สวัสดีครับ สำหรับใครที่กำลังมองหากองทุน LTF เพื่อประหยัดภาษี คงจะมีคำถามในใจว่า “กองทุนไหนดี?” โดยเฉพาะในช่วงหลังๆ ที่มีกองทุน LTF ให้เลือกมากมายจนแทบจะเลือกไม่ถูกแบบนี้ ทั้งหุ้นใหญ่ หุ้นกลาง หุ้นเล็ก จัดพอร์ทเบ็ดเสร็จ ลงทุนแบบผสมนู่นนั่นนี่เต็มไปหมด จนรู้สึกปวดหัว

วันนี้พรี่หนอมเลยถือโอกาสมารีวิวกองทุน LTF อีกตัวหนึ่งที่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการตัดสินใจ นั่นคือ "กองทุนเปิด แอสเซทพลัส สมอล แอนด์ มิด แคป อิควิตี้ หุ้นระยะยาว" หรือ "ASP-SMELTF" ที่เน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก แต่ผลตอบแทนไม่ได้เล็กนะครับ!


เดี๋ยวก่อนนะ! ตอนนี้ลงทุนหุ้นเล็กมันเสี่ยงไม่ใช่เหรอ?

เมื่อพูดถึงการลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็ก ย่อมต้องมีหลายคนตั้งคำถามแบบนี้อยู่ในใจใช่ไหมครับ แน่นอนว่าพรี่หนอมเองเคยตั้งคำถามแบบนี้เหมือนกันครับ และก็ได้คำตอบว่า ใช่ครับ! หุ้นขนาดกลางและเล็กนั้น มีความเสี่ยงมากกว่า แต่สิ่งหนึ่งที่แลกกลับมาแน่ๆ คือ โอกาสที่ได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าครับ!

ถ้ามองลงไปถึงรายละเอียดกว่านั้น การที่เรามีพอร์ทการลงทุนใน LTF ที่เป็นหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กบ้าง โดยอาศัยการจัดพอร์ทการลงทุนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่เรารับได้ ถือว่าเป็นโอกาสที่เราจะได้กระจายการลงทุนมาเพื่อลุ้นผลตอบแทนที่มากกว่าอีกทางหนึ่งด้วยครับ


นอกจากนั้น การลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กนั้น ถ้าเราเลือกหุ้นได้ถูกตัวและเหมาะสม ย่อมลดความเสี่ยงผันผวนที่เกิดจากความเสี่ยงของตลาด (Market Risk) รวมถึงการเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มนี้ มักจะไม่ได้ไปตามตลาดสักเท่าไร (เพราะนักลงทุนไม่ค่อยสนใจลงทุน) นั่นแปลว่า ถ้าหากเราเลือกหุ้นที่ดี พอวันที่ตลาดสนใจ โอกาสการเติบโตก็จะก้าวกระโดดไปไกลกว่าหุ้นใหญ่แน่นอนครับ 


แบบนี้แปลว่าถ้าเลือกหุ้นถูกตัว และ ดีจริง
เราก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มากกว่าใช่ไหม?

ใช่ครับ แต่อย่าลืมนะครับว่า สำหรับกองทุน LTF นั้น เราไม่ต้องเลือกหุ้นเองครับ แต่เลือกโดยผู้จัดการกองทุนที่จะมาจัดการแทนให้ ดังนั้นสิ่งที่มีผลจริงๆกับกองทุนนั้นๆ จะเป็นกระบวนการลงทุนของตัวผู้จัดการลงทุนเอง รวมถึงนโยบายและปรัชญาของทางตัวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นั้นๆ ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนอย่างเราต้องใส่ใจมากที่สุดครับ


แล้วกองทุน ASP-SMELTF ตัวนี้
มีปรัชญาและกระบวนการลงทุนยังไง?

เท่าที่พรี่หนอมแอบดูจากข้อมูลในการนำเสนอกองทุน ASP-SMELTF นั้น พบว่ากระบวนการลงทุน จะเน้นการ วิเคราะห์จากพื้นฐาน (Bottom-Up Approach) ซึ่งการวิเคราะห์แบบนี้ จะต้องเริ่มจากการคัดเลือกดูหุ้นแต่ละบริษัท เพื่อหากิจการที่สอดคล้องกับเกณฑ์ที่ทางผู้จัดการกองทุนกำหนดไว้  ซึ่งสำหรับกองทุนนี้คือ เลือกลงทุนในกิจการที่มีศักยภาพและมีโอกาสเติบโตด้วยราคาที่เหมาะสมครับ


ซึ่งคำว่า “ศักยภาพ” และ “โอกาสเติบโต” นั้น ฟังเผินๆ ก็เหมือนจะเป็นนโยบายทั่วไปใช่ไหมครับ ฮ่าๆ ขออธิบายต่อแบบนี้ครับว่า นิยามของศักยภาพที่ว่านี้ จะพิจารณาจาก ธุรกิจที่มีกลยุทธ์การทำธุรกิจอย่างสร้างสรรค์ สามารถจับฐานลูกค้าและสร้างการเติบโตได้ ให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ของบริษัท และต้องสอดคล้องกับสภาวะการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจและสังคม (Mega Trend) อีกด้วยครับ


เมื่อเลือกหุ้นได้แล้ว จะวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกโดยใช้หลักการ Porters 5 Forces และ SWOT Analysis มาประกอบกัน ร่วมกับ การคุยกับทางผู้บริหารของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ว่าทำได้ตามที่พูดและวิเคราะห์หรือไม่ เพื่อให้ตัวผู้จัดการกองทุนได้ข้อมูลที่ชัดเจนที่สุดในการตัดสินใจลงทุนครับ 


ส่วนการซื้อขายหุ้นนั้น จะยึดตามวินัย (Buy & Sell Discipline) ที่กำหนดไว้ นั่นคือ “ซื้อ” เมื่อบริษัทมีการเติบโตที่โดดเด่นอย่างสม่ำเสมอ และมีราคาที่สมเหตุสมผลตามพื้นฐาน และ “ขายทันที” เมื่อราคาถึงเป้าหมาย หรือมีปัจจัยทางตรงและทางอ้อมที่มากระทบความสามารถในการสร้างกำไรของบริษัท

เผื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น ทางผู้จัดการกองทุนได้ยกตัวอย่างหุ้นที่เลือกในการลงทุนมาเปรียบเทียบให้ดูถึง 3 กลุ่ม ดังนี้ครับ

[Review] ASP-SMELTF กองทุน LTF หุ้นเล็กที่ผลตอบแทนไม่เล็กนะครับ!!!

อย่างไรก็ตาม… การที่จะทำแบบนี้ได้นั้น ต้องมีความเชื่อในเรื่องของตลาดที่ไม่มีประสิทธิภาพ นั่นคือ ยังมีหุ้นดีๆที่ยังหลบซ่อนอยู่และยังไม่ได้สะท้อนราคาที่แท้จริงออกมานั่นเองครับ

แหม่… พูดมาเยอะแล้ว
แล้วผลการดำเนินงานเป็นแบบนั้นจริงหรือเปล่า?

เนื่องจากกองทุนนี้เป็นกองทุน IPO ที่จะเปิดให้จองซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 1-21 พฤศจิกายน 2560 จึงไม่สามารถเปรียบเทียบผลตอบแทนที่ผ่านมาได้ครับ แต่เราสามารถดูได้จากกองทุน ASP-SME ที่เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ 2 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมาจะเห็นว่าได้ผลตอบแทนสูงถึง 12.82% ครับ ขณะที่ SETTRI ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดให้ผลตอบแทนเพียง  6.86% (ที่มา: www.assetfund.co.th ณ 29 กันยายน 2560

[Review] ASP-SMELTF กองทุน LTF หุ้นเล็กที่ผลตอบแทนไม่เล็กนะครับ!!!

ที่มา: www.assetfund.co.th ณ 29 ก.ย. 60
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต


แต่เนื่องจากยังเป็นกองทุนที่เปิดใหม่ อาจจะยังไม่สามารถวัดความต่อเนื่องของการดำเนินงานได้ ทาง บลจ. แอสเซท พลัส เลยนำข้อมูลการบริหารของทีมผู้จัดการกองทุนนี้ในอดีตมาให้ดูกันครับ ลองดูและพิจารณาตามรูปด้านล่างได้เลยครับ

[Review] ASP-SMELTF กองทุน LTF หุ้นเล็กที่ผลตอบแทนไม่เล็กนะครับ!!!

(ที่มา: Bloomberg, performance as of 31 Dec16)
ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต


เห็นบอกว่า… กองทุนต้องดูที่ค่าธรรมเนียมด้วย
แล้วกองนี้ค่าธรรมเนียมเป็นยังไงบ้าง

พรี่หนอมว่าไหนๆก็ไหนๆแล้ว ไม่ต้องดูที่ค่าธรรมเนียมอย่างเดียวหรอกครับ ดูให้หมดเลยดีกว่าว่ากองทุนนี้มีข้อมูลในการซื้อและขายอย่างไรบ้าง จะได้ตัดสินใจได้อย่างถูกต้องครับ

สำหรับค่าธรรมเนียมที่เห็นนี้ เค้ารวมภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีที่เกี่ยวข้องไว้มดแล้วนะครับ ดูโดยรวมแล้วค่าธรรมเนียมอาจจะสูงอยู่สักหน่อย ซึ่งตรงนี้ผู้ลงทุนคงต้องพิจารณาว่า เมื่อเทียบกับโอกาสรับผลตอบแทนที่จะได้รับแล้ว ผู้ลงทุนมองว่าคุ้มค่าหรือไม่ ถ้าหากมองว่าคุ้มค่าก็จัดไปเลยครับ ฮ่าๆ 


ชักจะเยอะนะเนี่ย อ่านมานานแล้ว ช่วยบอกมาเลยดีกว่าว่าซื้อดีไหม?

อันนี้ก็ต้องบอกตรงๆว่า จะซื้อหรือไม่ซื้อ มันอยู่ที่เงินในกระเป๋าและความต้องการของแต่ละคนครับ แต่สามารถบอกได้ว่ากองทุนกองนี้เหมาะกับใครครับ ซึ่งพรี่หนอมขอให้หลักไว้ 3 ข้อเพื่อเป็นเช็คลิสต์สำหรับท่านที่สนใจจะลงทุนนะครับ  คือ


  1. อยากลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก พร้อมรับความผันผวนในการลงทุน นี่คือข้อแรกทีต้องตอบตัวเองให้ชัดเจนครับ ถ้าเป็นคนที่อยากลองลงทุนในหุ้นเล็ก หรือมีหุ้นใหญ่อยู่แล้วแต่อยากกระจายการลงทุนไปในหุ้นเล็กบ้าง โดยที่รับความผันผวนได้ การเติมกองทุนนี้เข้าไปในพอร์ต LTF ก็ถือว่าน่าสนใจเลยครับ

    อ้อ กองทุน LTF กองนี้ลงทุนในหุ้นไม่ต่ำกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินกองทุนรวมนะครับ และยังมีการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุนอีกด้วยครับ

  1. ไว้ใจและเชื่อในกระบวนการการลงทุน จากที่พรี่หนอมเล่ามาทั้งหมด ถ้าอ่านแล้วเข้าใจและรู้สึกว่าแนวคิดและกระบวนการของทางผู้จัดการกองทุนนั้นถูกจริตกับเรา ฟังแล้วอยากน่าลงทุน ลองอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจากhttp://www.assetfund.co.th/sme_ltf_ad.html ซึ่งมีข้อมูลที่คบถ้วนให้ศึกษากันทั้งใน “เอกสารการขาย” และเอกสารอื่นๆ ซึ่งมีข้อมูล presentation และหนังสือชี้ชวน เพื่อที่จะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ 

  1. ไม่ต้องการเงินปันผล ประเด็นนี้ต้องถามตัวเองเพิ่มเติมด้วย เพราะกองทุนนี้ไม่มีการจ่ายเงินปันผลครับ ดังนั้น อาจไม่ใช่คำตอบสำหรับสำหรับท่านที่ต้องการเงินปันผลกลับมาระหว่างทาง
    เพราะกองทุนนี้เค้าตั้งใจจะเก็บสะสมผลตอบแทนไว้ให้จนกว่าจะขายคืนและเป็นโอกาสที่ผลตอบแทนจะงอกเงยต่อไปด้วยครับ

หากใครสนใจก็สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.assetfund.co.th ติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนและคู่มือการลงทุนในกองทุน LTF ได้ที่ บลจ. แอสเซท พลัส หรือ สอบถามเพิ่มเติมที่ Asset Plus Customer Care 0 2672 1111 นะครับ


[Review] ASP-SMELTF กองทุน LTF หุ้นเล็กที่ผลตอบแทนไม่เล็กนะครับ!!!

ขอเน้นอีกทีว่า… สำหรับเรื่องของภาษีนั้น อย่าลืมว่า คนที่ซื้อกองทุน LTF กองนี้ ควรเป็น คนที่ต้องการลดหย่อนภาษี และสามารถถือครองได้เกิน 7 ปีปฎิิทิน โดยไม่มีปัญหาเรื่องการขายก่อนกำหนดนะครับ

ถ้าหากใครซื้อ IPO ตอนนี้ หรือซื้อภายในปี 2560 ก็จะสามารถขายได้ตั้งแต่วันเปิดทำการแรกของเดือนมกราคมปี 2566 นะครับ

สุดท้ายนี้ ขอฝากไว้ครับว่า "ไม่มีการลงทุนที่ดีทีสุดสำหรับเรา มีแต่การลงทุนที่เราพอใจที่สุด" 

พรี่หนอมก็ขอให้ทุกคนโชคดีในการลงทุนของตัวเองครับผม


บทความนี้เป็น Advertorial