สวัสดีครับ นักลงทุนทุกท่าน ผมหมอนัทประจำคลินิกกองทุนแห่งนี้คนเดิมครับ ในช่วงที่การลงทุนทั่วโลกเข้าสู่จุดที่เรียกว่า “หัวเลี้ยว หัวต่อ เนื่องจากว่าในช่วงนี้หลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวดมากขึ้นครับ ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นดอกเบี้ย และการหยุดสร้างปริมาณเงินให้มากขึ้นด้วยการทำ QE นั่นเองครับ
ทั้งนี้ก็เพราะว่าก่อนหน้านี้ แต่ละประเทศต้องการให้เศรษฐกิจฟื้นตัว แต่เมื่อเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว เงินเฟ้อแต่ละประเทศก็เริ่มที่จะสูงขึ้น ทำให้แต่ละที่ต้องออกมาปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินมากขึ้นครับ ซึ่งจะตรงข้ามกับในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ที่ธนาคารกลางหลาย ๆ ประเทศผ่อนคลายนโยบายการเงินมาโดยตลอด
ส่งผลให้ช่วงนี้ การลงทุนทั้งในและต่างประเทศค่อนข้างผันผวนทีเดียวครับ ลงทุนในช่วงนี้เรียกได้ว่าไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย ทำให้นักลงทุนอย่างเราๆ นี่ปวดหัวกันไปตามๆกัน เพราะไม่รู้ว่าจะเลือกสินทรัพย์อะไร หรือว่าจัดพอร์ตอย่างไรให้ได้ผลตอบแทนที่ดี บางคนถึงกับท้อใจเมื่อเห็นพอร์ตตัวเองติดลบบ่อยๆ แบบ สามวันดี สี่วันไข้
ในความเป็นจริงแล้ว การที่เราสลับสับเปลี่ยนสินทรัพย์ไปมาอาจจะไม่ใช่ทางที่ถูกต้อง เพราะว่าการคาดการณ์ในระยะสั้นส่วนใหญ่จะมีความผันผวนสูงครับ อาจจะถูกหรือว่าผิดทางได้เสมอ แต่เราสามารถที่จะลงทุนได้อย่างสบายใจมากขึ้นครับ ซึ่งอาจจะเกิดจากการที่เราจัดพอร์ตกระจายความเสี่ยง หรือว่าเราอาจจะเลือกกองทุนที่ไม่ได้ผันผวนไปตามตลาดการลงทุนมากนักก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีทางนึงครับ
จึงเป็นที่มาของบทความนี้ครับ ที่ผมจะพาไปรู้จักกับกองทุนที่ใช้กลยุทธ์แบบหนึ่งที่เราเรียกว่า “Market Neutral Strategy” เพื่อเป้าหมายสร้างผลตอบแทนที่เป็นบวกในทุกสภาวะตลาด หรือ “Absolute return” นั่นเองครับ
ผมขอเล่าที่มาของกองทุนแบบนี้สั้นๆ เพื่อให้นักลงทุนเห็นภาพละกันนะครับ ในสมัยก่อนมีนักคณิตศาสตร์ ได้พยายามแยกหุ้นออกเป็น 2 แบบก็คือ หุ้นที่ดี(หุ้นที่พร้อมขึ้นมากกว่าลง) กับหุ้นที่ไม่ดี (หุ้นที่พร้อมจะลงมากกว่าขึ้น)
จากนั้นก็ทำการ “ซื้อ” หรือว่า “Long” หุ้นที่ดี และทำการยืมหุ้นที่ไม่ดีมาขายก่อน หรือที่เราเรียกว่า “Short” (เพื่อที่จะทำกำไรในช่วงที่ตลาดหุ้น หรือว่าหุ้นตัวนั้น ๆ เป็นขาลง)
รายละเอียดของการทำ “Short” ก็คือ การยืมหุ้นมาขายก่อน เช่น เรายืมหุ้น AAA ราคา 50 บาท มา และทำการขายออกไป ณ วันที่เรายืมมาเลย ก็แสดงว่าเราได้เงินมาทันที 50 บาท และหากวันถัดมาหุ้นตัวนั้น ปรับตัวลดลงเหลือ 30 บาท เราก็แค่ เอาเงิน 50 บาทที่ได้จากการขายหุ้นไปก่อนหน้านี้ ซื้อหุ้นกลับมาคืนคนที่เรายืมหุ้น AAA มา ดังนั้น เราจะได้กำไร 50-30 = 20 บาท นั่นเองครับ
แน่นอนครับว่า หากตลาดหุ้นเป็น “ขาขึ้น” เราจะได้กำไรจากหุ้นที่ดี ที่เราซื้อไว้ โดยที่ราคาพร้อมจะปรับตัวสูงขึ้นตามสภาวะของตลาดอยู่แล้วครับ ส่วนหุ้นที่ไม่ดี ราคาพร้อมที่จะปรับตัวลงนั้น อาจจะลงไม่มากเพราะว่าตลาดหุ้นโดยรวมเป็นขาขึ้นนั่นเองครับ ทำให้เราขาดทุนไม่เยอะจากการทำ “Short”
ในทางกลับกัน หากตลาดหุ้นเป็น “ขาลง” เราจะได้กำไรจากหุ้นที่ไม่ดี ที่เราได้ทำการ “Short” ไว้ ที่ราคาพร้อมจะปรับตัวลดลงตามสภาวะของตลาดครับ ยิ่งลงเยอะเรายิ่งได้กำไร แต่ส่วนหุ้นที่ดี ที่ราคาพร้อมจะปรับตัวขึ้นนั้น อาจจะขึ้นไม่มากเพราะว่าตลาดหุ้นโดยรวมเป็นขาลงนั่นเองครับ ทำให้เราขาดทุนไม่เยอะครับ ซึ่งแน่นอนว่าการทำแบบนี้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ทุกสภาวะตลาดนั่นเองครับ
โดยถ้าหากเรามีการ “ซื้อ” หุ้น และทำการ “ขาย” หุ้นในสัดส่วนที่เท่ากัน เช่น 50%:50% หรือจะ 100%:100% ก็ได้ โดยการที่เราทำแบบนี้จะเปรียบเสมือนว่า เรานั้นไม่ได้ถือหุ้นอยู่เลยครับ (ซื้อ-ขายเท่ากัน) เลยเป็นที่มาของคำว่า Market Neutral นั่นเองครับ แต่แน่นอนว่านักลงทุนเองก็มีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนอยู่อย่างที่ผมได้ยกตัวอย่างไปก่อนหน้านี้ครับ
ดังนั้น ถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่ผลตอบแทนไม่ได้เกี่ยวข้องกับสภาวะของตลาดหุ้นว่าจะขึ้นหรือว่าลงนั่นเอง จึงเหมาะกับตลาดที่ผันผวน หรือว่าหาทิศทางที่แน่ชัดไม่ได้
น่าจะพอเห็นภาพกันแล้วใช่ไหมครับ นักลงทุนทุกท่าน คราวนี้เรามาดูรายละเอียดของกองทุนที่เป็นพระเอกในวันนี้กันครับนั่นก็คือ
กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อิควิตี้ แอบโซลูท รีเทิร์น
โดยกองทุนนี้มีระดับความเสี่ยง อยู่ในระดับ 6 ครับ คืออยู่ในกลุ่มระดับความเสี่ยงของกองทุนหุ้นนั่นเองครับ และจัดเป็นกองทุนประเภทที่มีความเสี่ยงสูงหรือซับซ้อน
โดยกองทุน United Global Equity Absolute Return Fund หรือ เราเรียกสั้น ๆ ว่า “UGEAR” จะเป็นการลงทุนในกองทุนต่างประเทศครับ ซึ่งจะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นไปตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน เพื่อให้นักลงทุนเองได้ประโยชน์ และสะดวกจากการที่มีผู้จัดการกองทุนคอยดูแลเรื่องของค่าเงินให้ด้วยครับ โดยที่ไม่ต้องไปปวดหัวเองว่าจะเลือกกองทุนที่มีการป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินหรือไม่ครับ
โดย UGEAR จะลงทุนในกองทุนหลัก คือ Old Mutual Global Equity Absolute Return Fund ที่ดำเนินนโยบายแบบ Market Neutral Strategy ซึ่งที่มาของ Old Mutual Global นั้นเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1845 ครับ โดย จอหน์ แฟร์เบิร์น ได้ก่อตั้ง กองทุนประกันชีวิตขึ้นมาในเมืองแคปทาวน์ประเทศแอฟริกาใต้ เพื่อช่วยเหลือผู้คน โดยใช้ชื่อกองทุนว่า The Mutual Life Assurance Society of the Cape of Good Hope จากนั้นในปี ค.ศ. 1885 เปลี่ยนมาเป็น The South Africa Mutual Life Assurance Society และได้กลายเป็นกองทุนประกันชีวิตที่เก่าแก่ที่สุดนั่นเองครับ
(ที่มา: https://en.wikipedia.org/wiki/Old_Mutual)
กลับมาที่กองทุนหลัก ปัจจุบันมีกลยุทธ์เน้นควบคุมความเสี่ยงหรือความผันผวนของพอร์ตการลงทุนไม่ให้มีความผันผวนเกิน 6%และมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนที่เป็นบวกโดยไม่ขึ้นกับภาวะของตลาดการลงทุนครับ ซึ่งหากเราไปดูผลตอบแทนย้อนหลังจะเห็นได้จากกราฟว่า ถึงแม้ในช่วงเดือนที่ตลาด MSCI ลง กองทุนหลักยังคงทำผลกำไรได้ดีครับ
(จากกราฟ เทียบระหว่างช่วงที่ MSCI World ขาดทุน แต่กองทุนยังคงมีผลตอบแทน)
ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
นอกจากนี้ครับ กองทุนยังมีการเคลื่อนไหวของราคาไปในทิศทางตรงข้ามกับ ตราสารประเภทอื่นๆ อีกด้วย ดังนั้นการลงทุนใน UGEAR น่าจะเป็นอีกทางเลือกที่ช่วงปรับความผันผวนของพอร์ตการลงทุนโดยรวมได้ จากภาพด้านล่างจะเห็นได้ว่า มีความสัมพันธ์กับสินทรัพย์การลงทุนอื่นๆ เช่น หุ้น ตราสารหนี้ และอื่นๆ ในระดับต่ำ
ทำไมต้องเป็น Market Neutral Strategy
ส่วนการคัดเลือกสินทรัพย์ที่ดี หรือไม่ดี ว่าจะทำการซื้อ (Long) หรือว่ายืมมาเพื่อขายนั้น(Short) จะใช้หลักการ 5 Mechanism นี้ในการลงทุนครับ
Old Mutual Global Equity Absolute Return Fund (กองทุนหลัก)
คือกองทุนจะดูจากมูลค่าพื้นฐานของแต่ละสินทรัพย์ พร้อมกับการเติบโตของบริษัท ฯ และภาพรวมของภาวะตลาดเข้าร่วมด้วยครับเพื่อจำแนกของสินทรัพย์ที่ดี และไม่ดีครับ
ส่วนผลตอบแทนก็ไม่ต้องอธิบายอะไรมากครับ ผมถือว่าทำได้ค่อนข้างสม่ำเสมอเลยทีเดียวครับ แม้ในภาวะผันผวนขนาดนี้ ผลตอบแทนกองทุนหลัก ตั้งแต่ต้นปี 2018 สามารถทำกำไรได้ 3.5%
ข้อมูล ณ มีนาคม 2018
ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
หากดูที่ผลตอบแทนย้อนหลังระยะยาว ๆ กองทุนหลักทำผลตอบแทนเฉลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 5-8% ต่อปี ก็ถือว่าค่อนข้างจะดี และที่น่าสนใจมาก ๆ คือ กองทุนหลักสร้างผลตอบแทนแบบปีปฏิทินนั้นไม่มีปีไหนที่กองทุนติดลบเลยครับ (วัดผลตอบแทนแบบปีปฏิทินคือ ดูเป็นปี พ.ศ. เช่น 2016 , 2017, 2018)
ที่มา : Old Mutual Global Investors, as of 30 Apr 2018
ส่วนพอร์ตสินทรัพย์ของกองทุนนี้ก็ค่อนข้างที่จะมีการกระจายไปยังประเทศต่างๆ รวมถึงมีการกระจายไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลายอีกด้วยครับ ส่วนอุตสาหกรรมที่ไม่ค่อยดี แน่นอนว่ากองทุนเองก็ทำการขาย หรือ “Short” ไว้เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีไปพร้อมๆ กันครับ
ลงทุนขั้นต่ำ 2,000 บาท และส่วนเพิ่มเติมที่กองทุน UGEAR มีให้อีกคือ หากผู้ถือหน่วยลงทุนมีมูลค่าเงินลงทุนตั้งแต่ถึง 1 ล้านขึ้นไป จะมีสิทธิ์ได้รับประกันชีวิต และประกันสุขภาพให้อีกด้วยครับ
นอกจากนี้ประกันที่ได้มานั้น เป็นประกันที่ทาง Prudential จัดทำให้ ซึ่งต้องบอกว่า บริษัทประกัน Prudential นั้น เป็นบริษัทประกันเก่าแก่ที่ได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนานทั่วโลก และยังเป็นหนึ่งในประกันชั้นนำของเมืองไทยที่รับหน้าที่ดูแลคนไทยร่วมกว่าสองทศวรรษ
โดยสรุป กองทุน UGEAR มีความน่าสนใจ และมีจุดเด่น ดังนี้ครับ
- ลงทุนในกองทุน United Global Equity Absolute Return Fund (กองทุนหลัก)
- กองทุนหลักมีผลตอบแทนค่อนข้างสม่ำเสมอ มีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนเป็นบวก (Absolute Return)
- กองทุนหลักมีการควบคุมความผันผวนให้อยู่ระดับต่ำ
- สร้างโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนที่ดี ในทุกภาวะตลาด (ทั้งขาขึ้น และ ขาลง)
- กองทุนหลักมีการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นคุณภาพดีในหลายๆ ประเทศ และหลายๆ อุตสาหกรรม
มีสิทธิรับประกันชีวิตและประกันสุขภาพจาก Prudential เมื่อลงทุน 1 ล้านบาทขึ้นไปเมื่อมี คุณสมบัติเป็นไปตามที่ระบุในหนังสือชี้ชวน ผู้ถือหน่วยลงทุนมีสิทธิได้รับความคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประกันชีวิต และความคุ้มครองด้านประกันสุขภาพ ภายใต้เงื่อนไขที่ระบุในกรมธรรม์ประกันชีวิตและสุขภาพ
โดยส่วนตัวคิดว่า จุดเด่นของกองทุนนี้ไม่ได้อยู่ที่ประกันเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่กลยุทธ์ของกองทุนที่ไปลงทุนในกองทุนหลักที่มีกลยุทธ์เน้นสร้างผลตอบแทนเป็นบวกในทุกภาวะตลาด จากกระบวนการคัดเลือกสินทรัพย์ที่ดี มีการกระจายความเสี่ยง สิ่งเหล่านี้ทำให้กองทุนมีความแตกต่างจากกองทุนกองอื่นๆ เป็นกองทุนที่ให้ทั้งสุขภาพทางการเงินและสุขภาพกายที่ดี
ส่วนวันนี้หน้ากระดาษได้หมดซะแล้วครับ ผมขอลาไปก่อน ขอให้นักลงทุนทุกท่านมีความสุขกาย สบายใจกันนะครับ
สวัสดีครับ
ข้อมูลเพิ่มเติมด้านการซื้อขายกองทุน : สามารถซื้อได้ทุกวันทำการ และส่งคำสั่งขายกองทุนได้ระหว่างวันที่ 1-14 ของเดือน บริษัทจัดการจะกำหนดให้ทุกวันที่ 15 ของทุกเดือนเป็นวันทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุน หากวันดังกล่าวตรงกับวันปิดทำการหรือเป็นวันทำการที่ไม่สามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ให้เลื่อนเป็นวันทำการถัดไป
คำเตือน
- การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะกองทุน นโยบายกองทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต/ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- กองทุนนี้เป็นผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีความซับซ้อน ซึ่งแตกต่างจากกองทุนรวมทั่วไป ผู้ลงทุนควรขอคำแนะเพิ่มเติมจากคนขายก่อนทำการลงทุน
- ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีมูลค่าเงินลงทุนตั้งแต่ 1,000,000 บาทขึ้นไปเท่านั้น ที่จะมีสิทธิได้รับความคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประกันชีวิต 10,000 บาท และความคุ้มครองด้านประกันสุขภาพ โดยมีแผนความคุ้มครองตามมูลค่าเงินลงทุน โดยสิทธิความคุ้มครองจะมีผลเมื่อได้รับการอนุมัติการเอาประกันจากบริษัทประกันทั้งนี้ สิทธิในการได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุในกรมธรรม์ประกันชีวิตและสุขภาพ โดยผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดความคุ้มครองประกันชีวิตและสุขภาพตามที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญของกองทุน
- กองทุนหลักใช้กลยุทธ์ Market Neutral Strategy ผ่านการลงทุนโดยใช้ตราสารอนุพันธ์ (long position/short position) เพื่อลดความเสี่ยงด้านตลาดของหุ้นที่กองทุนหลักลงทุน อย่างไรก็ตาม กองทุนไม่ได้รับประกันผลตอบแทนและมีโอกาสขาดทุนได้
บทความนี้เป็น Advertorial