ทุกวันนี้หลายคนน่าจะสังเกตเห็นว่า...บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ให้อัตราดอกเบี้ยต่ำเตี้ยติดดินเสียเหลือเกิน ทำให้รู้สึกว่ามันไม่คุ้มค่าที่จะวางเงินส่วนใหญ่ของตัวเองไว้ในบัญชีออมทรัพย์ จึงเลือกย้ายเงินไปฝากประจำหรือลงทุนในกองทุนรวมแทน

แต่เชื่อผมมั้ยว่า ถึงเราจะมีเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่ตอบโจทย์เรื่องผลตอบแทนสูงมากมายขนาดไหน เงินฝากออมทรัพย์ก็ยังจำเป็นสำหรับสภาพคล่องในยามฉุกเฉินอยู่ดี เพราะเงินฝากออมทรัพย์ถูกจัดว่าเป็น “สินทรัพย์การเงินที่มีสภาพคล่องสูงที่สุด” ซึ่งเป็นสิ่งที่เงินฝากประจำทำแทนไม่ได้

เพราะเงินฝากประจำมักจะมีเงื่อนไขที่ว่าต้องฝากเท่าไหร่ถึงจะได้ดอกเบี้ยสูงสุด มีข้อจำกัดในการถอนเงิน ถ้าทำตามกฎเกณฑ์ของเงินฝากประจำไม่ได้ ก็ยากที่จะได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวัง

ถ้าไม่นำเงินไปลงทุนเลย ก็เลือกวางเงินไว้ในออมทรัพย์ก่อนดีกว่าเพราะได้เปรียบเรื่องสภาพคล่อง

ซึ่งการจัดสรรเงินเพื่อสถานการณ์ฉุกเฉินจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำและบัญชีออมทรัพย์ตอบโจทย์นี้ได้ดีที่สุด แค่เดินไปที่ธนาคารหรือตู้ ATM ก็สามารถถอนเงินมาใช้ได้ในทันที ไม่ต้องทำเรื่องถอน หรือกลัวจะเสียดอกเบี้ยอะไรมากมาย เพราะวัตถุประสงค์หลักก็คือ “สภาพคล่อง” นั่นเอง

ดังนั้น เราจำเป็นต้องเลือกบัญชีออมทรัพย์ที่ให้ผลประโยชน์สูงสุดสำหรับตัวเราเช่นกัน

คุณสมบัติที่ดีของบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ควรจะ...

ให้อัตราดอกเบี้ยสูงในระดับที่น่าพอใจ ต้องไม่ต่ำกว่าดอกเบี้ยในท้องตลาด สำหรับทุกวันนี้คือควรจะมากกว่า 1% ต่อปี 

ไม่ต้องฝากเงินเยอะ แต่ได้รับดอกเบี้ยสูงสุด

หลายคนอาจจะเคยเห็นบัญชีออมทรัพย์ที่กำหนดให้เราต้องฝากเงินเยอะ ถึงจะได้ดอกเบี้ยสูง เช่น ถ้าอยากได้ดอกเบี้ยสูงสุดต้องเริ่มฝากที่ 1 ล้านบาท ทำให้เราเสียโอกาสในการลงทุนในอนาคตได้  ในความเห็นของผมจำนวนเงินขั้นต่ำที่เหมาะสมควรจะอยู่ที่ 100,000 บาทเป็นต้นไป โดยคิดจากความน่าจะเป็นดังต่อไปนี้

ค่าใช้จ่ายต่อเดือนของคนส่วนใหญ่สูงกว่า 15,000 บาทต่อเดือน ควรมีเงินสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายรายเดือนอยู่ที่ 6-12 เดือน ดังนั้น สภาพคล่องขั้นต่ำที่ทุกคนควรฝากไว้ในบัญชีออมทรัพย์คือ 90,000 – 180,000 บาท ถ้าใครใช้จ่ายมากก็ควรกันส่วนนี้ไว้เยอะกว่า 100,000 บาท

ไม่กำหนดระยะเวลาในการฝาก สามารถถอนได้โดยไม่เสียเงื่อนไขในการรับดอกเบี้ยสูงสุด

เงื่อนไขการฝากอื่นๆที่ไม่ยุ่งยากมากความ เช่น สามารถฝากเงินได้ตามที่เราต้องการ สามารถถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มได้เมื่อต้องการ

ในครั้งนี้ผมขอนำบัญชีออมทรัพย์ ULTRA SAVING จากธนชาตนำเสนอให้เพื่อนๆ ได้รู้จักจุดเด่นและจุดสังเกตต่างๆ ของบัญชีนี้ด้วยกัน เพราะผมเห็นว่าบัญชีนี้มีความโดดเด่นเฉพาะตัว และคุณสมบัติเข้าเงื่อนไขข้างต้น

ฝาก 1 แสนบาทรับดอกเบี้ยสูงสุด 1.50% ต่อปี

บัญชีออมทรัพย์ ULTRA SAVING ช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าเงินสำรองยามฉุกเฉินของเราจะได้ผลตอบแทนที่ดีด้วยการให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่ 1.50% ต่อปีสำหรับยอดเงินฝากเริ่มต้นเพียง 100,000 บาท แต่ไม่ถึง10 ล้านบาท ซึ่งเป็นช่วงจำนวนเงินฝากที่จะได้รับดอกเบี้ยสูงสุด ถือว่าเป็นขนาดของวงเงินที่กว้างมากเมื่อเทียบกับสินค้าในท้องตลาด

เพราะนอกจากจะเหมาะกับการวางเงินสำรองยามฉุกเฉินแล้ว บัญชีนี้ยังเหมาะกับการพักเงินก่อนที่จะนำไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ อีกด้วย เมื่อใดก็ตามที่มีเงินอยู่กับตัวสูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท เราก็สามารถวางเงินไว้ในนี้ได้โดยได้รับอัตราดอกเบี้ยสูงสุด (ถ้าเกินกว่านี้อัตราดอกเบี้ยจะถูกปรับเป็น 1.30% ต่อปี)

รับดอกเบี้ยเงินฝากทุกเดือน

ปกติดอกเบี้ยที่เราจะได้รับจากธนาคารจะคำนวณแล้วจ่ายให้ครั้งเดียวตอนสิ้นปี หรือทุก 6 เดือน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ตกลงไว้กับทางธนาคาร แต่บัญชี ULTRA SAVING จะคำนวณดอกเบี้ยตามยอดคงเหลือ ณ สิ้นวัน แล้วจ่ายเข้าบัญชีให้ทุกวันที่ 10 ของเดือน โดยเราจะได้รับดอกเบี้ยตามระยะเวลาและยอดเงินถัวเฉลี่ยที่ฝากไว้ในช่วงเวลานั้นๆ 

สามารถถอนได้ 2 ครั้งต่อเดือน โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม

โดยส่วนใหญ่บัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงมักจะให้ถอนเงินได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม 2 ครั้งต่อเดือนเป็นเรื่องปกติ สำหรับคนที่ฝากไว้เพื่อสภาพคล่องฉุกเฉิน(ไม่ใช่เพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน) เรื่องการกำหนดจำนวนครั้งในการถอนเงินก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่อะไร

เพราะคงจะมีน้อยคนที่มีเรื่องฉุกเฉินบ่อยถึงขนาดต้องถอนเงินมากกว่า 2 ครั้งต่อเดือน ถ้าจำเป็นจริงๆ ก็ต้องยอมเสียค่าธรรมเนียม 50 บาทเท่านั้น

สรุปรายละเอียดบัญชี ULTRA SAVING แบบง่ายๆ

บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ULTRA SAVING เหมาะกับทุกคนที่ต้องการจะวางเงินสำรองฉุกเฉินสำหรับตัวเอง โดยคาดหวังอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ที่โดดเด่นไม่แพ้อัตราดอกเบี้ยท้องตลาด ซึ่งบัญชีนี้จะให้ดอกเบี้ยสูงสุด 1.50% สำหรับยอดเงินฝากตั้งแต่ 100,000 บาท แต่ไม่ถึง 10 ล้านบาท และจะคำนวณดอกเบี้ยให้ทุกเดือนซึ่งน่าสนใจไม่แพ้สินค้าตัวอื่นในท้องตลาด

เพื่อนๆ คนไหนคิดว่าเจ้า ULTRA SAVING จากธนชาตตอบโจทย์ทั้งเรื่องสภาพคล่องและอัตราผลตอบแทน สามารถเดินไปขอรายละเอียดและเงื่อนไขการสมัครได้ที่ธนาคารธนชาตทุกสาขา หรือโทร 1770 อย่าช้านะเพราะเขาให้เปิดได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561 นี้เท่านั้นนะ!!

บทความนี้เป็น Advertorial