วี้หว่อออออ!! วี้หว่ออออ !!!

อันตราย อันตราย ปลายเดือนคุณอาจจะไม่มีข้าวกิน


ถ้าเจ้ามะนุดได้ลองทำบัญชีของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ก็อาจจะพอเห็นภาพได้ว่ารายจ่ายของเราหมดไปกับอะไรบ้าง

เจ้ามะนุดคนไหนอยากมีเงินเก็บแต่รายจ่ายก็ยังมากมายอยู่ลองใช้วิธีแบบถุงเงินดูสิ

“ควบคุมค่าใช้จ่ายเป็นส่วนๆ”

ไปดูกันเลยดีกว่า รายจ่ายอะไรบ้าง ที่เราต้องควบคุมให้ดี


"ค่าเดินทาง"

ถ้าไม่ได้ทำงานอยู่บ้าน ยังไงก็ต้องมีค่าเดินทางใช่มั้ยหละ การเดินทางในชีวิตประจำวันก็มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบประหยัดและสะดวกสบาย แต่ถ้าเราไม่ได้มีรายได้สูงมากแต่เลือกการเดินทางที่มีค่าใช้จ่ายสูง แล้วเงินมันจะไปมีหลือได้ไงเล่า

พยายามควบคุมค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
ให้ไม่เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน

ถ้าเราเงินเดือน 20,000 บาท
ก็ควรจะควบคุมรายจ่ายส่วนการเดินทาง
ให้ไม่เกิน 4,000 บาท ต่อเดือนน้า


"ค่าอาหาร"

เจ้ามะนุดนักกินทั้งหลาย ที่หุ่นเหมือนถุงเงิน เดือนๆ หนึ่งคงหมดไปกับค่าอาหารหล่ะสิ แต่ไม่เป็นไรนะถุงเงินเข้าใจ ว่าอาหารอร่อยๆ มันดีต่อใจแค่ไหน ใช่ว่าการจะมีเงินเก็บจะต้องอดอาหารซะหน่อย แต่ควบคุมให้พอดี ก็พอแล้ว

ในส่วนของอาหารแบบมื้อหลักในแต่ละพื้นที่อาจจะมีราคาไม่เท่ากัน  ถ้าใครทำงานกลางเมือง รอบๆ ออฟฟิตก็มีแต่ร้านแพงๆ ลองทำอาหารกล่องมากินเองสิ ก็ช่วยประหยัดไปได้อีกทางหนึ่งนะ และที่สำคัญ เน้นการทานมื้อหลักให้อิ่มไว้ก่อนจะช่วยประหยัดค่าขนมจุกจิกไปได้เยอะเลย

และส่วนของอาหารมื้อพิเศษ บุฟเฟ่ต์ หมูกระทะ จิ้มจุ่ม ชาบู ก็แค่ควบคุมจำนวนครั้ง ให้เหมาะสมกับรายได้เราด้วย ตามใจปากมากๆ ตอนต้นเดือน ปลายเดือนกระเป๋าตังค์จะน้อยใจเอานะ

พยายามควบคุมค่าอาหาร
ให้ไม่เกิน 30 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน

ถ้าเรามีเงินเดือน 20,000 บาท
ก็ควรจะควบคุมค่าอาหาร
ให้ไม่เกิน 6000 บาทต่อเดือน


"ค่าความบันเทิง"

ชีวิตจะมีความสุขได้อย่างไรถ้าไม่มีความบันเทิงแต่ถ้าชีวิตบันเทิงมากเกินไป ปลายเดือนนี้ ไม่บันเทิงแน่นอน

ค่าใช้จ่ายในการดูหนัง ร้องคาราโอเกะ ออกไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ทุกๆ วันศุกร์หรือแม้กระทั่งการซื้อเสื้อผ้า ซื้อรองเท้า มีการซื้อของสะสมต่างๆ ที่เป็นงานอดิเรกของเรา

ก็ค่อนข้างจำเป็นต้องมีเน้าะ แต่สำหรับใครที่อยากมีเงินเก็บมากๆ ไว้แก่ไปจะได้เกษียณแบบสบายๆ ก็ควรลดรายจ่ายส่วนนี้เป็นส่วนแรก สำหรับใครที่ยังชอบความบันเทิงในชีวิตก็ใช่ว่าแก่ไปจะลำบากเสมอไป

แค่ควบคุมค่าความบันเทิงให้เหมาะสม
ให้ไม่เกิน 30 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน

ถ้าเรามีเงินเดือน 20,000 บาท
ก็ควรจะควบคุมค่าใช้จ่ายในส่วนของความบันเทิงนี้
ให้ไม่เกิน 6,000 บาทต่อเดือน


"หนี้สินต่างๆ"

สำหรับเจ้ามะนุดคนไหนที่มีภาระทางหนี้สินแล้ว ไม่ว่าจะเป็นค่าผ่อนบ้านผ่อนรถ  หรือหนี้บัตรเครดิตต่างๆพยายามแบ่งเงินไว้ชำระหนี้ให้เพียงพอในทุกเดือนด้วยนะ

สำหรับสัดส่วนเงินในการแบ่งมาชำระหนี้ ถุงเงินว่า เราไม่ควรมีภาระในการชำระหนี้ เกินกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน แต่ถุงเงินไม่ได้หมายถึงว่าให้จ่ายนี้ไม่ครบนะ แต่เราไม่ควรสร้างภาระหนี้ให้มากขึ้นต่างหาก

ถ้าเรามีเงินเดือน 20,000 บาท
ในส่วนของภาระหนี้สิน
ไม่ควรเกิน 8,000 บาทนะ

แต่ถุงเงินว่า ถ้ามีรายได้เดือนละ 20,000 บาท
อย่าพึ่งรีบสร้างหนี้สินจะดีกว่านะ


“ค่าใช้จ่ายทั้งหมด”

แต่ก็ใช่ว่า เราจะทำให้รายจ่ายทุกอย่าง เยอะจนเต็มลิมิตที่ถุงเงินบอกไว้ สัดส่วนที่ถุงเงินบอกไปข้างต้น เราควรจะยืดหยุ่นได้ตามความจำเป็น ของชีวิตเจ้ามะนุดแต่ละคน

แต่ยังไงซะเราก็ควรมีเงินออมอยู่นะ ควบคุมรายจ่ายทั้งหมด ให้ไม่เกิน 90 เปอร์เซ็นต์ เพื่อที่ว่า 20% เราจะได้ไว้ใช้ออมในแต่ละเดือน

ถ้าเรามีเงินเดือน 20,000 บาท
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็ไม่ควรเกิน 18,000 บาท

แล้ว อีก 2,000 บาท ก็เก็บไว้ใช้ออมในทุกๆเดือน แค่นี้เราก็จะมีเงินเก็บก้อนใหญ่ในไม่ช้า ไว้สำหรับดาวน์บ้าน ดาวน์รถ วางแผนเกษียณ เป้าหมายในชีวิตของเราต่างๆก็จะสำเร็จได้ไม่ยากเลย สู้ๆ นะเจ้ามะนุดดด


#ทำบัญชี
#สัญญานอันตราย #รายจ่ายไม่โอเค #MoneyIdeas