ในวัย 35 ปี สตีฟ แอดค็อก (Steve Adcock) ได้เดินทางมาถึงเป้าหมายอิสรภาพทางการเงินที่ตั้งใจเอาไว้ด้วยเงินเก็บราว ๆ 35 ล้านบาท บ้านไม่ได้รวย และที่สำคัญคือเป็นพนักงานประจำเหมือนกับคนปกติทั่วไปนั่นแหละ

อาชีพนักพัฒนาซอฟต์แวร์แม้จะได้เงินเดือนไม่น้อย แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาตามหาในชีวิต เขาลาออกจากงานและเกษียณ ต่อจากนั้นไม่กี่เดือนภรรยาของเขาก็ลาออกแล้วเกษียณด้วยเช่นเดียวกัน

แอดค็อกช่วงวัยเด็กก็ไม่ได้เรียนเก่งกว่าเด็กคนอื่น ๆ ในชั้น ต้องเรียนหนักกว่าคนอื่นด้วยซ้ำเพราะเขามีภาวะบกพร่องเรื่องการเรียนรู้ ครอบครัวก็ธรรมดาไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่เขาก็บอกว่าแม้ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเกษียณในช่วงวัย 30 ได้เหมือนอย่างเขากับภรรยา เพราะภาระความรับผิดชอบและเป้าหมายในชีวิตของทุกคนก็ต่างกันออกไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการมีอิสรภาพทางการเงินในวัยนี้ก็ทำไม่ได้ซะทีเดียว

แม้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เขาก็เชื่อว่าคุณไม่ต้องเป็นอัจฉริยะทางด้านการเงินก็มีอิสรภาพทางการเงินแบบเขาได้ และที่จริงแล้วถึงแม้ว่าอิสรภาพทางการเงินอาจจะไม่ใช่เป้าหมายของทุกคน แต่ทุกคนก็ต้องการเพิ่มความมั่งคั่งและมั่นคงทางด้านการเงินให้ตัวเองอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเขาเลยแชร์ 6 หลักคิดพื้นฐานเกี่ยวกับการเงินที่ทำให้เขาสามารถเกษียณด้วยวัยเพียง 35 ปีได้

1. ให้อิสรภาพทางการเงินเป็นเป้าหมายแรกของชีวิต

กฎข้อนี้สำคัญมาก ไม่เกี่ยวกับเงิน แต่เป็นเรื่องของความต้องการที่ไปให้ถึงเป้าหมายนี้ต่างหาก

ก่อนหน้าที่จะเกษียณเขาก็ทำงานประจำปกติ เป็นพนักงานที่ทำงานได้ดีตามมาตรฐาน แต่ก็ไม่ชอบไปทำงาน ไม่ชอบการที่มีหัวหน้าและต้องมานั่งรีวิวรายงานประจำปี ประชุมต่าง ๆ เรื่องดราม่าทะเลาะกันในออฟฟิศ และที่สำคัญคือการเดินทางไปทำงานถือว่าเป็นสิ่งที่สิ้นเปลืองพลังงานชีวิตเป็นอย่างมาก เป้าหมายของเขาคือการเกษียณแล้วก็ออกเดินทางทั่วโลก เพราะฉะนั้นในช่วงวัยประมาณ 20 ปลาย ๆ เขาก็ตั้งเป้าหมายชีวิตใหม่ว่าอยากจะเกษียณให้เร็วที่สุด

สิ่งที่เขาทำคือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเรื่องการเงินของตัวเอง แทนที่จะปล่อยให้เงินของตัวเองอยู่เฉย ๆ ก็ไปลงทุนมากขึ้น เก็บเงินเดือนละประมาณ 70% ของรายได้ ตอนแรก ๆ ก็ยากเพราะก็ยังอยากได้เหมือนคนอื่น ๆ แต่พอทำไปเรื่อย ๆ และลองดูว่าสิ่งที่กำลังจะซื้อนั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่จำเป็นหรือต้องการในชีวิตเลย

สิ่งที่เขาเสียไป การไม่ได้ซื้อของที่อยากได้ ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าตัวเองเสียสละหรือพลาดโอกาสอะไร เพราะเป้าหมายใหญ่ของเขาคือการที่จะเกษียณ เขาบอกว่ามันเหมือนเป็นการลดน้ำหนักหรือฟิตหุ่น นั่นแหละ

“คุณจะลดหรือเพิ่มน้ำหนักถ้าเปลี่ยนวิถีการกินและการออกกำลังกาย และคุณก็ต้องอยากได้มาก ๆ เพื่อจะไปให้ถึงตรงนั้น”

2. หาวิธีสร้างรายได้เพิ่มขึ้นเสมอ

แม้ว่ารายได้ของการเป็นพนักงานประจำตำแหน่งนักพัฒนาซอฟต์แวร์ถือว่าไม่เลวนัก เขาก็จะคอยหาวิธีสร้างรายได้ของตัวเองให้มากขึ้นอยู่เรื่อย ๆ แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในออฟฟิศก็ตาม

เขาเริ่มเขียนเกี่ยวกับเรื่องการเงินบนเว็บไซต์ของตัวเอง ซึ่งก็ได้เงินค่าโฆษณามาบ้างเล็กน้อย และหลังจากนั้นภรรยาของเขาก็เริ่มช่องยูทูบที่นำเงินเข้ามาเพิ่ม นอกจากนั้นก็เป็นนักเขียนฟรีแลนซ์ต่าง ๆ ด้วย

ในส่วนของงานหลัก เขาก็ยังคงทุ่มเทให้เสมอเพราะนั่นถือเป็นแหล่งรายได้ที่จะนำเขาไปสู่เป้าหมายที่วางเอาไว้ เขาจะทำงานหนักเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองเหมาะสมกับการขึ้นเงินเดือน 10-15% (ที่เขาขอขึ้นถึงสองครั้งแล้วหัวหน้าก็ตกลง) แล้วพอมีโอกาสตำแหน่งที่ว่างในบริษัท ที่รายได้เยอะกว่าก็สมัครไป ภรรยาของเขาก็ทำเหมือนกันและเมื่อทั้งคู่ช่วยกันเก็บเงินที่ได้รับมากขึ้นเพราะรายได้มากขึ้น แต่ก็ยังใช้จ่ายเท่าเดิม เป้าหมายการเกษียณก็ไม่ได้ดูไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป

3. ลงทุนในทรัพย์สินที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น

การเก็บเงินเยอะ เงินเดือนเพิ่ม หรือการทำอาชีพเสริมเล็ก ๆ น้อย ๆ จะไม่ได้ทำให้คุณเกษียณเร็วขึ้นเท่าไหร่นัก แอดค็อกกับภรรยาจะเอาเงินที่เก็บได้ไปลงทุนในหุ้น อสังหาฯ หรือของสะสมต่าง ๆ

โดยไอเดียก็คือว่าเป็นสินทรัพย์ที่เมื่อเวลาผ่านไป มันจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ง่าย ๆ แค่นั้น

แต่สิ่งที่เขาเน้นคือเรื่องของดอกเบี้ยทบต้น ลงทุนบางอย่าง 100 บาท มูลค่าเพิ่มขึ้น 10% ปีหน้าก็มี 110 บาท ซึ่งถ้าปีต่อไปเพิ่มขึ้นอีก 10% นั่น หมายความว่าปีถัดไปจะมี 121 บาท เพราะฐานของคุณคือ 110 บาท นั่นเอง เขาเชื่อว่าการลงทุนช้า ยังดีกว่าไม่ลงทุนเลย สุดท้ายตอนที่จะเกษียณก็มีเงินเก็บหลัก 1 ล้านเหรียญ หรือเกือบ 35 ล้านบาทเลยทีเดียว

4. อัตโนมัติทุกอย่างที่ทำได้

เมื่อเป็นไปได้ทิ้งทุกอย่างให้ทำงานโดยไม่ต้องไปยุ่งกับมันเมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับเงิน ในบริษัทของเขาจะมีโครงการหักเงินเพื่อไปลงทุนในกองทุนเพื่อการเกษียณให้โดยอัตโนมัติ (ในไทยก็มีเช่นกันอย่างกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ) เพราะฉะนั้นถ้ามีตรงนี้ก็ใช้ประโยชน์ให้เต็มที่

ถ้าจะซื้อหุ้นหรือลงทุนทุกเดือนก็ให้ทำเป็นระบบอัตโนมัติ ค่าใช้จ่ายอันไหนที่เป็นอัตโนมัติก็ให้ตั้งเอาไว้ให้ตัดบัญชี อย่าพึ่งพาตัวเองเพราะเดี๋ยวพลาดต้องมาเสียดอกเบี้ย แถมยังทำให้เครดิตเสียอีกด้วย

5. รู้ว่าเงินเราไปอยู่ตรงไหน

วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการล้างหนี้คือรู้ว่าเงินของเราไปอยู่ที่ไหน ทุกบาทมีค่ามาก ๆ คนส่วนใหญ่ขี้เกียจมานั่งดูว่าแต่ละเดือนจ่ายอะไรไปบ้าง หรือใช้เงินไปตรงไหนบ้าง ซึ่งอันนี้อันตรายมาก ๆ

- ลองไล่ดูใบเสร็จบัตรเครดิตว่าจ่ายอะไรไปบ้าง ต้องเข้าใจว่าเงินแต่ละบาทไปอยู่ตรงไหน หนี้ยังเหลืออะไรอีกบ้างและเท่าไหร่

- เงินที่จะไปซื้อของหรือสิ่งที่อยากได้ ต้องมาหลังจากจ่ายบิลที่จำเป็น และเงินที่จะเก็บเพื่อเป้าหมายการเกษียณแล้วเท่านั้น

- อย่ามองข้ามค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่นการซื้อของออนไลน์ 100-200 บาท บ่อย ๆ เดือนเป็นสิบ ๆ ครั้งก็หลายพันแล้วนะครับ เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการสร้างนิสัยที่ไม่ดีให้กับตัวเองด้วย เข้าสะดวกซื้อ ว่าจะซื้อกาแฟ กลายเป็นได้ขนมติดไม้ติดมือมากินระหว่างวัน แทนที่จะเสีย 30-40 บาท กลายเป็น 100 บาท ไม่รู้ตัว พวกนี้รวม ๆ กันแล้วก็เยอะเช่นกัน

- สมาชิกรายเดือนสำหรับบริการต่าง ๆ พวกนี้อันตรายมาก ไม่ว่าจะเป็นยิม หรือสตรีมมิ่ง หรือบริการอะไรก็ตาม ถ้าใช้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่ใช้ ให้ยกเลิกให้หมด

6. แยกตัวออกจากสิ่งที่คุณไม่ต้องการ

แอดค็อกบอกว่าเขาเป็นคนที่ชอบขับรถมาก มีรถยนต์สองคัน มอเตอร์ไซค์หนึ่งคันที่ขับไปทั่ว ๆ เลยในแต่ละเดือน เสียค่าประกันรถเยอะมาก ๆ เมื่อมานั่งดูค่าใช้จ่าย สุดท้ายหลังจากที่ตั้งเป้าหมายว่าจะเกษียณก็ขายทิ้งหมดเลย เขากับภรรยาตอนนี้ใช้ชีวิตอย่างมัธยัสถ์ ไม่ได้อดอยาก แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร แต่ที่สำคัญคือมีความสุขมาก ๆ ใช้บริการสตรีมมิ่ง ไม่มีเคเบิลทีวี ออกไปกินข้าวข้างนอกเดือนละไม่กี่ครั้ง ซื้อเสื้อผ้าใหม่ ๆ ปีละ 2 ครั้ง โทรศัพท์ถ้าไม่พังก็ไม่รู้จะเปลี่ยนทำไม

แต่แอดค็อกก็บอกนะครับว่าคุณไม่จำเป็นต้องตัดทุกอย่างออกจากชีวิต แต่มันเป็นการจัดเรียงความสำคัญของชีวิตใหม่ต่างหาก อย่างที่บอกตั้งแต่แรกว่าอิสรภาพทางการเงินอาจจะไม่ใช่เป้าหมายของทุกคน แต่หลักการ 6 ข้อนี้จะช่วยทำให้ความมั่งคั่งในชีวิตของคุณเพิ่มขึ้นได้อย่างแน่นอน

สิ่งสำคัญคือการใช้เงินเพื่อซื้อสิ่งที่จะทำให้คุณมีความสุขอย่างยั่งยืน และตัดในส่วนที่ไม่จำเป็นออกไป แต่คุณต้องรู้ด้วยว่าความสุขของคุณที่แท้จริงแล้วคืออะไรกันแน่

อ้างอิง : 

- https://www.cnbc.com/.../early-retirement-millionaire...

- https://www.cnbc.com/.../early-retiree-shares-books-that...

- https://www.cnbc.com/.../stop-wasting-money-on-these-7...