สวัสดีครับนักลงทุนในกองทุนรวมทุกท่าน กลับมาพบกับผมอีกครั้ง หมอนัท ที่คลินิกกองทุนแห่งนี้ครับ เมื่อไม่นานมานี้ผมได้มีโอกาสไปบรรยายให้กับทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เกี่ยวกับการวางแผนการเงินหลังการเกษียณครับ ซึ่งคนส่วนใหญ่ในงานแน่นอนว่าต้องเป็นคนที่ค่อนข้างมีอายุครับ คือ ใกล้ๆ จะเกษียณ และบางท่านก็เกษียณไปแล้ว
แต่ก็ยังมีคนหนุ่มสาวอายุประมาณ 30 ต้นๆ ไปในงานนี้ด้วย ซึ่งหากมองเป็นสัดส่วนแล้วน่าจะประมาณ 40% เลยทีเดียวครับ นั่นแสดงว่าคนไทยเองเริ่มสนใจเรื่องการลงทุนเพื่อวางแผนเกษียณมากขึ้นครับ ถึงแม้ว่าในงานของ SET ที่เพิ่งจัดไป เราจะเห็นแบบนั้นก็ตาม แต่ตัวเลขผลการสำรวจของหลายๆ ที่กลับปรากฏว่า คนไทยส่วนใหญ่ยังคงออมเงินที่ได้ผลตอบแทนต่ำ อยู่นั่นเองครับ อาจส่งผลให้เราไม่สามารถไปถึงเป้าหมายต่างๆ ในชีวิตได้ โดยเฉพาะเป้าหมายการเกษียณ ที่ผมคิดว่าสำคัญที่สุดในชีวิต เนื่องจากว่าหลังเกษียณนั้น คนส่วนใหญ่จะไม่มีรายได้เข้ามาอีกแล้ว เหลือแต่เพียงเงินก้อนที่เก็บสะสมมาในช่วงทำงานครับดังนั้น การบริหารเงิน หรือว่าเก็บออมก่อนเกษียณ จึงมีความสำคัญมากๆๆๆๆ อย่างยิ่งครับ ซึ่งถ้าใครถามผมว่าอยากเริ่มต้นกับกองทุนต้องเริ่มที่กองทุนไหน ผมคิดว่าอย่างน้อยๆ ก็ลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ ซึ่งจะให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับเงินเฟ้อ คือไม่ทำให้มูลค่าเงินนั้นด้อยค่าลงนั่นเองครับ

ที่มา: บลจ.กรุงศรี
เนื่องจากว่ากองทุนเหล่านี้จะมีความเสี่ยงไม่สูงมากนัก หากลงทุนได้นานพอ ก็จะให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างดี ส่วนใหญ่จะเอาชนะเงินเฟ้อได้และทำให้มีโอกาสไปถึงเป้าหมายทางการเงินได้เร็วขึ้นครับ อย่างกองทุนผสมที่ลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภท ก็จะได้ประโยชน์จากจุดเด่นของสินทรัพย์แต่ละประเภทนั้น เช่น กองทุนอสังหาฯ กับกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ที่มีรายได้เป็นประจำจากการใช้สินทรัพย์ หรือค่าเช่าจากการใช้พื้นที่ แน่นอนว่าจะทำให้ผลตอบแทนไม่ผันผวนจนเกินไป ส่วนหุ้นที่แม้จะมีความผันผวน แต่ก็เหมาะที่จะลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนในระยะยาวๆ ครับ ซึ่งผลตอบแทนคาดหวังก็จะประมาณ 10 - 12% ต่อปี แต่นักลงทุนต้องลงทุนอย่างน้อยๆ ก็ 5-7 ปี ขึ้นไปนะครับจะได้ลดความผันผวนลง ดังนั้น กองทุนผสมที่ลงทุนทั้งกองทุนอสังหาฯ ตราสารหนี้ และหุ้นเข้าด้วยกัน จึงมีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนที่ดีในระยะสั้น และระยะยาวได้ครับ (ผลตอบแทนระยะสั้นมาก เกิดจากตราสารหนี้ ระยะกลางเกิดจากอสังหาฯ และ ระยะยาวเกิดจากหุ้น)ที่มา: บลจ. กรุงศรี
นั่นหมายความว่า การลงทุนกับกองทุนนี้อย่างน้อยๆ ก็น่าจะไม่แพ้เงินเฟ้อ และลุ้นรับผลตอบแทนที่ดีพอสมควร โดยความเสี่ยงจะอยู่ที่ระดับปานกลางนั่นเองครับ ถือว่าน่าสนใจทีเดียวครับ สำหรับแนวคิดการจัดพอร์ตแบบนี้ที่มา: บลจ.กรุงศรี
ส่วนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงๆ อย่างหุ้นเอง กองทุนก็เปิดโอกาสให้ลงทุนในหุ้นกลุ่มต่างๆ ได้อย่างกว้างขวางครับ ทั้งหุ้นเติบโต หุ้นคุณค่า หุ้นปันผล หุ้นที่ขึ้นลงตามวัฏจักร ซึ่งการทำแบบนี้ก็จะทำให้ไม่ถูกจำกัดการลงทุนในภาวะที่หุ้นลงหนัก นั่นเองครับ และยังเป็นการสร้างโอกาสตอนที่หุ้นขึ้นสูงๆ ด้วยครับ นอกจากนี้ หากตลาดหุ้นไม่ไปไหน การลงทุนใน REITs และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานก็ยังสามารถสร้างผลตอบแทนจากเงินปันผลได้อีกด้วยครับ ถือว่ามาแบบครบองค์จริง ๆที่มา: บลจ.กรุงศรี
แน่นอนว่าการคัดเลือกสินทรัพย์เข้าไปอยู่ในกองทุนนั้น ด้วยสไตล์ของ บลจ.กรุงศรี ทำให้เรามั่นใจได้อย่างหนึ่งว่า จะเป็นการคัดเลือกจากสินทรัพย์ที่มีพื้นฐานดีเป็นหลัก ดูรายละเอียดต่างๆ แทนเราได้รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเข้าพบปะผู้บริหารของบริษัทฯ รวมถึงการวิเคราะห์งบการเงินต่างๆ จากนั้นก็นำสินทรัพย์ที่ผ่านกระบวนการต่างๆ ไปเข้าคณะกรรมการการลงทุนพิจารณาอีกที เพื่อให้ได้สินทรัพย์ที่น่าสนใจ และสร้างผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอครับ กองทุน "KFGOOD" มีระดับความเสี่ยงของกองทุนอยู่ที่ระดับ 5 ครับ ซึ่งกองทุนแบบนี้เหมาะกับคนที่รับความเสี่ยงได้แบบกลางๆ และสามารถลงทุนได้อย่างน้อยๆ 2 – 3 ปี ซึ่งถ้านักลงทุนสามารถที่จะลงทุนในระยะกลางแบบนี้ได้ โอกาสขาดทุนก็จะน้อยลงไปครับ ดังนั้น หากนักลงทุนต้องการลงทุนระยะสั้นอาจจะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ครับ กองทุนนี้อาจจะมีการลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศในบางจังหวะ ดังนั้น กองทุนจึงมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวนที่จะช่วยลดความกังวลต่อค่าเงินที่ปรับเปลี่ยนไประหว่างลงทุนด้วยครับ ก่อนจะจากกันไปในครั้งนี้ ผมอยากให้นักลงทุนที่เพิ่งจะเริ่มต้นลงทุนได้ลองศึกษากองทุนผสมที่มีความเสี่ยงไม่สูงมากนัก ทั้งนี้ก็เพราะว่าการลงทุนนั้น หากเราลงทุนกับกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำมากๆ แน่นอนว่าเงินที่เราเก็บไว้โอกาสที่จะงอกเงย และกลายเป็นเงินที่เลี้ยงเราตอนแก่นั้นมีโอกาสน้อยมากครับ หากเงินที่เราลงทุนในแต่ละเดือนไม่มากพอ ดังนั้น การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง(บ้าง) ผมเชื่อว่าจะทำให้เรามีโอกาสได้เงินก้อนหลังเกษียณที่มากขึ้น ใหญ่มากขึ้น ทำให้เราออมต่อเดือนน้อยลง หรือไม่ต้องเก็บเงินก้อนใหญ่มากนัก (สบายมากขึ้น) เหลือเงินไปทำเป้าหมายอื่นๆ ได้อีกมากมาย ไม่ต้องอดมื้อ กินมื้อ เพื่อไปเสพสุขในบั้นปลายชีวิตเพียงอย่างเดียวครับ ระหว่างการเดินทางยาวๆ เราสามารถมีความสุขได้ด้วยกองทุนนี้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เราจะมีชีวิตที่ดีได้ หากเริ่มลงทุนเป็น สมกับคำต่อท้ายว่า “Good” ของชื่อกองทุนนี้จริงๆ ครับ

วันนี้ขอลาไปก่อน แล้วครั้งหน้าผมจะเอากองทุนใหม่ๆ มาเล่าให้ฟังอีกนะครับ
สวัสดีครับคำเตือน: ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน | กองทุนนี้อาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Non-investment grade) หรือที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Bond) ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสารซึ่งส่งผลให้ผู้ลงทุนขาดทุนจากการลงทุนบางส่วน หรือทั้งจำนวนได้ และในการขายคืนหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับเงินคืนตามที่ระบุไว้ในโครงการ
บทความนี้เป็น Advertorial