[Review] รับเงินผ่าน "เพย์สบาย" ปลอดภัย ง่าย ครบทุกช่องทาง
เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยได้ยินประโยคที่ว่า “เราควรมีรายได้มากกว่า 1 ทาง”
ถ้าเป็นมนุษย์เงินเดือนก็ควรหารายได้เสริม เผื่อไว้ช่วงวิกฤตตกงานกะทันหัน จะได้มีเงินทางอื่นมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ในขณะที่คนทำอาชีพค้าขาย การมีหน้าร้านเพียงอย่างเดียวก็อาจจะไม่เพียงพอ ถ้าบางครั้งพายุเข้าฝนตกหนักลูกค้าไม่มาซื้อของที่ร้านก็อาจจะทำให้ขาดรายได้ ทางที่ดีควรเตรียมช่องทางการขายอื่นๆสำรองไว้ด้วย
ตลาดออนไลน์น่าดึงดูดใจ
ช่องทางการขายแบบออนไลน์นั้นทำให้เรามีโอกาสเจอลูกค้าได้ไม่จำกัด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยใช้เงินลงทุนต่ำมาก ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็ซื้อขายของได้ตลอด 24 ชั่วโมง จากผลการสำรวจของ ETDA ฉบับนี้ก็ยิ่งทำให้ตลาดออนไลน์นั้นน่าดึงดูดใจมากขึ้น (รายงานผลการสำรวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2559
https://www.etda.or.th/publishing-detail/value-of-e-commerce-survey-2016.html
ปี 2559 คาดการณ์ว่าตลาดอีคอมเมิร์ซมีการเติบโต 12.42% โดยมีมูลค่าสูงถึง 2.523 ล้านล้านบาท นอกจากพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปแล้ว อีกสาเหตุหนึ่งที่เป็นตัวเร่งให้ตลาดออนไลน์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คือ ระบบการจ่ายเงินที่ง่าย สะดวกและปลอดภัย ซึ่งเป็นตัวช่วยสร้างยอดขายและสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ซื้อได้ โดยช่องทางการชำระเงินจะแบ่งเป็นทางออนไลน์และออฟไลน์ ดังนี้
โอกาสสร้างรายได้ในตลาดออนไลน์
ถ้าเราเป็นมนุษย์เงินเดือนก็จะเห็นช่องทางออนไลน์เป็นโอกาสในการสร้างรายได้เสริมหรือเป็นเจ้าของกิจการที่มีหน้าร้านแล้วอยากขยายตลาดด้วยการเปิดร้านค้าออนไลน์ควบคู่ไปด้วย ในช่วงเริ่มต้นเราทำแบบเล็กๆโดยการขายของใน Facebook , Line และ IG แล้วเปิดบัญชีธนาคารไว้ 2-3 แห่งเพื่อให้ลูกค้าโอนเงินเข้ามา
วิธีการซื้อขายก็จะเป็นแบบง่ายๆว่าถ้ามีลูกค้า 1 คนส่งข้อความเข้ามาซื้อของ 10 ชิ้น เราก็จะให้เลขที่บัญชีธนาคารไป รอจนกระทั่งลูกค้าจ่ายเงินพร้อมกับส่งรูปหลักฐานการโอนเงินกลับมาให้ เราจึงจะแพ็กของไปส่งให้ลูกค้าทางไปรณีย์ แต่ชีวิตจริงมันไม่ง่ายขนาดนั้น ถ้าเกิดเหตุการณ์เหล่านี้
- ถ้ามีลูกค้าสั่งซื้อของ 10 คน แต่โอนเงินจริงๆแค่ 1 คน ส่วนอีก 9 คนที่เหลือลังเลที่จะโอนเงินเพราะไม่เชื่อใจคนขายว่าโอนเงินแล้วจะได้รับของ คำถาม คือ ร้านค้าจะทำอย่างไรให้ดูน่าเชื่อถือและทำให้เกิดการขาย
- ถ้ามีลูกค้าสั่งของเข้ามา 100 คน ร้านค้าจะใช้วิธีตรวจสอบอย่างไรว่าลูกค้าคนนี้จ่ายเงินแล้ว ก็ต้องรีบส่งของ ถ้าส่งช้าหรือส่งของผิดก็อาจจะมีดราม่าถูกโพสต์ต่อว่าที่หน้าเพจเสียชื่อเสียงได้
- ถ้าลูกค้ามีบัญชีธนาคารอื่นที่เราไม่ได้เปิดบัญชีไว้ อาจจะทำให้ลูกค้าไม่ค่อยพอใจที่จะต้อง เสียค่าธรรมเนียมการโอนเงินข้ามธนาคาร
- ถ้าเจอลูกค้าที่มีพฤติกรรมการจ่ายเงินแตกต่างกัน เช่น บางคนชอบจ่ายผ่านบัตรเครดิต ลูกค้าจากประเทศจีน ที่ใช้ Alipay แต่เราไม่มีให้บริการก็อาจจะทำให้เสียโอกาสในการขายได้
การเลือกระบบชำระเงิน
ถ้าร้านค้าออนไลน์ไปขอเปิดบัญชีหรือยื่นเอกสารขอทำเรื่องการชำระเงินผ่านสถาบันการเงินด้วยตนเองทุกๆ ที่ก็ทำได้ แต่ค่อนข้างเสียเวลาแล้วยังมีต้นทุนสูงเพราะกว่าจะได้รับอนุมัติก็ใช้เวลานาน บางที่อาจจะต้องมีเงินค้ำประกันหลักแสนถึงจะเปิดใช้บริการได้ รวมถึงค่าธรรมเนียมต่างๆจิปาถะอีกมากมาย
ในขณะที่การใช้ตัวกลาง (เช่น PAYSBUY) เป็นตัวเชื่อมต่อระบบชำระเงินที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจจากธนาคารแห่งประเทศไทย จึงทำให้ร้านค้าออนไลน์ประหยัดเงินและไม่เสียเวลาในการเริ่มต้นทำธุรกิจ นอกจากเสียค่าธรรมเนียมการขอใช้บริการที่ถูกกว่า แล้วยังสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้าออนไลน์ได้อีกด้วย
ถ้ามีระบบการชำระเงินของตัวกลางเข้ามาช่วยรองรับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า มันก็จะทำให้ร้านค้าออนไลน์ มีเวลาจัดการด้านอื่นๆมากขึ้น เช่น ดูสรุปยอดว่าขายได้เท่าไหร่ จัดการสต็อกว่าจะสั่งอะไรมาขายเพิ่มบ้าง ทำการตลาดจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขาย ออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้ลูกค้าตื่นเต้น รวมทั้งอีกสารพัดกระบวนท่าเพื่อทำให้ร้านค้าของเราแตกต่างกับคนอื่นและมีรายได้เพิ่มขึ้น
PAYSBUY คืออะไร?
PAYSBUY (เพย์สบาย) คือ ระบบรับชำระเงินออนไลน์ ที่จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2547 โดยได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์ จากธนาคารแห่งประเทศไทย และได้รับเครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือ (Trustmark) จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ และในปี 2551 ทางดีแทคได้ให้เข้ามาสนับสนุนเพื่อทำให้ PAYSBUY แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
5 ประโยชน์ที่ร้านค้าออนไลน์ได้จาก PAYSBUY
- มีช่องทางการรับชำระเงินที่ครอบคลุมทั้งในระบบออนไลน์และออฟไลน์
- ออนไลน์ ผ่านบัตรเครดิต , บัตรเดบิต , อินเทอร์เน็ตแบงค์กิ้ง, ช่องทางจ่ายเงินสดผ่านเคาเตอร์ที่บริการรับชำระเงิน, ระบบผ่อนชำระ , อาลีเพย์วอลเล็ทของประเทศจีน (Alipay)
- ออฟไลน์ เครื่องรูดบัตร PAY XPress
บริการเรียกชำระเงิน
เป็นระบบที่ร้านค้าออนไลน์แจ้งเตือนให้ลูกค้าชำระเงิน โดยระบุจำนวนเงินที่ลูกค้าต้องจ่ายและส่งอีเมล์ไปให้ลูกค้า ซึ่งในอีเมล์ก็จะมีคำแนะนำการชำระเงิน ในช่องทางต่างๆ แนบไปด้วย ซึ่งลูกค้าสามารถจ่ายได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งร้านค้าออนไลน์ดูในระบบอินเตอร์เน็ตได้แบบทันทีว่ามีล