฉันหายไปไหน!!

แทบเดือดเลยตอนที่เห็นแท็กรูปแฟนยืนข้างสาวสวยที่ไหนไม่รู้ กำลังกดโหลดรูปดูว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน ทำอะไร อยู่กับใคร ไหนบอกว่าอยู่บ้านแต่เช็กอินที่ทะเลฟวะ กำลังจะรู้อยู่แล้วเชียว แต่อยู่ๆ Facebook ก็หายไปซะงั้น แม่ง....@$#*&^%$

Facebook จบแต่อารมณ์ไม่จบ!! ==> อาจจะต้องเครียกันต่อในโทรศัพท์

ชีวิตประจำวันทุกเช้าที่ลืมตาขึ้นมาก็จับมือถือเป็นอย่างแรก เปิดดูLine IG โน้นนี่นั่นไปเรื่องและส่วนใหญ่จะใช้เวลากับ Facebook มากที่สุด หลายคนจะใช้เวลากับ Facebook เพื่อติดตามข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆของแฟน เพื่อน ดารา เศรษฐกิจ สังคม การเมือง การลงทุนและอีกสารพัดเรื่องที่เราอยากรู้ว่าแต่ละคนไปทำอะไรที่ไหนมาบ้าง อัพเดทข่าวเพื่อน ดูกิจกรรมของดารา ติดตามนโยบายเศรษฐกิจว่ามีอะไรออกมาบ้าง ปัจจัยอะไรที่ทำให้หุ้นขึ้นลง บางคนก็ติดตามความเคลื่อนไหวของแฟนหรือคนที่เราแอบชอบว่าไปทำอะไรมาบ้าง นี่แหละ ถ้าเราไม่มี Facebook เราก็ต้องตัดขาดกับเพื่อน ไม่รู้ความเคลื่อนไหวของคนอื่น แบบนี้ไม่เรียกว่า “คิดถึง” แล้วจะเรียกว่าอะไร T T

 

 

คิดที่ 2 คือ คิดงาน

วันนี้พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทุกคนล้วนตื่นตระหนกตกใจและมัวแต่หาสาเหตุว่า เฮ้ย!! ปิดเพราะอะไร ทำไมหละ!!  มันเกิดอะไรขึ้น!! แทนที่จะใช้เวลาตรงนี้ไปทำงานต่อให้เสร็จกลับต้องเสียเวลางานเป็นเกือบชั่วโมงเพื่อหาสาเหตุ

หลายครั้งที่เรากำลังทำงานแล้วคิดว่าจะพักสายตากับ Facebook คิดว่าจะเปิดอ่านแป๊บเดียว แต่เล่นไปเล่นมาดูเวลาถึงกับตกใจ อ้าว!! นี่กำลังจะเลิกงานแล้วหรอ ยังทำงานไม่เสร็จเลย จากที่คิดว่าจะเล่นแป๊บเดียวก็เลยเถิดเป็นชั่วโมง ถ้าเราห่างกันสักพักกับ Facebook ได้ก็จะทำให้เรามีเวลาคิดงานมากขึ้น เพราะเราจะมีสมาธิทำงาน ตั้งใจจดจ่อกับงานก็ทำงานเสร็จ โย่ๆ

 

 

คิดที่ 3 คือ คิดใหม่

เราควรมีรายได้หลายทาง

เงินหลายล้านจะหายไปวับไปกับตา ถ้าฝากธุรกิจไว้กับที่ใดที่หนึ่งเพียงที่เดียว หลายธุรกิจที่ฝากความหวังไว้กับโลกออนไลน์เพียงอย่างเดียวอาจจะช้ำใจเพราะโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน จากข่าวที่เราเห็นคุณลี..... มาร้องเรียนเรื่องปิดเคเบิล เพราะทำให้เกิดความเสียหายทางธุรกิจ ทำให้รู้ว่า “เราควรมีรายได้หลายช่องทาง” ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ในสัดส่วนที่เหมาะสม ถ้าช่องทางใดหายไปก็จะมีรายได้อีกช่องทางหนึ่งมาทดแทน ในสภาวะที่เราไม่สามารถควบคุมอะไรได้จึงจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์