4 กองทุนที่ควรมีไว้อวดสาว

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับเพื่อน ๆ ที่ไม่ได้พบกันมานาน เนื่องจากเป็นเพื่อนกลุ่มผู้ชายล้วน เมื่อสบโอกาสจึงได้พูดคุยถึงเรื่อง จีบสาวกัน ว่าจะทำอย่างไรให้พวกเธอพอใจ สนใจ ซึ่งนอกจาก เรื่องการดูแลเทคแคร์ต่าง ๆ และอุปนิสัยที่จำเป็นในการพูดคุย ในที่สุดก็มาถึงเรื่องว่าเราต้องมีสินทรัพย์อะไรบ้างจึงเป็นที่ยอมรับของสาว ๆ เช่นรถยนต์ บ้าน คอนโด ฯลฯ

เพื่อน ๆ ผมก็เริ่มที่จะมีข้อคิดเห็นต่าง ๆ ที่ค่อนข้างจะฮาพอสมควร ทันใดนั้นเพื่อนคนนึงในกลุ่มก็หันมาหาผม แล้วถามว่า "เฮ้ย !! มีกองทุนอะไรบ้างวะ ที่เอาไว้อวดสาว ๆ ได้ ประมาณว่า บอกไปแล้วกรี๊ดเลย"

ดังนั้นจึงเป็นที่มาของบทความวันนี้ครับ เราจะมีดูกันหน่อยว่ามีกองทุนอะไรที่สาว ๆ เห็นแล้วจะกรี๊ด
บทความต่อไปนี้ เป็นเรื่องของชายหนุ่มนะครับ ท่านผู้อ่านที่เป็นสาว ๆ ห้ามอ่านนะครับ (ผมรู้ว่ายิ่งห้าม เหมือนยิ่งยุ 555+)
อยากรู้แล้วสินะครับ งั้นเรามาเริ่มกันเลย

1. กองทุนทองคำ

หลายคนคงเคยได้ยิน "มีเงินน่ะนับเป็นน้อง มีทองอะนับเป็นพี่" ซึ่งปัจจุบันหลายคนก็ยังคิดแบบนั้นอยู่ใช่ไหมครับ งั้นเรามารู้จักกองทุนทองคำกันก่อนเลยครับว่ามันเป็นอย่างไร

กองทุนทองคำก็คือกองทุนที่ไปลงทุนกับ ทองคำ(กำปั้นทุบดินสุด ๆ ) โดยกองทุนจะเอาเงินของพวกเราไปซื้อทองคำแท่งมาเก็บไว้ในตู้เชฟเลยครับ เรียกได้ว่าลงทุนกับทองคำแท่งจริง ๆ

กองทุนทองคำที่เราจะเจอได้นั้นมี 2 แบบครับ คือ
1.1 กองทุนที่ลงทุนผ่านกองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่ใหญ่ที่สุดในโลกครับ โดยจดทะเบียนอยู่ในตลาดสำคัญ 4 แห่งก็คือ 1 สหรัฐ 2 ญี่ปุ่น 3 ฮ่องกง และ 4 สิงคโปร์ครับ โดยกองทุนSPDR นี้จะซื้อทองคำมาเก็บไว้ในที่ปลอดภัย แต่ก็มีข้อจำกัดเรื่องราคาจากเวลาปิดของตลาดครับ ซึ่งอาจจะไม่ตรงกันได้ครับ เช่นกองทุนทองคำไทยส่วนใหญ่จะลงทุนกับกองทุน SPDR ที่สิงคโปร์ แต่เวลาปิดการซื้อขายของกองทุน อาจจะไม่ตรงกับที่สหรัฐ หรือ ญี่ปุ่นนั่นเองครับ ทำให้ราคาอาจจะผิดเพี๊ยนไปได้เหมือนกันครับ

1.2 กองทุนซื้อทองคำแท่งมาเก็บไว้ในเซฟเอง โดยไม่พึ่งราคาจากหน่วยกองทุน ETF  หรือกองทุนอื่น ๆ โดยข้อดีคือ กองทุนแบบนี้ไม่ต้องไปอ้างอิงราคาปิดจากกองทุนอื่นอีกทีซึ่งจะช่วยลดปัญหาของราคาที่เพี๊ยนไปของกองทุนในข้อแรก และมีรวดเร็วกว่าในการขายหน่วยลงทุน เพราะกองทุนก็แค่นำทองออกมาขายก็สามารถนำเงินมาจ่ายคืนให้กับนักลงทุนได้ทันทีอีกด้วย

ประเด็นที่น่าสนใจ คือทองคำไม่ได้มีดอกเบี้ยให้เรานะครับ อย่าลืมข้อนี้ไป เพราะทองคำเป็นตัวที่เก็บรักษามูลค่าของเงินมากกว่าที่จะเป็นตัวที่ทำผลตอบแทนและให้เงินปันผลนะครับ และอย่างที่ทราบกันครับ ว่าในระยะหลัง ๆ กองทุนทองคำทำผลตอบแทนได้ไม่ค่อยดีนักเนื่องจากว่า เราพึ่งได้ผ่านวิกฤตเศรษฐกิจโลกกันมา ราคาทองคำที่เคยพุ่งอย่างมากเมื่อประมาณ 1-2 ปีก่อน จากการซื้อเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินที่อ่อนตัวของสหรัฐ ทำให้หลังจากที่เศรษฐกิจดีแล้วนั้น ราคาทองคำได้ปรับตัวลงมาอย่างรุนแรง ทำให้หลาย ๆ ท่านในตอนนี้ยังคงอยู่บนดอยทองใช่ไหมครับ (พูดแล้วเจ็บจิ๊ด) ดังนั้นเวลาบอกให้สาว ๆ ทราบว่าเรามีกองทุนทองคำอยู่ อย่าได้บอกเชียวนะครับ ว่าซื้อมาตอนไหน ไม่งั้นสาว ๆ ได้กรี๊ดกันแน่ 55+

2. กองทุนน้ำมัน

แค่ชื่อก็บอกแล้วใช่ไหมครับว่าดูเท่ห์ขนาดไหน ถ้าบอกสาว ๆ ไปว่าเป็นเจ้าของกองทุนน้ำมัน ผู้หญิงหลายคนอาจจะรู้สึกเหมือนคุณผู้ชายที่ถือกองทุนนี้เหมือนท่านชีคของตะวันออกกลางทีเดียวครับ 55+

แต่จริง ๆ แล้ว กองทุนน้ำมันในประเทศเราจะเป็นการลงทุนผ่านทางกองทุนต่างประเทศ(FIF) โดยที่กองทุนที่ได้รับความนิยมก็คือกองทุน DBO หรือ PowerShare DB oil Fund ซึ่งก็เป็นกองทุน ETF เช่นเดียวกับทองคำครับ และเนื่องจากว่าการซื้อน้ำมันมาเก็บไว้ในโกดังดูจะไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่ครับ ถ้ามันระเบิดขึ้นมาจะเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว ทำให้กองทุนน้ำมันนั้นต้องลงทุนผ่านสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ดังนั้นจุดสำคัญ กองทุนเหล่านี้ คือ เจ้าสัญญาล่วงหน้าที่ว่านี้ มีอายุของสัญญาเข้ามาเกี่ยวด้วย ประเด็นสำคัญโดยเฉพาะช่วงเวลาที่กองทุนต่อสัญญาใหม่นั้น อาจจะมีความเสี่ยงให้เราขาดทุนได้ครับ เพราะว่าราคาของน้ำมันในปัจจุบัน จะไม่เท่ากันกับของราคาสินทรัพย์ในกองทุนครับ ซึ่งบางครั้งเราเห็นว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกนั้นปรับตัวขึ้น แต่ไอ้เจ้ากองทุนน้ำมันนี้อาจจะยังไม่ปรับตัวขึ้นตามก็เป็นไปได้ครับ

ดังนั้นกองทุนน้ำมันเราจะไม่ค่อยซื้อเก็บไว้ระยะยาวหรอกนะครับ แต่เราจะเอาไว้เก็งกำไรระยะสั้นมากกว่าครับ (แต่อย่าบอกสาว ๆ นะครับ ว่าเราไม่ได้เป็นเจ้าของน้ำมันโดยตรง แถมยังมีโอกาสขาดทุนกองทุนอีก)

3. กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund)

กองทุนรวมอสังหา ฯ นี้ก็จะไปลงทุนกับ อสังหาริมทรัพย์ซึ่งจะมี 2 รูปแบบคือ

Freehold ที่เป็นกองทุนรวมที่ลงทุนด้วยการซื้อ และนำพื้นที่ หรืออาคารต่าง ๆ มาปล่อยให้เช่า และนำค่าเช่าเหล่านั้นมาจ่ายเป็นเงินปันผล ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ดังนั้น กองทุนรวมจึงมีสิทธิ์เป็นเจ้าของของอสังหาริมทรัพย์ครับ และเมื่อมีการยกเลิกกองทุนแล้ว ก็จะนำอสังหาริมทรัพย์ไปขาย เพื่อนำเงินมาเฉลี่ยคืนให้แก่ผู้ลงทุน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วราคาที่ดิน ของอสังหาฯ ก็จะมีการเพิ่มสูงขึ้นครับ ยกเว้นบางพื้นที่

ดังนั้นการลงทุนในกองทุนเหล่านี้เราควรที่จะต้องไปดูให้เห็นกับตาด้วยนะครับ ว่าสถานที่ที่กองทุนจะไปซื้ออยู่ที่ไหนและ มีความเป็นไปได้อย่างไรบ้างที่กองทุนจะไม่สามารถจ่ายปันผลได้ ซึ่งผมเองก็เคยเข้าอบรมกับ คอร์สอสังหาริมทรัพย์มาบ้างครับ และอาจารย์ที่สอนได้ให้เคล็ดลับมา 3 ข้อครับ คือ 1. ทำเล 2. ทำเล และ 3. ทำเล ครับ(เสียไปหลายหมื่นได้มา 3 คำ) ถึงจะดูเป็นเรื่องตลก แต่เป็นเรื่องจริงและสำคัญมากที่สุดในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เลยนะครับ

คราวนี้เรามาดูกองทุนรวมแบบเช่าอสังหาริมทรัพย์กันบ้างครับ หรือ Leasehold   เนื่องจากเป็นการเช่าจึง ไม่ได้มีความเป็นเจ้าของในอสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุนครับ (อยู่อย่างคนไม่มีสิทธิ์…ก็ผิดตั้งแต่วันที่เราเกิด….โอ้โห้ เพลงบอกอาâ

Dr.Nut

Dr.Nut

GURU aomMONEY ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกองทุน การลงทุน และการเงิน