รถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นอุตสาหกรรมดาวรุ่งที่กำลังเติบโตอย่างร้อนแรงในเวลานี้ เราเห็นแบรนด์ใหญ่ ๆ อย่าง Tesla หรือ BYD ที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อจะขยายตลาดและสร้างฐานลูกค้าใหม่ บริษัทอื่นๆ แม้ไม่ได้เป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าก็พยายามเข้าเกาะเทรนด์นี้และหวังจะเติบโตไปกับคลื่นธุรกิจลูกใหม่ครั้งนี้ด้วย

วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) นักลงทุนผู้มีชื่อเสียงและร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งของโลกก็ทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดี นั่นคือเหตุผลที่ Berkshire Hathaway บริษัทโฮลดิงของเข้าไปซื้อหุ้น BYD บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าของจีนตั้งแต่ปี 2008 และสร้างผลตอบแทนได้กว่า 3000% ในช่วงเวลาที่ผ่านมา (แม้ตอนนี้จะเริ่มทยอยขายไปบ้างแล้วก็ตาม)

ความกังวลและคำถามหนึ่งสำหรับเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าหรือกำลังชั่งใจว่าจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าดีรึเปล่าคือเรื่องของสถานีชาร์จรถนั่นแหละครับ เพราะไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าขับรถไฟฟ้าแล้วแบตหมดกลางทางหาที่เสียบชาร์จรถไม่ได้อีกแล้ว

ซึ่งนี่อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งว่าทำไมล่าสุดเดือนมกราคมที่ผ่านมาบริษัท Berkshire Hathaway ได้ตัดสินใจทุ่มเงินกว่า 8,200 ล้านเหรียญ หรือราว ๆ 288,000 ล้านบาท เพื่อจะซื้อหุ้นของบริษัท “Pilot Travel Centers” ผู้ให้บริการจุดท่องเที่ยวและพักรถที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกามากกว่า 650 สถานี จนตอนนี้ถือหุ้นของบริษัทแล้วกว่า 80% (ทยอยซื้อมาตั้งแต่ปี 2017 ตอนนั้นถืออยู่ราว ๆ 38.6%)

ในอเมริกานั้นการเดินทางระหว่างเมืองด้วยรถยนต์ถือเป็นเรื่องปกติ และระหว่างทางก็จะมีจุดพักรถที่เรียกว่า ‘Rest Stop’ เป็นระยะสำหรับคนขับรถ และ Pilot ก็เป็นเจ้าใหญ่ที่ให้บริการจุดพักรถเหล่านี้ โดยตรงนี้ก็จะมีปั๊มน้ำมัน ร้านขายอาหาร ของที่ระลึก ของว่าง ฟาสต์ฟู้ด ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ หรือแม้แต่ตู้ซักผ้าหยอดเหรียญพวกนี้ก็มีเช่นกัน

รายได้ของ Pilot ถือว่าไม่ธรรมดาเช่นกัน เพราะรายได้เติบโตจาก 20,000 ล้านเหรียญในปี 2017 มาเป็น 45,000 ล้านเหรียญในปี 2021 และมีกำไรก่อนหักภาษีกว่า 1,000 ล้านเหรียญเลยทีเดียว

ที่สำคัญคือล่าสุดปีที่ผ่านมา Pilot ได้ร่วมมือกับแบรนด์ผลิตรถยนต์เจ้าใหญ่อย่าง GM (General Motors) เพื่อจะสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 2,000 แห่งภายในปี 2026 และกำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจารูปแบบเดียวกันกับ Volvo เพื่อสร้างสถานีชาร์จรถบรรทุกไฟฟ้าในแบบเดียวกันด้วย แน่นอนว่าการที่ Berkshire Hathaway เข้ามาถือก็จะได้ประโยชน์จากการร่วมมือนี้อย่างแน่นอน

บัฟเฟตต์เป็นนักลงทุนที่มองการณ์ไกล การลงทุนที่ผ่านมาล้วนสร้างผลกำไรได้อย่างมหาศาล ตั้งแต่ American Express, Coca-Cola หรือ Apple แม้ว่ชาช่วงปี 2020-2021 Berkshire Hathaway จะเน้นหนักไปทางขายหุ้นที่ตัวเองถืออยู่เพื่อทำกำไรซะมากกว่าซื้อเข้ามาเพราะยังไม่เห็นโอกาสในการลงทุนครั้งใหม่ เริ่มกลับมาลงทุนในปี 2022 รวมแล้วกว่า 34,000 ล้านเหรียญในขณะที่ตลาดหุ้นเริ่มร่วงหนัก ซื้อบริษัทประกัน Alleghany ไปด้วยเงิน 12,000 ล้านเหรียญและซื้อหุ้นบริษัทคืนอีก 8,000 ล้านเหรียญ

ส่วนปี 2023 ก็เริ่มต้นมาด้วยการซื้อหุ้นของ Pilot ไป 8,200 ล้านเหรียญ และซื้อหุ้นบริษัทคืนไปแล้ว 700 ล้านเหรียญ เพราะฉะนั้นปีนี้เราน่าจะเห็นการขยับตัวของ Berkshire Hathaway มากขึ้น ซึ่งสำหรับนักลงทุนทุกคนแล้วก็น่าจะเป็นสัญญาณที่ควรจับตามองไม่น้อยเลยทีเดียว

=====

Business Insider

Business Insider