การเลือกโรงเรียนเหมือนการเลือกสังคมให้ลูก พ่อแม่แต่ละคนวางแผนไว้แล้วว่าต้องการให้ลูกเข้าโรงเรียนอะไร ถ้าต้องการให้ลูกเลือกโรงเรียนเอง เราก็มีความพร้อมเพราะเตรียมเงินไว้หมดแล้ว มีแนวคิดและวิธีเก็บเงินอย่างไร อ่านได้ที่บทความนี้เลยจ้า

เริ่มต้นจาก…

1. ค้นหาข้อมูล

ดูว่าโรงเรียนของลูกมีค่าเทอมเท่าไหร่ จากผู้ปกครองที่รู้จักหรือในเว็บไซด์ประกาศของโรงเรียน

2. ค่าเทอมในอนาคต

เรารู้อยู่แล้วว่าค่าเทอมแพงขึ้นทุกปี แต่ละโรงเรียนแพงขึ้นไม่เท่ากัน เราเก็บเงินเพื่อดักรอค่าเทอมที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ในตัวอย่างนี้แพงขึ้นปีละ 5% ใช้เครื่องคิดเลขการเงินคำนวณแล้วจะรู้ว่าค่าเทอมในอนาคตจะกลายเป็นเท่าไหร่ ไปจนถึงลูกเรียนจบจะต้องใช้งบประมาณกี่บาท

ในตัวอย่างนี้ถ้าให้ลูกเรียนประถม มัธยมและปริญญาตรี ค่าเทอมประมาณนี้ ถ้าหักเงินที่เตรียมไว้แล้ว เราจะต้องจ่ายเงินค่าเทอมประมาณ 1,249,256 บาท ถ้าลูกสอบชิงทุนได้เรียนฟรี พ่อแม่ประหยัดรายจ่าย เงินที่เราเตรียมไว้ก็เป็นของขวัญให้ลูกในวันที่เรียนจบก็ได้จ้า

เราวางแผนว่าอีก 6 ปีจะต้องจ่ายเงินให้ลูกเข้าเรียน ป.1 จากข้อมูลที่ได้มารู้ว่าตอนนี้ค่าเทอมปีละ 50,000 บาท พอเวลาผ่านไปอีก 6 ปี แพงขึ้นปีละ 5% แปลว่าเราจะต้องจ่ายเงินค่าเทอมประมาณ 67,005 บาท 

3. เลือกวิธีเก็บเงิน

ตอนเรียนปริญญาโทที่จุฬาฯ พ่อของอภินิหารเงินออมเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง จากเดิมที่ครอบครัวได้รับเงินบำนาญก็กลายเป็นบำเหน็จก้อนเดียวจบ เราขอแบ่งเงินมาก้อนหนึ่งเป็นค่าเทอม ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆก็หารายได้มาใช้จ่ายเอง

จากเรื่องนี้ทำให้รู้ว่าถ้าพ่อหรือแม่เสียชีวิต ลูกก็จะไม่มีเงินเรียนหนังสือ แต่ถ้าครอบครัวไหนมีประกันชีวิตที่ทุนประกันสูงเท่ากับหรือมากกว่าค่าเทอมของลูก มันเป็นตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้พ่อแม่มั่นใจได้ว่า ถ้าอายุสั้นก็มีเงินก้อนนี้มาดูแลลูกและจ่ายเป็นค่าเทอมให้ลูกเรียนจบตามที่ต้องการแน่นอน

ในตัวอย่างนี้คำนวณค่าเทอมตั้งแต่ลูกเรียนประถมถึงปริญญาตรี เมื่อรวมเงินเฟ้อแล้วใช้เงินทั้งหมดประมาณ 1,840,000 บาท แบ่งวิธีเก็บเงินออกเป็น 2 แบบ

แบบที่ 1 เราเก็บเงินสะสม

ระยะสั้น

ถ้าอีก 1-5 ปีข้างหน้าที่ลูกกำลังจะไปเรียน ควรสะสมเงินที่ความเสี่ยงต่ำ เน้นเงินต้นอยู่ครบ เช่น ออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง ฝากประจำ กองทุนรวมตลาดเงิน

ระยะยาว

มากกว่า 5 ปีขึ้นไป แบ่งเก็บที่ความเสี่ยงปานกลางถึงสูง เพื่อให้เงินช่วยทำงานแทนเรา มีเงินจ่ายค่าเทอมมากขึ้น เช่น กองทุนรวมผสม กองทุนรวมหุ้น ขาย LTF , SSF ที่ครบกำหนดแล้วมาจ่ายค่าเทอมให้ลูก

แบบที่ 2 เงินก้อนสุดท้ายดูแลลูก

ประกันชีวิตเป็นทางออกฉุกเฉินในวันที่พ่อแม่อายุสั้นกว่าที่คิด จะได้มีเงินก้อนนี้ดูแลลูกได้ ความคุ้มครองชีวิตควรพอๆกับค่าเทอมที่ต้องใช้ในอนาคต ในตัวอย่างนี้ใช้เงินค่าเทอมทั้งหมดตลอด 20 ปี รวมเงินเฟ้อประมาณ 1,813,000 บาท เราก็เลือกประกันชีวิตความคุ้มครองที่ใกล้เคียงกับค่าเทอมของลูก เช่น

แบบชั่วระยะเวลา

20 ปี จ่ายเบี้ย 20 ปีๆละ 4,489 บาท ความคุ้มครองชีวิต 1,840,000 บาท ครอบครัวได้รับเงินกรณีเสียชีวิต

แบบประกันควบการลงทุน

ระยะเวลา 99 ปี จ่ายเบี้ยประกัน 10 ปีๆละ 12,000 บาท  ความคุ้มครองชีวิต 1,840,000 บาท ได้รับเงิน 4 แบบ

  • ถ้าทุพพลภาพ เราและครอบครัวได้รับเงินก้อน 1,840,000 บาท มีเงินดูแลตัวเองและจ่ายค่าเทอมลูกได้
  • ถ้าทุพพลภาพแล้วเสียชีวิต ครอบครัวได้รับเงินประกัน 1,840,000 บาทและเงินจากการลงทุนในกองทุนรวม
  • เสียชีวิต ครอบครัวได้รับเงินประกัน 1,840,000 บาทและเงินจากการลงทุนในกองทุนรวม
  • ถอนเงินก้อน ลูกเรียนจบถอนเงินก้อนจากกองทุนรวมมาให้ลูกได้

ถ้าเราอายุยืนมีแรงทำงานสะสมเงินส่งลูกเรียนจบได้ แล้วปิดความเสี่ยงเรื่องอายุสั้นด้วยประกันชีวิต ตอนนี้น่าจะได้แนวคิดวิธีคำนวณเงินค่าเทอมที่จะต้องเตรียมให้ลูกในระยะกลางและยาวแล้วนะคะ อ่านแล้วไม่จำเป็นต้องทำตามเหมือนเป๊ะเพราะแต่ละครอบครัวแตกต่างกัน ควรนำแนวคิดนี้ไปประยุกต์ใช้กับแผนการเงินของตัวเองนะคะ

————

PR : Workshop และ E-book

=> จองเวลา Workshop วิธีจัดการเงินขั้นเทพ @เชียงใหม่ https://bit.ly/2POuvcv

=> E-book “วิธีจัดการเงินขั้นเทพ ฉบับลงมือทำ” สรุปเคล็ดลับวิธีจัดการเงินแบบไม่ต้องคลำทางเอง อ่านแล้วทำ workshop ครบทุกเรื่อง รับรองว่าจัดการเงินดีขึ้นแน่นอน

https://www.facebook.com/miracleofsaving/photos/a.641428715894749/3107277445976518/?type=3&theater

เพจอภินิหารเงินออม