สวัสดีครับ ขอต้อนรับสู่คอลัมน์เกรย์วิว บทสัมภาษณ์กูรู คนดัง คนที่มีชีวิตพัง เอ้ย!! ชีวิตดี๊ดี แบบที่ไม่มีใครเหมือน รับประกันความเสียวแซบแลบแปล้บตามสไตล์พี่เกรย์แมนแห่งออมมันนี่ คอลัมน์แบบนี้ต้องรีบติดตามกันนะครับ กด Like AomMoney Fanpage และอย่าลืมแชร์ให้คนอื่นอ่านด้วยครับ เค้าจะได้รู้ว่าเราฉลาด ทังๆที่จริงๆเราอาจจะโง่กว่านั้นเยอะก็ได้

ประเดิมวันนี้เรามาสัมภาษณ์กูรูสดๆใหม่ ที่เข้าร่วมทีมออมมันนี่ ในนามของพี่แบต ซึ่งจะมาเขียนบทความเรื่องกีฬาแบตมินตันให้พวกเราฟัง ไม่ใช่ (ตึงโป๊ะมึงจะตลกก็ไม่บอก)

พี่แบต คือกูรูด้านการเงินและอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของเมืองไทย ที่มีผู้ติดตามทางเฟสบุ๊กมากกว่า 65,000 กว่า คน อยากรู้จักพี่แบตแล้วใช่ไหม ถ้าไม่อยากรู้จักก็หัดรู้จักคนเก่งๆไว้บ้างนะครับ เพราะบางทีเราคบแต่คนโง่ชีวิตก็เลยเป็นแบบนี้

เอ้า.. พี่แบตแนะนำตัวให้กับคนรู้จักหน่อยครับ ส่วนคนที่ไม่อยากรู้จักพี่ ด่ามันเลยครับพี่

(อึ้งไปแปป) พี่ชื่ออนุพงศ์ ชัยยะราษฎร์ ครับ ประสบการณ์ทำงาน  พี่ทำในบริษัทข้ามชาติมาโดยตลอดน่ะ ทำมาทางด้านการเงิน สายบัตรเครดิต ผ่านมาแล้วมากมายทั้ง Citibank , AIG และก็ย้ายมาอยู่ที่ GE จนสุดท้าย GE ขายให้กับแบงค์กรุงศรี ทำมาประมาณทั้งหมด 15 ปีแล้วครับ

หู้ว !! บริษัทข้ามชาติ ทำไมเป็นคนแบบนี้ครับ เราจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง แล้วทำไมพี่แก่จังเลย (หลังจากนั้นผมก็โดนโบกกระบาลไป 1 ที)

กลับมาเข้าเรื่องกันต่อครับผม...
ประสบการณ์เม่า เอ้ย !! ประสบการณ์ทางด้านลงทุนเป็นยังไงบ้างครับ

พี่เริ่มต้นจากการลงทุนในหุ้นก่อนครับ โดยจะลงทุนในพวกหุ้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดกำลังบูม ทำให้ได้กำไรดี แต่ว่า พอลงทุนไปซักพักก็เกิดความย่ามใจ เปลี่ยนไปลงทุนพวกหุ้นปั้น และหุ้นพรายกระซิบ จนทำให้พอร์ทที่มีต้องติดดอยไป สุดท้ายแล้วก็ใช้เวลาเกือบ 10 ปีในการทยอยขายกว่าจะได้กำไร

ผมเดาว่า พี่ก็ไม่น่าจะลงทุนหุ้นเก่งนะครับ สงสัยเป็นแบบนี้ เลยมาเอาดีด้านอสังหาใช่ไหมล่า คิคิคุคิ แล้วปัจจุบันพี่ยังเป็นเม่า เอ้ย ติดดอย เอ้ย ลงทุน เอ้ย ถูกแล้ว!!

ปัจจุบันก็ซื้อบางครับ แต่เป็นสัดส่วนที่น้อย แค่ 4-5 ตัวเท่านั้นเอง (หุ้นหรือปลาในตลาดครับพี่)

หลังจากที่พี่แบตขาดทุนจากการลงทุนหุ้นแล้ว ยังลงทุนอะไรเพิ่มเติมอีกครับ เผื่อผมจะไม่ไปลงทุนตามครับ

 

ก็มีลงทุนในพวกกองทุนรวม เป็นสัดส่วนที่เยอะหน่อย พี่ก็ลงทุนพวก LTF กับ RMF และกองทุนตราสารหนี้ ซึ่งข้อดีของตราสารหนี้ คือ ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากประจำ และไม่ต้องเสียภาษี 15 % ด้วย จนปัจจุบันพอร์ทเงินระยะสั้นและกลางจะอยู่ในรูปของตราสารหนี้เกือบหมด

ผมรู้ พี่ลงหุ้นก็เจ็ง กองทุนก็หวังพึ่งผู้จัดการกองทุน วางแผนลดภาษีไปงั้นๆ แล้วอะไรที่ทำให้พี่เริ่มต้นมาลงทุนในอสังหาล่ะครับ

เอาจุดเริ่มต้นก่อนน่ะครับ  (ครับผมคงถามจุดจบมั้งพี่) มีพี่ที่ทำงานมาชักชวนให้ลงทุนคอนโดแถวพระราม 9 เพราะได้ผลตอบแทนดี และหาคนเช่าได้ง่าย หลังจากที่ได้ผลตอบแทนประมาณ 8-9 % เนี่ยแหละ จึงทำให้มาศึกษาและลงทุนอสังหานับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พี่รู้สึกว่าอสังหาเหมาะกับการลงทุนของพี่ คืออะไร อสังหาเป็นทรัพย์สินที่มีลักษณะเป็นเงินเย็น ที่สอดคล้องกับข้อดีของมนุษย์เงินเดือน คือ ลงทุนได้ส่วนหนึ่งและ สามารถกู้ธนาคารได้อีกส่วนหนึ่ง

อ่า.. ครับแล้วทำไมพี่ถึงมาเปิดเพจ Maibat ข้อคิดทางการเงินละครับ พี่ลงทุนคอนโดแต่ดันจะมาเปิดเพจให้ความรู้การเงิน แหม่คิดจะรวยทางลัด หาตังค์ค่าเลี้ยงดูลูกหรือเปล่าครับ  (กูจะโดนตบไหมว่ะเนี้ย)

เปล่าครับ (ทำไมพี่เป็นคนดีจังวะครับ) พี่แค่อยากจะแชร์ข้อคิดในการทำงานของพี่ครับ โดยตั้งแต่ปีแรกของการทำงาน พี่จะทำการบันทึก ทรัพย์สิน หนี้สิน การออมเงิน ตั้งแต่ปีแรกของการทำงาน  จดใน Excel มาตลอด 10 ปี เพราะคิดว่าการวางแผนการเงินอย่างมีเป้าหมายทำให้ พี่สามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้อย่างแม่นย้ำตามเป้าหมายที่วางไว้  ซึ่งพี่ก็ทำมาเรื่อยๆ จนทรัพย์สินที่มีก็เติบโต ขึ้นประมาณ 100 เท่าได้ (โหพี่แม่มเจว๋งว่ะ)

พี่เลยอยากที่จะแชร์ความรู้ตรงนี้  จึงเขียน 18 ข้อคิด เอาประการณ์เหล่านั้นลงในพันทิป จนกระทู้ก็ขึ้นอันดับกระทู้พันทิปไม่ว่าจะเป็นห้อง สินธร สีลม และชายคา พอเพื่อนเห็นว่ากระทู้ขึ้นพันทิป และตัวพี่เองมีวิธีการเขียนที่โอเค เลยไปปรึกษาน้องสาวและทำการลงทะเบียนเปิดเพจให้เรียบร้อยเลย โดยผลตอบรับหลังจากเปิดเพจคือ 8 เดือนมียอดไลค์หลักหมื่น โดยส่วนมากคนที่ไลค์จะมาจากพันทิปครับ

ฟังแล้วได้ข้อคิดดีนะครับ แต่ตอนนี้ผมคงต้องรีบมีน้องสาวบ้างแล้วครับ เวลาเปิดเพจจะได้ให้น้องทำให้ (พี่แบตทำหน้าแบบว่ามึงไปตลกที่อื่น)

เอางี้ครับพี่ ผมถามตรงๆมีหลักที่ทำให้รวย คอนโดป่ะพี่แบบว่า รวยเร็วอ่ะ เหมือนพวกกูรูโน้นนี่นั้นครับ

เออ เราก็ใจเย็นๆ หน่อย  (ครับพี่ครับ) หลักที่พี่ลงทุนเนี้ยไม่รวยเร็ว แต่ว่ารวยอย่างมั่นคง โดยพี่ก็จะแบ่งเป็น 11 ข้อนะ คือ

  1. ทำเล  : คนทั่วไปอาจจะซื้อใน ซอยบ้าน แต่ พี่จะซื้อติดริมถนนใหญ่เลย เพราะว่าทำเลริมถนนไม่ต้องใช้การโฆษณามากมายๆ คนชับรถผ่านไปผ่านมาก็จดจำได้ง่าย อีกทั้งคอนโดที่ติดริมถนนนั้นจะปลดล็อคเรื่อง EIA ไปได้ครึ่งหนึ่งเพราะไม่ใกล้ชุมชน วัด เป็นต้น
  2.  3 อย่าง : ปัจจัย 3 อย่างที่ต้องมีหรือมีอย่างใดอย่างหนึ่งคือ อยู่กลางเมือง  ใกล้รถไฟฟ้า เห็นวิวแม่น้ำ  ซึ่งตลาดที่สนใจจะเป็นตลาด mass segment ราคาประมาณ 1-3 ล้านบาท/Unit

ที่สำคัญเราต้องดูเรื่องของศักยภาพของทำเล ก่อนด้วยว่ามีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่หรือเปล่า เช่น มีรถไฟฟ้าผ่านหรือไม่ มีโครงการห้างสรรพสินค้า เพราะเหล่านี้คือปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของคน (รถไฟฟ้า  = การเดินทาง , ห้างสรรพสินค้า = การ Shopping , สถานที่ทำงาน = การเดินทางและเวลา)

สมมติอยู่กลางเมือง ไม่ใกล้รถไฟฟ้า ไม่ใกล้ห้าง ไม่ใกล้ออฟฟิศ พี่จะยกตัวอย่างของ LPN พระราม 9 ห่างรถไฟฟ้าเกือบกิโล แต่รถไฟฟ้าวัดเป็นเมตร ส่วนห้า