เชื่อว่าทุกคนทราบดีว่าการไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะ นอกจากค่าเทอมและค่าหนังสือที่จำเป็นแล้ว ต้องอย่าลืมเรื่องค่าเช่าบ้านและอาหารต่าง ๆ ด้วย

ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียนต่อมหาวิทยาลัยนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ หลายสิบปีก่อนรุ่นพอ่แม่ของเราก็ไม่ต่างกัน เด็กมหาวิทยาลัยหลายคนต้องใช้เทคนิคต่าง ๆ เพื่อลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ หลายคนเลือกที่จะออกไปทำงานเก็บเงินมาเรียน บางคนอาจจะแชร์อพาร์ทเม้นท์กับเพื่อน บางคนอาจจะเลือกมหาวิทยาลัยใกล้บ้านเพื่อประหยัดค่าเช่าบ้าน บางคนก็ครีเอทีฟกว่านั้นอย่างกางเต็นท์ที่สนามหญ้าข้างโรงเรียน หรือนอนในรถยนต์ก็เคยเห็นมาแล้ว แต่ก็มีหลายคนเช่นกันที่ยอมแพ้แล้วไม่เรียนต่อเพราะสู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว

อัลลัน คอร์เฟลด์ (Allan Kornfeld) ก็เผชิญปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียนมหาวิทยาลัยเช่นเดียวกัน แต่เขาแก้ปัญหานี้ด้วยการแอบสร้างห้องนอนในปล่องระบายอากาศในมหาวิทยาลัยครับ

คอร์เฟลด์ เป็นนักศึกษาเรียนดีจากเมืองทัลซา รัฐโอคลาโฮมา ได้รับทุนเรียนฟรีสี่ปีแรกในมหาวิทยาลัยเยล ที่ตั้งอยู่ในเมืองนิวเฮเวน รัฐคอนเนตทิคัต ซึ่งทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดีจนกระทั่งในปีสุดท้าย หลังจากทุนหมดในปี 1963 เขาต้องไปกู้ธนาคารเพื่อนำเงินมาจ่ายเป็นค่าเทอมเรียนต่ออีกปีหนึ่งเพื่อจะเตรียมตัวสอบเข้าโรงเรียนแพทย์ แม้ค่าเทอมจะรวมค่าอาหารในโรงอาหารแล้ว แต่เงินก้อนนี้ก็ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายสำหรับการเช่าบ้าน ด้วยความที่เขาอยากเรียนต่อ ก็ต้องหาทางแก้ไขปัญหาตรงนี้ให้ได้ (ซึ่งตอนนั้นนักศึกษาที่จบสี่ปีแล้วจะไม่สามารถใช้หอพักของมหาวิทยาลัยได้ด้วย)


เมื่อค่าเช่าบ้านมันแพง ก็ต้องหาทางเอาตัวรอดให้ได้ ในช่วงแรกเขาพยายามใช้ห้องใต้หลังคาของหนึ่งใน 12 หอพักของมหาวิทยาลัย แต่สุดท้ายก็มีคนเห็นเขาเดินเข้าออกอาคาร จึงคนไปแจ้งเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย เขาไหวตัวทันและก่อนที่จะถูกจับได้ก็รีบขนของหนีออกมาก่อน

ทีนี้จะใช้แผนเดิมแล้วย้ายตึกก็ดูจะคงจะหนีไม่พ้นที่จะโดนจับได้อีก เขาต้องใช้ความคิดที่สร้างสรรค์มากขึ้นและต้องหาที่ที่เหมาะกับการซ่อนตัวเงียบ ๆ ไม่มีคนเห็น เป็นเหมือนอพาร์ทเม้นท์ลับของตัวเอง ซึ่งก็บังเอิญไปเจอปล่องระบายอากาศที่สร้างด้วยอิฐ ซึ่งสูงประมาณ 10 ฟุต กว้าง 4 ฟุต และยาว 40 ฟุต (3 เมตร x 1.2 เมตร x 12.2 เมตร) เพียงพอที่จะวางเตียงและตู้เล็ก ๆ ของตัวเอง ตรงนี้เป็นช่องลมที่ไปยังสนามสควอชของโรงเรียนที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านไปมาด้วย ซึ่งน่าจะเพียงพอสำหรับใช้หลับนอนเพื่อเรียนต่อให้จบในปีสุดท้าย

ถึงแม้ว่าทางเข้าปล่องระบายอากาศอันนี้จะถูกซ่อนไว้ค่อนข้างดี แต่เขาตัดสินใจที่จะปิดบังให้มันมิดชิดขึ้นด้วยการนำแผ่นไม้อัดที่แปะกระดาษวอลเปเปอร์รูปผนังอิฐมาบังเอาไว้เพื่อให้ยากต่อการสังเกตด้วย นอกจากตัวเขาแล้วก็มีเพียงเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ทางเข้าอพาร์ทเม้นท์ลับของคอร์เฟลด์

เขานำเตียง ตู้ นาฬิกา และวิทยุมาตบแต่งห้อง ส่วนใหญ่แล้วระหว่างวันก็จะใช้เวลาอยู่ที่ห้องสมุด หรือบ้านของเพื่อนบ้าง ส่วนใหญ่ห้องลับของเขาก็แค่เอาไว้นอนเฉย ๆ เขาบอกว่า

“กลางคืนที่หนาวมาก ๆ ก็ใช้ผ้าห่มไฟฟ้า แต่การระบายอากาศถือว่าไม่มีปัญหาเลย ที่จริงมันก็ไม่แย่มาก”

อีกอย่างหนึ่งที่เขาทำเพื่อไม่ให้ถูกจับได้ก็คือการใช้ที่อยู่ข้างนอกมหาวิทยาลัยในการรับจดหมาย และถึงแม้ว่าอาจจะมีคนสงสัยบ้าง แต่จนกระทั่งเรียนจบเขาก็ไม่เคยถูกจับได้เลย

เขาตัดสินใจเปิดเผยความลับหลังจากเรียนจบและย้ายออกไปแล้ว (สำนักข่าว The New York Times ลงเอาไว้ด้วย) โดยแม่ของเขาก็ให้สัมภาษณ์กับเรื่องนี้ด้วย เธอบอกว่า

“อัลลันโทรมาหาเราก่อนที่เรื่องนี้จะถูกเปิดเผยว่าให้เตรียมรับมือถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นด้วย เขาทำเพื่อจะพิสูจน์บางอย่าง เขาอยู่แบบนั้นเพราะไม่อยากให้เราต้องใช้เงินเพื่อจ่ายค่าเช่าบ้านให้เขานั่นแหละ”

แม้ว่าจะเป็นข่าวใหญ่และได้รับความสนใจค่อนข้างมาก แต่มหาวิทยาลัยเองก็ไม่ได้เอาโทษอะไรกับคอร์เฟลด์ เพราะหลังจากเรียนจบก็ยังกลับไปที่มหาวิทยาลัย ทำงานที่นั้นเล็กน้อยก่อนจะไปเรียนแพทย์ต่อ ซึ่งการที่เขาย้ายออกหลังจากเรียนจบก็น่าจะเป็นสาเหตุว่าทำไมมหาวิทยาลัยจึงไม่เอาเรื่อง (ถ้าอยู่ถาวรคงมีปัญหา)

เรื่องของคอร์เฟลด์จบลงแค่นี้และไม่มีใครได้ยินข่าวคราวของเขาอีกเลยหลังจากนั้น ซึ่งหลายคนก็เชื่อว่าเขาน่าจะได้เป็นแพทย์เหมือนอย่างที่ตั้งใจไว้ แต่เรื่องของคอร์เฟลด์ก็เป็นบทเรียนที่ดีชี้ให้เห็นว่าเราทุกคนเผชิญหน้าปัญหาด้วยกันทั้งสิ้น มากน้อยต่างกันออกไป บางคนเลือกที่จะยอมแพ้ ไม่เรียนเพราะไม่มีเงิน แต่บางคนเลือกที่จะกู้เงินมาจ่ายค่าเทอม และสร้างบ้านในปล่องระบายอากาศ

========

The New York Times

Historian Andrew

Boing Boing

Weird Universe