สวัสดีครับวันนี้มาพบกับพี่ต้าร์และการ Review กองทุนรวม กันอีกครั้ง สำหรับวันนี้มีความน่าสนใจมากเพราะหลายๆคนก็ชอบเข้ามาถามกันนะว่ามีกองทุนรวมที่ไปลงทุนในต่างประเทศที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง อยากจะกระจายการลงทุนออกไปยังต่างประเทศเหมือนกัน ทาง TMB Advisory ก็มีแนะนำกองทุนหนึ่งนะครับ คือกองทุนรวม ‘TMBGQG’ มาดูรายละเอียดของกองทุนนี้กันเลยนะครับ
สำหรับตัวผมเอง ส่วนตัวผมมองว่าหากเรามีโอกาสลงทุนในต่างประเทศได้นั้นจะเป็นเรื่องดีกว่าการลงทุนเฉพาะในตลาดเมืองไทยเพียงอย่างเดียว เหตุผลของผมมีดังนี้ครับ
ในยุคนี้อะไรมันก็ไม่ค่อยจะแน่นอนนะครับ ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจ การเมืองระหว่างประเทศ การกระจายความเสี่ยงไปในการลงทุนหลายๆที่น่าจะช่วยทำให้การลงทุนปลอดภัยมากยิ่งขึ้นครับ
ช่วงหลังมุมมองผมต่อการลงทุนในประเทศนั้น คิดว่าส่วนใหญ่ประเทศไทยจะมีอุตสาหกรรมรูปแบบเก่าเยอะ ไม่รู้จะเติบโตได้อีกแค่ไหน แต่ถ้าเรามองกว้างไปยังต่างประเทศนั้นจะเห็นการเติบโตในอุตสาหกรรมรูปแบบใหม่ๆ เช่น เทคโนโลยี แพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งเมืองไทยยังไม่มี และเป็นเทรนการเติบโตของโลกในอนาคตด้วย เราก็ไม่ควรพลาดกับการลงทุนในลักษณะนี้ครับ
กองทุน TMBGQG จะมีการลงทุนใน Master Fund ที่มองหาการลงทุนในบริษัทที่มีคุณภาพและมีแนวโน้มการเติบที่ดีทั่วโลก ซึ่งการลงทุนในลักษณะ Selective buy นั้นผมว่าเป็นกลยุทธ์ในการลงทุนที่น่าสนใจและสามารถสร้างโอกาสในการเติบโตได้มากในอนาคตครับ
นโยบายกองทุนรวม
กองทุนรวมนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อมีวัตถุประสงค์ในการไปลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศที่ชื่อว่า Wellington Global Quality Growth Fund USD Class S Accumulating Unhedged ไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุนนะครับ ส่วนที่เหลือก็จะเป็นการลงทุนในทรัพย์สินส่วนสภาพคล่องครับ และแน่นอนว่ากองทุนนี้ไม่มีการจ่ายเงินปันผลครับ
โดยกองทุนตัวหลัก (Master Fund) เองมีนโยบายลงทุนในลักษณะ Active Fund ที่ผู้จัดการกองทุนนั้นพยายามทำทุกอย่างให้ได้ผลตอบแทนชนะค่ามาตรฐานและสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนได้ดี มีผลกำไรเยอะๆ กองทุนหลักนั้นจะลงทุน ในพวกตราสารต่างๆทั่วโลกเพื่อมุ่งเน้นผลตอบแทนระยะยาว
ในขณะที่ "TMBGQG" นั้นจะเข้าไปดำเนินการลงทุนแบบ Feeder Fund คือเข้าไปลงทุนในกอง master fund อีกทีนึง
ความเสี่ยงในการลงทุน
กองทุนรวมต่างประเทศนั้นถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงอยู่แล้วนะครับ ระดับความเสี่ยงของกองทุนรวม TMBGQG ก็อยู่ที่ระดับ 6 ประเภทเดียวกับกองทุนตราสารทุน ซึ่งมีความผันผวนในระดับสูง มีโอกาสได้รับผลกระทบจากปัจจัยความเสี่ยงต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ รวมถึงในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนต่างๆ แต่โดยปกติแล้วทางผู้บริหารกองทุนรวมจะใช้ดุลพินิจในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอยู่แล้วครับ
สัดส่วนในการลงทุนของกองทุนรวม
จากข้อมูลใน Fund Insight ของทาง บลจ. ทหารไทย จะเห็นได้ว่ามีการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศถึง 95.6% และมีทรัพย์สินอื่นๆอยู่ที่ 4.4% ครับ
ทีนี้ถ้าเรามาดูพอร์ตการลงทุนของกันดีกว่าว่า กองทุน Master Fund เขาลงทุนอะไร?
ข้อมูลนี้เป็นข้อมูล ณ วันที่ 29 ธันวาคม 2560 จะเห็นได้ว่ามีการลงทุนแบบการกระจายความเสี่ยงไปยัง Sector ต่างๆ ข้อที่น่าสังเกตก็คือ 37.70% นั้นลงทุนในธีมที่กำลังมาแรงในเรื่องของเทคโนโลยีและ Platform ต่างๆ ตามมาด้วยการเงิน สินค้าฟุ่มเฟือย สุขภาพ สินค้าจำเป็น อสังหาริมทรัพย์ และการสื่อสาร
"ผมได้เข้าไปดูเพิ่มเติมใน Bloomberg และ Morningstar พบว่า หุ้นที่มีการลงทุนนั้นก็เป็นหุ้นที่หลายๆคนรู้จักกันเป็นอย่างดีเลยครับ เช่น Google, Microsoft, Tencent Facebook, Alibaba, JPMorgan, VISA"
โดยเฉพาะบริษัทที่เป็นแนวเทคโนโลยีนั้นก็ถือว่าเป็นธีมการลงทุนที่น่าสนใจในยุค Digital ในปัจจุบันเลยนะครับ ซึ่งหุ้นที่เป็นเทคโนโลยีระดับโลกแบบนี้ไม่ได้มีให้ลงทุนในตลาดหุ้นบ้านเราเท่าไหร่
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง
เนื่องจากกองทุนรวมนี้เป็นกองทุนรวมต่างประเทศ เขาก็เลยจะใช้ MSCI All Country World Daily Total Return Net เป็นตัววัดนะครับ ซึ่งจากข้อมูลของทาง บลจ. ทหารไทยนั้นจะแบ่งตัววัดเกณฑ์มาตรฐานเป็นในรูปแบบสกุลเงินดอลลาร์และสกุลเงินบาท ข้อมูลผมเอามาจาก Fund Insight และหนังสือชี้ชวน ข้อมูล ณ วันที่ 29 ธันวาคม 2560
จากตารางจะเห็นได้ว่า อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 3 เดือน 6 เดือนและ 1 ปี อยู่ที่ 5.24% 9.34% และ 22.77% ซึ่งใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิงในรูปแบบสกุลเงินดอลลาร์และชนะเกณฑ์อ้างอิงเดียวกันในรูปแบบสกุลเงินบาท
กรณีที่เราเปรียบเทียบผลการดำเนินงานในรูปแบบ Percentile ของกองทุนรวมกับดัชนีชี้วัด (ตารางข้างล่างจะใช้เกณฑ์มาตรฐาน 2 ในรูปแบบสกุลเงินบาท) จะเห็นได้ว่าผลการดำเนินงานของกองทุนรวมนั้นจัดอยู่ในกลุ่มที่มีผลงานดีใน Percentile ที่ 25 ในขณะที่ดัชนีชี้วัดจะอยู่ที่ Percentile ที่ 50 ทั้งในการวัดผล 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี แต่อย่างไรก็ตามความผันผวนของกองทุนนี้ผันผวนสูงกว่าดัชนีชี้วัดนะครับในช่วง 6 เดือนกับ 1 ปี
นอกจากข้อมูลที่ผมได้ดูจาก Fact Sheet นะครับ ผมลองนำ Wellington Global Quality Growth Fund ไปลองวัดผลตอบแทนเปรียบเทียบกับ SET index ของบ้านเรา NASDEQ และ S&P index ของฝั่งอเมริกาย้อนหลัง 5 ปีเล่นๆดูในเวปไซต์ของทาง Bloomberg นะครับ
สิ่งที่กราฟแสดงผลขึ้นมาก็คือ "ผลงานของ Wellington Global Quality Growth Fund นั้นเติบโตถึง 127.19% ซึ่งค่อนข้างยืนยันทิศทางการลงทุนของโลกว่ามันมาทางเทคโนโลยีมากขึ้น"
ไม่ต่างกับการเพิ่มขึ้นของ NASDEQ ที่ 142.55% เพราะเป็นดัชนีที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของกลุ่มเทคโนโลยีล้วน ในขณะที่ S&P 500 Index ที่รวมทั้งหุ้นใหญ่ทั่วไปเติบโตที่ 85.91% และตามด้วย SET index ที่ 22.04%
นี่ล่ะที่ค่อนข้างตอกย้ำที่ผมได้กล่าวมาข้างต้นว่า เราควรจะนำเงินออกไปกระจายความเสี่ยงในการลงทุนต่างประเทศมากขึ้น ลงทุนที่เป็น Selective Growth Stock และต้องลงทุนในธีมที่เป็นกระแสด้านเทคโนโลยีที่กำลังเป็นกระแสอยู่ ซึ่ง TMBGQG ก็มีนโยบายการลงทุนมาที่ตอบโจทย์นักลงทุนไทยด้วยเหตุผลที่ครบถ้วนทุกประการ
ข้อมูล ณ วันที่ 2 เดือน กุมภาพันธ์ 2018
สนใจซื้อกองทุนรวมมีเงื่อนไข และค่าธรรมเนียมอย่างไรบ้าง?
สำหรับผู้ที่สนใจซื้อกองทุนนะครับ สามารถซื้อได้ในเวลาทำการ ซื้อมูลค่าขั้นต่ำครั้งแรก 1,000 บาท และไม่กำหนดการซื้อขั้นต่ำในครั้งต่อๆไปนะครับ ในส่วนการขายคืนหน่วยลงทุนนั้นจะใช้เวลา 4 วันทำการ (T+4)
ค่าธรรมเนียม % ที่เก็บจากผู้ถือหน่วยลงทุน (รวม VAT)
ผมลองไปค้นข้อมูลกองทุนต่างๆประเทศอื่นๆมาเปรียบเทียบ พบว่ากองทุนนี้ไม่ได้มีค่าธรรมเนียมแพงกว่ากองอื่นๆนะครับ หากใครซื้อกองทุนกับทาง TMB Advisory ค่าธรรมเนียมก็ตามนโยบายของทาง บลจ. ในหนังสือชี้ชวนเลยครับ ไม่ได้มีการเก็บอะไรเพิ่มนะครับ รายละเอียดมีดังนี้ครับ
ค่าธรรมเนียมขาย / สับเปลี่ยนเข้าไม่เกิน 2.00% (ปัจจุบัน 1.50% ต่อครั้ง)
ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน / สับเปลี่ยนออก -ไม่มี-
ค่าใช้จ่ายในการซื้อหลักทรัพย์ ไม่เกิน 0.25% (ปัจจุบันไม่เรียกเก็บ)
ค่าใช้จ่ายในการขายหลักทรัพย์ ไม่เกิน 0.25% (ปัจจุบันไม่เรียกเก็บ)
ค่าธรรมเนียม % ที่เก็บจากกองทุนรวมของ NAV (รวม VAT)
ค่าธรรมเนียมการจัดการ ไม่เกิน 2.1400% ต่อปี (ปัจจุบัน 1.6050% ต่อปี)
ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ ไม่เกิน 0.1070% ต่อปี (ปัจจุบัน 0.0321% ต่อปี)
ค่าธรรมเนียมนายทะเบียน ไม่เกิน 0.2140% ต่อปี (ปัจจุบัน 0.1070% ต่อปี)
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ประมาณการได้ไม่เกิน 0.3210% ต่อปี (ปัจจุบัน 0.0002% ต่อปี)
รวมค่าธรรมเนียม ไม่เกิน 2.7820% ต่อปี (ปัจจุบัน 1.7443% ต่อปี)
กองทุนนี้เหมาะกับใคร?
โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่า "กองทุนนี้เป็นกองทุนที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนในระยะยาว สามารถความเสี่ยงในการลงทุนและเงื่อนไขต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในต่างประเทศได้ หรืออาจจะเป็นนักลงทุนอยากจะกระจายความเสี่ยงการลงทุนในธีมการลงทุนในระดับโลกครับ"
ซึ่งแน่นอนว่ากองทุน TMBGQG นี้เป็นกองทุนระดับ Top ที่ทาง TMB Advisory แนะนำครับ
ใครสนใจอยากดูข้อมูล กองทุน TMBGQG กันแบบเต็มๆดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ได้เลยครับ https://www.tmbbank.com/tmbadvisory/partner/top#TMBGQG
ส่วนหากใครสนใจกองทุนตัวท็อปที่ทาง TMB คัดมาให้ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้หลายช่องทางตามด้านล่างนี้เลย
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ TMB Advisory Room ที่สาขา TMB คลิก https://www.tmbbank.com/tmbadvisory-room
LINE @TMBadvisory อัพเดทข้อมูลขสถาณการณ์ตลาดรายวันฟรี คลิก https://line.me/R/ti/p/@tmbadvisory
TMB Advisory ลงทะเบียนรับข่าวสารฟรี คลิก www.tmbbank.com/TK/FI/TMBADVISORY/RG
ซื้อ-ขายกองทุน และติดตามความเคลื่อนไหวกองทุนได้ง่ายผ่าน TMB TOUCH Mobile App
ซื้อ-ขายกองทุน โทร.1558 กด #9
บทความนี้เป็น Advertorial