Model การสร้างความมั่งคั่งเพื่อสร้าง Active และ Passive Income
บทความนี้ผมสรุปประเด็นจากหัวข้องานสัมมนาที่ผมไปเป็นวิทยากรนะครับ โดยวัตถุประสงค์ของงานสัมมนานั้นจัดเพื่อให้ นักศึกษาที่กำลังเรียนอยู่และผู้ที่อยู่ในวัยเริ่มต้นทำงาน อายุไม่เกิน 25 ปี ก็เป็นการแชร์ประสบการณ์ของผมในแง่ของการทำงานและการลงทุนสร้างรายได้ในยุค 4.0 ที่กำลังมาถึง
รูปภาพข้างล่างนี้คือ Model ชีวิตในการสร้างความมั่งคั่ง ซึ่งจะประกอบด้วย 2 ส่วน
ส่วนที่ 1 คือการเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างรายได้จากการทำงาน (Active Income) วิธีคิดที่ทำให้เราก้าวหน้า มีรายได้ที่มากขึ้น หรือหากเราทำงานอิสระก็จะสามารถต่อยอดด้วยเครื่องมือต่างๆที่ใช้เทคโนโลยีในปัจจุบัน
ส่วนที่ 2 คือการเพิ่มความมั่งคั่งจากการลงทุนในทรัพย์สินให้เกิดดอกผล (Passive Income) และการพาตัวเองไปสู่เป้าหมายทางการเงินได้อีกด้วย ส่วนนี้ผมจะพูดถึงบ่อย โดยเฉพาะเรื่องการวางแผนเกษียณในระยะยาวที่สร้างหลักประกันทางการเงิน
ทั้ง 2 ส่วนที่กล่าวมานั้นจะสร้างรายได้ให้กับเรา ซึ่งเราจะต้องจัดการแผนเงินของเราให้ดีและหากเราสามารถสร้างเงินออมได้แล้ว มันจะสามารถใช้หมุนไปเรื่องของการลงทุนต่างๆ และกลับมาเป็นรายได้อีกทางให้กับเรา ตัวอย่างง่ายๆคือมีเงินลงทุนและได้รับ ดอกเบี้ย เงินปันผลกลับมาเป็นรายรับในชีวิต
ทีนี้เราจะพัฒนาให้มันดีขึ้นอย่างไร?
Active Income
การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้เป็นมืออาชีพ
รายได้ของแต่ละคนและแต่ละอาชีพนั้นไม่เท่ากัน หากเราวิเคราะห์เจาะลึกลงไปจะเห็นว่าอาชีพที่ใช้แรงในการทำงานโดยไม่ได้มีทักษะใดๆประกอบในการทำงาน มักจะได้เงินเดือนและรายได้น้อย เนื่องจากแรงงานนั้นเป็นสิ่งที่สามารถหาของทดแทนได้ไม่ยาก มีราคาตลาดค่าแรงรองรับและมีทางเลือกอื่นๆของผู้จ้างที่จะตัดสินใจไม่ว่าจะเป็นการจ้างคนใหม่ การใช้เครื่องทุนแรง เป็นต้น
ในขณะที่การพัฒนาตัวเองไปสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะนั้น จะทำให้โอกาสในการถูกแทนที่ลดลงเพราะเกิดความเป็น Specialist หรือ ผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้นๆมากขึ้น มีโอกาสต่อรองในเรื่องค่าแรงฝีมือการทำงานได้
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร อดัม สมิท เคยบอกมาเป็นร้อยๆปีแล้วว่าการเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาใดๆ มันทำให้เราเกิดประสิทธิภาพในการทำงาน คนจ้างก็ไม่ต้องลองผิดลองถูก จ้างผู้เชี่ยวชาญมาค่าตัวอาจจะแพง แต่ลดต้นทุนความเสียหายจากความไม่รู้ได้เยอะกว่าได้ อีกทั้งประสิทธิภาพที่เกิดขึ้นจะมาในแง่ของ Productivity และ Innovation ด้วย ในส่วนนี้เราก็ต้องวางแผนชีวิตของเราว่าจะไปในทางไหนและต่อยอดในเส้นทางนั้นๆ และพยายามดีดตัวเองออกมาจากการทำงานที่ใช้แรงงานทั่วๆไป
การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้เป็นมืออาชีพในยุค 4.0
ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าโลกเรามันเปลี่ยนเร็วมากๆ สิ่งที่เราทำๆอยู่ในวันนี้ อาจจะถูกเทคโนโลยีมาแทนที่ (Technology Disruption) ที่ทำให้เราอยู่ๆก็ตกงานก็ได้ เช่น เราอาจจะทำงานเป็นพักงานขายของที่ร้านค้า แต่อยู่ๆระบบ Platform Online เข้ามาทำให้เจ้าของปิดสาขาและเราก็ต้องออกจากงาน
แต่ถ้าเราสังเกตดีๆ การถูกแทนที่ในอาชีพ ย่อมมาพร้อมกับโอกาสในการเห็นลู่ทางใหม่ๆเสมอ ร้านค้าออนไลน์เดี๋ยวนี้เปิดง่ายกว่าร้านค้าตามท้องถนน ไม่ต้องลงทุนด้วยเงินเยอะๆ หลายคนก็เลยใช้โอกาสนี้มาทำธุรกิจออนไลน์แทน จะเห็นได้ว่าหากเรารู้ว่าเครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆที่สามารถเพิ่มศักยภาพในการทำงานของเรานั้นก็จะให้ชีวิตการทำงานของเรา Smart ขึ้นได้ ผมเชื่อว่าเดี๋ยวนี้คงไม่มีใครเขียนจดหมายแล้วให้นกพิราบไปส่งแล้วใช่ไหมครับ เราใช้เทคโนโลยีอีเมล ไลน์ มันเร็วกว่าเยอะ
Passive Income
การเพิ่มรายได้จากการเปลี่ยนเงินออมเป็นเงินลงทุน
ถ้าเราเคยอ่านหนังสือประวัติศาสตร์มา ลองสังเกตดูนะครับว่าชาติที่ร่ำรวยนั้นนอกจากจะอยู่ในจุดที่ภูมิศาสตร์ดี ในน้ำมีปลาในนามีข้าวแล้ว การที่บ้านเมืองจะเจริญเติบโตและอยู่รอดในยามสงครามได้จะต้องมีการสะสมเสบียงและทรัพยากรอยู่ตลอดเวลา และถ้าทรัพยากรมากเกินการบริโภคก็สามารถนำไปขายได้
พอเรามามองในโลกปัจจุบันโดน ทรัพยากรที่เราหามาได้มันเปลี่ยนไปเป็นเรื่องเงินทองที่เราหามาได้ ก็ต้องมีบางส่วนเก็บสำรองไว้ บางส่วนใช้จ่าย หากมีส่วนเกินก็สามารถนำไปต่อยอดสร้างความร่ำรวยเช่นกัน วิธีการมันอาจจะเปลี่ยนไปบ้าง แต่หัวใจของการสร้างความมั่งคั่งมันเริ่มมาจากการสะสมทุนและทรัพยากรของชีวิตเรานั่นล่ะ
เมื่อเรามีรายได้ที่มากขึ้น มีรายจ่ายที่น้อยกว่ารายได้ เราย่อมสามารถนำเงินออมไปสร้างโอกาสต่างๆให้กับความมั่งคั่งในชีวิตได้ ถ้าภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่าการนำเงินไปต่อเงินเพื่อทำให้เกิดรายรับที่มากขึ้น และแน่นอนว่าสิ่งที่เป็นพื้นฐานที่สุดที่เราพอจะนึกออกก็คือ "ดอกเบี้ยเงินฝาก"
จะว่าไป ดอกเบี้ยเงินฝากนั้นเป็นอะไรที่ให้ผลตอบแทนน้อยมากในปัจจุบันและไม่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อที่ทำให้ของแพงมากขึ้นในระยะยาวได้ด้วย การนำเงินออมไปลงทุนจึงเป็นแนวทางที่อยู่ในกระแสของยุคนี้ แต่การลงทุนนั้นก็มีความเสี่ยงอยู่เหมือนกันเราจึงต้องรู้จักการประเมินตัวเอง (อายุ ภาระ ความเสี่ยง) รู้จักความเสี่ยงของทรัพย์สินในการลงทุน (หุ้น ตราสารหนี้ กองทุนรวม) รวมถึงแนวทางในการจัดพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่เรารับได้
การออมให้ประสบความสำเร็จ เป้าหมายต้องชัด แผนต้องมี วินัยต้องเลิศ
สิ่งแรกที่เราควรทำนั้นคือตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าเราจะออมไปเพื่ออะไร ใช้เงินเท่าไหร่? และมีเวลาเตรียมตัวยาวนานแค่ไหน เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญนะเพราะถ้าไม่มีเป้าหมายเราจะเก็บเงินไปเรื่อยๆโดยไม่สามารถกำหนดวิธีการที่มีประสิทธิภาพได้
หากเรากำหนดเป็นแผนแล้ว สิ่งที่จะมาตอบแผนของเราได้ก็คือกลไกล 3 พลัง (เงินต้นที่ต้องใช้ ระยะเวลาที่มี และอัตราผลตอบแทนที่คาดหวัง) ซึ่งเมื่อเราคำนวณได้แล้วจะกลายเป็นแผนของการออมและการลงทุน
ตัวอย่างเช่น เป้าหมายเกษียณที่ 7.6 ล้านบาท มีระยะเวลาในการหาเงิน 30 ปี ก็จะต้องเก็บเงินให้ได้เดือนละ 7,000 บาท โดยมีอัตราผตอบแทนที่คาดหวัง 6.4% อันนี้เป็นตัวอย่างคราวๆของกลไกล 3 พลังที่เราจะใช้วางแผนได้นะครับ
จากที่ผมสังเกตมา เป้าหมายทางการเงินที่เราควรมีมันจะหนีไม่พ้นเรื่อง เกษียณ การศึกษา ท่องเที่ยว การสร้างทรัพย์สิน ดูแลสุขภาพ การเพิ่มความมั่งคั่ง การวางแผนบุตร การดูแลพ่อแม่ และการสร้างมรดก ซึ่งหากเราสามารถกำหนดได้เป็นองค์รวมว่าเราแผนเราจะต้องมีอะไรบ้าง จะทำให้เราวางแผนในภาพรวมอย่างเป็นระบบได้ครับ
อีกส่วนก็คือการมีวินัยในการออมและการลงทุน เราจะต้องลงทุนแบบประจำเพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย วิธีที่ง่ายที่สุดคือ เมื่อเงินเดือนออก ให้หักเงินออมเก็บเอาไว้ก่อนจะเอาเงินที่เหลือนำไปใช้ และนำเงินออมไปทยอยลงทุนแบบ DCA (Dollar Cost Average) จากการเลือกทรัพย์สินที่ดี มีโอกาสเติบโตระยะยาว โดยที่ไม่สนใจราคาที่ขึ้นลงในระยะสั้น มุมมอง Mindset และ Concept ในการลงทุนคือ คือ
- หุ้นลงก็ดี ลงทุนด้วยเงินเท่าเดิมก็ได้หุ้นหรือหน่วยลงทุนมากขึ้น
- หุ้นขึ้นก็ดี ลงทุนด้วยเงินเท่าเดิมแต่จำกัดความเสี่ยงในการซื้อหุ้นจำนวนมาก และการที่หุ้นขึ้นมันก็ทำให้เราเกิดความมั่งคั่งได้ด้วย
การลงทุนแบบนี้เป็นวิธีการง่ายๆไม่ซับซ้อน สามารถใช้ซื้อหุ้นหรือกองทุนรวมก็ได้ เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ ผู้ที่อยากเริ่มต้น หรือคนไม่มีเวลาติดตามจังหว่ะในการซื้อ หากใครทำอาชีพในลักษณะ Freelance มีรายได้ที่เข้าบ้างไม่เข้าบ้าง ก็สามารถกำหนด Pool เงินลงทุนและตัดเงินมาลงทุนตามระยะเวลาครับ
สะสมไปเรื่อยๆ ความมั่งคั่งจะเกิดขึ้น รวมถึงเราสามารถสร้าง Passive income ได้ ไม่ว่าจะเป็นการที่กองทุนจ่ายเงินปันผล หรือเราอาจจะส่งคำสั่งขายกองทุนด้วยตัวเอง ตรงนี้ก็อยู่ที่แต่ละคนวางแผนแล้ว
ผมก็หวังว่า Model วิธีคิดในเรื่องการสร้างความมั่งคั่งนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกๆคนนะครับ อย่าลืมวางแผนในเรื่องการพัฒนาตัวเองและการวางแผนการเงินที่ดีเพื่อพาเราไปสู่เป้าหมาย ทุกคนทำได้ครับ สู้ๆ