ถ้าพูดถึงเทคโนโลยีที่มาแรงสุดๆในตอนนี้คงต้องยกให้กับ Generative AI โดยเฉพาะการมาของ ChatGPT ที่ทำให้เราสามารถลดระยะเวลาการทำงานต่างๆลงไปได้อย่างมาก และยักษ์ใหญ่ไอทีของโลกต่างพุ่งเป้ามาที่เทคโนโลยี้นี้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสองยักษ์อย่าง Microsoft และ Alphabet

โดยฝั่ง Microsoft ถือว่าออกตัวก่อนจากการเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท OpenAI เจ้าของ ChatGPT ที่ได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใส่ในโปรดักต์อย่าง Bing ซึ่งเป็น Search Engine และ Edge ซึ่งเป็น Web Browser และกำลังจะนำมาใส่ในโปรดักต์อื่นๆอย่าง Microsoft Team ต่อไป

ทางฝั่ง Alphabet ก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน ประกาศเปิดตัว Bard ซึ่งเป็น AI ChatBot แบบเดียวกับ ChatGPT รวมถึงนำเอไอมาใส่ในโปรดักต์ของตัวเองไม่ว่าจะเป็น Google Search ตลอดจนชุดการทำงาน Google Workspace เพื่อหวังที่จะดึงฐานผู้ใช้งานให้ยังอยู่ต่อไปไม่หนีไปใช้งานทางฝั่ง Microsoft

ในเชิง Business Model ในฝั่งของ B2C หรือกลุ่ม Consumer ต้องยอมรับว่า Alphabet หรือ Google มีมาร์เกตแชร์ที่สูงกว่า Microsoft อย่างไม่เห็นฝุ่นไม่ว่าจะเป็น Search Engine หรือ Web Browser ส่วน Microsoft มีตลาดหลักคือลูกค้าบริษัทหรือ B2B มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ Cloud หรือระบบปฎิบัติการ Office

การที่ Microsoft หันมารุกที่จะนำเอไอมาใส่ในโปรดักต์ของ Consumer ชัดเจนว่าต้องการที่จะดึงมาร์เกตแชร์ของ Google ลงมาเพื่อที่จะเพิ่มรายได้ในส่วนของ B2C ให้มากขึ้น ในช่วงแรกต้องยอมรับว่า Microsoft เปิดตัวได้น่าสนใจกว่า แต่ช่วงหลังมานี้ Alphabet ได้โต้คืนอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะรักษาฐานลูกค้าของตัวเองไว้

ทางด้านราคาหุ้นของสองบริษัทนี้ต่างปรับตัวขึ้นทั้งคู่นับตั้งแต่ประกาศชัดเจนที่จะพัฒนาด้านเอไอและเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ดัชนี NASDAQ ปรับตัวขึ้นกว่า 20% ตั้งแต่ต้นปี จึงค่อนข้างชัดเจนว่าเอไอคือ Growth Engine ใหม่ของทั้ง Microsoft และ Alphabet ที่ดึงความสนใจของนักลงทุน

คำถามจากนักลงทุนคือถ้าต้องเลือกลงทุนเพียงบริษัทเดียวที่ได้รับประโยชน์จากเอไอจะเลือกลงทุนใน Microsoft หรือ Alphabet ?? ถ้าหากมองว่าเกมส์นี้ Microsoft มีแต่ได้กับได้จากแนวโน้มที่จะสามารถเพิ่มฐานลูกค้ารายย่อยให้มาใช้งาน Bing กับ Edge มากขึ้นซึ่งจะกินมาร์เกตแชร์ของ Google ลง ในขณะที่ฐานรายได้หลักจากลูกค้าองค์กรยังทำได้ในระดับปกติก็ต้องมองว่า Microsoft มีความน่าสนใจไม่น้อย

เพราะ Alphabet อยู่ในฐานะที่ต้องรักษามารเกตแชร์เอาไว้ให้ได้ เนื่องจากรายได้หลักของบริษัทเกือบทั้งหมดมาจากโปรดักต์ของ Google ถ้ามาร์เกตแชร์ในโปรดักต์อย่าง Search Engine,Web Browser หรือแม้แต่ Workspace และ Gmail ถูกดึงไปทางฝั่ง Microsoft มากขึ้นก็มีโอกาสที่รายได้จะลดลงเช่นกัน

อย่างไรก็ตามยังต้องจับตาว่า Alphabet จะสามารถแก้เกมส์นี้ได้ดีแค่ไหนเพราะถึงอย่างไรก็ยังครองความได้เปรียบในฐานะผู้ที่เป็นเจ้าของฐานข้อมูลบนโลกออนไลน์ที่มากกว่า Microsoft ถ้าหากเทคโนโลยีถูกพัฒนาขึ้นมาในระดับเดียวกันก็ยากที่ Microsoft จะสามารถแย่งตลาดได้

แต่ไม่ว่าจะเป็น Microsoft หรือ Alphabet ก็ถือว่าน่าสนใจทั้งคู่กับการเป็นผู้นำในเทคโนโลยีเอไอที่ยากจะมีคู่แข่งตามทันแม้แต่ Meta ที่มีฐานข้อมูลจำนวนมหาศาลแต่ถือว่าออกตัวได้ช้ากว่า ในแง่การลงทุนถือว่าทั้งสองตัวมีความน่าสนใจทั้งคู่แล้วแต่แฟนคลับจะเลือกฝั่งไหน

เพราะค่อนข้างเป็นที่แน่นอนแล้วว่าเอไอจะเป็น Growth Engine ใหม่ของสองบริษัทนี้อย่างน้อยก็อีก 2-3 ปีแน่นอนเราจึงยังคาดหวังการเติบโตจากหุ้น Microsoft และ Alphabet ได้อยู่

===============
ผู้เขียน : นเรศ เหล่าพรรณราย
ซีอีโอ Ricco Wealth เจ้าของเพจ Editor Gap Investment Talk
(เพจ : https://www.facebook.com/editorgap)
(youtube : https://www.youtube.com/@RiccoWealth)
===============