สถานการณ์โควิดทั่วโลกที่น่าเป็นห่วง

สถานการณ์ล่าสุดในปัจจุบันของวิกฤติไวรัส โควิด-19 ทั่วโลกนั้น ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกพุ่งขึ้นสูงกว่า 27 ล้านคน มีผู้ติดเชื้อใหม่วันละกว่า 100,000 คน และเสียชีวิตนับพันคน เสียชีวิตสะสมประมาณ 900,000 คน

โดยในช่วงที่ผ่านมา ดูเหมือนตัวเลขผู้ติดเชื้อ โดยเฉพาะในสหรัฐ, อินเดีย และยุโรป จะยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ มีผู้ติดเชื้ออยู่ในทุกวงการ ไว้เว้นแม้แต่ผู้ที่มีชื่อเสียง อย่างดารานักแสดง เช่น ทอม แฮงส์, ดเวย์น จอห์นสัน (เดอะร็อค) หรือ โรเบิร์ต แพททินสัน  รวมไปถึงนักกีฬาระดับโลกอย่าง เนย์มาร์, พอล ป็อกบา หรือ เคลิยัน เอ็มบ้าบเป้ ต่างก็ตกเป็นเหยื่อของโคโรน่า ไวรัสนี้กันทั่วหน้า

ไทยยังเอาอยู่เรื่องโควิดแต่ก็ประมาทไม่ได้

ส่วนสถานการณ์ในประเทศไทย แม้ตัวเลขจะไม่หนักน่าเท่าที่สหรัฐ หรืออีกหลายๆประเทศ โดยล่าสุดมีตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมอยู่อันดับที่ 122 ของโลก ที่ 3,445 คน เสียชีวิต 58 คน และมีช่วงที่ไม่พบตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศนานถึง 100 วัน แต่เราก็ไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ว่าประเทศเราปลอดภัยแล้ว 100% อย่างแน่นอน เนื่องจากมันก็ยังมีโอกาสที่มีผู้ติดเชื้อที่รอดพ้นการสำรวจไปได้ โดยที่เราไม่รู้  แถมตอนนี้ก็ยังไม่มีวัคซีนที่ได้รับการรองรับในการรักษาไวรัสออกมาอย่างเป็นทางการ และล่าสุดก็กลับมามีผู้ติดเชื้อในประเทศ 1 คน แล้วจนได้

หากเราไม่ระมัดระวัง ร่วมมือกันคุ้มครองตัวเองให้ดี ก็อาจมีสิทธิ์ที่ไทยเราจะกลับมามีผู้ติดเชื้อระลอกใหม่อีกครั้ง ซึ่งหากเกิดขึ้นแล้ว ก็คงยิ่งกระทบต่อธุรกิจ รายได้ และเศรษฐกิจของประเทศให้บอบช้ำยิ่งขึ้นไปอีก

6 วิธีป้องกันไวรัสโควิดเพื่อลดความเสี่ยงต่อชีวิต

เพื่อให้พวกเราทุกคนผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้อย่างแข็งแกร่ง เราจึงควรมีวิธีดูแลตัวเองและหาวิธีเตรียมพร้อมรับมือให้กับชีวิตในทุกๆด้านไว้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเรื่องสุขภาพ การใช้ชีวิต และการเงิน ดังนี้

1. สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน 

รวมไปถึงการกำจัดหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี ด้วยการพับเก็บและมัดให้เรียบร้อย ใส่ถุงให้มิดชิดก่อนทิ้ง หากเป็นหน้ากากแบบซักได้ ก็หมั่นซักทำความสะอาดทุกๆ 5-7 วัน

2. รักษาความสะอาด

โดยใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาด หรือหมั่นล้างมือเป็นประจำ ก่อนและหลังสัมผัสวัตถุภาชนะต่างๆ รวมถึงการใช้ช้อนกลางเมื่อรับประทานอาหาร หรืออุปกรณ์ส่วนตัว ไม่ร่วมกับผู้อื่น

3. เตรียมแผนรองรับค่าใช้จ่าย หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน

โดยการมี “เงินสำรองฉุกเฉิน” ที่เพียงพอ สำหรับสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน อาจจะต้องมีเงินออมสำรองไว้ให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายต่อเดือน ประมาณ 10-12 เดือน ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว หรือค่าใช้จ่ายหมุนเวียนของธุรกิจ นอกจากนั้น ก็ควรพิจารณาทำประกันสุขภาพ แบบที่คุ้มครองค่ารักษาให้ครอบคลุมกับค่ารักษาพยาบาลที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะทั้งจากอุบัติเหตุ จากโรคทั่วไป หรือกระทั่งโรคร้ายแรง ไม่เพียงแต่จากการติดโควิด-19 เท่านั้น เพื่อไม่ให้รายจ่ายจากค่ารักษาที่ไม่คาดฝัน มากระทบจนซ้ำเติมวิกฤติที่เกิดขึ้นอยู่ได้

4. รักษาระยะห่างทางสังคม

ด้วยการทิ้งระยะห่างจากคนรอบข้าง 1-2 เมตร เพื่อให้ห่างจากระยะฟุ้งกระจายของเชื้อ หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมในที่ที่มีอากาศถ่ายเทน้อยร่วมกับผู้อื่น หรือกิจกรรมที่มีผู้คนแออัด

5. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างภูมิต้านทานร่างกายให้แข็งแรง

6. มีแผนรองรับการขาดรายได้ หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน

นอกเหนือจากเรื่องค่าใช้จ่ายแล้ว เราก็ควรเตรียมตัวเพื่อรองรับเรื่องของการขาดรายได้ ไว้อีกทางหนึ่งด้วย เช่น ในกรณีตกงาน ค่าจ้างหรือยอดขายตก ดังนั้น โดยการมองหาโอกาส และสร้างแหล่งรายได้เสริมไว้หลายทาง ไม่ว่าจะจากงานเสริม หรือจากการลงทุน นอกจากนี้ ก็ควรเตรียม “เงินชดเชยรายได้” เผื่อกรณีเจ็บป่วยแล้วต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล ทำให้ไม่สามารถทำงานได้ ด้วยการทำประกันแบบชดเชยรายได้เมื่อต้องนอนโรงพยาบาล

ออกแบบการป้องกันความเสี่ยงด้วยประกัน

การที่มีประกันการชดเชยรายได้แบบนี้ ที่เหมาะกับช่วงภาวะวิกฤติโควิดเป็นพิเศษ ก็เช่น ประกัน “Easy E-Covid-19” จาก FWD ที่จ่ายเงินชดเชยให้เมื่อต้องนอนโรงพยาบาลจากการเจ็บป่วยจาก โควิด-19 เท่านั้น ตั้งแต่วันละ 1,000-3,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 30 วัน รวมถึงมีความคุ้มครองชีวิตจากการเสียชีวิตทุกกรณีให้อีก 100,000-300,000 บาท จาก 3 แผนให้เลือก

โดยความคุ้มครองชีวิต จะคุ้มครองให้ทันทีที่ทำประกัน แต่สำหรับเงินชดเชยจากการรักษาโควิด-19  โดยต้องไม่ติดโควิด-19 มาก่อนทำประกัน และมีระยะเวลารอคอย 14 วัน นับตั้งแต่อนุมัติทำประกัน ถึงจะเริ่มคุ้มครอง ซึ่งจะมีระยะเวลาคุ้มครองทั้งสิ้น 114 วัน สามารถทำได้ตั้งแต่อายุ 20-60 ปี

ยกตัวอย่างเช่น เพศ ญ อายุ 35 มีอาชีพค้าขาย ทำประกัน Easy E-Covid-19 แผน 3 เกิดติดโควิด-19 ขึ้นมาแล้วต้องพักรักษาตัว 20 วัน ก็จะได้เงินชดเชยรายได้ทั้งสิ้นเท่ากับ 3,000 x 20 = 60,000 บาท เพื่อชดเชยการขาดรายได้จากการต้องหยุดทำงานในเดือนนั้น โดยจ่ายค่าเบี้ยเพียง 549 บาท เท่านั้น (ค่าเบี้ยจะแตกต่างกันตามเพศและอายุ)

จุดเด่นของประกันแบบนี้คือ คนที่มีโรคอื่นๆ (ที่ไม่ใช่โควิด-19) มาก่อน ก็สามารถทำประกันตัวนี้ได้ ค่าเบี้ยประกันก็ไม่แพง แค่หลักร้อย และสามารถประกันได้ง่ายทางออนไลน์

แค่คลิกเข้าไปที่ https://ifwd.fwd.co.th/easy-e-covid-19/product-detail

จึงเป็นประกันที่เหมาะเป็นพิเศษ สำหรับคนที่ทำอาชีพอิสระ ที่จะขาดรายได้หากต้องหยุดงาน รวมถึงคนที่มีโรคประจำตัวที่ไม่สามารถทำประกันสุขภาพแบบทั่วไปได้ หรือแม้แต่คนที่มีประกันสุขภาพอยู่แล้ว แต่อยากซื้อเป็นความคุ้มครองเสริม เพื่อรองรับกรณีเจ็บป่วยจากโควิด-19 โดยเฉพาะ ก็สามารถทำได้เช่นกัน

อย่าลืมว่า วิกฤติ โควิด-19 เป็นวิกฤติที่สามารถส่งผลกระทบกับชีวิตของเราได้ ไม่ว่าจะทั้งเรื่องสุขภาพ การงาน หรือการเงิน ดังนั้น เราจึงควรต้องวางแผนเพื่อป้องกันและรองรับความเสี่ยงทุกด้านไว้อย่างรัดกุม หากทุกคนในประเทศเราช่วยกัน ผมเชื่อว่า เราจะก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกันได้อย่างแข็งแกร่ง และปลอดภัยกันทุกคนได้ครับ

บทความนี้เป็น Advertorial