วันที่ 30 มิถุนายน 2563 ซื้อ SSFX ได้วันสุดท้าย
อย่าลืมเช็คเงื่อนไข ตัดสินใจให้ดีก่อนที่จะซื้อ
พรี่หนอมเขียนประโยคนี้ไว้ในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 เพื่อระบุว่า SSFX หรือ กองทุนรวมเพื่อการออม (พิเศษ) ซึ่งเป็นกองทุนที่ออกมาตามมาตรก
1. กองทุน SSFX ลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์ไทยไม่น้อย
2. ต้องถือครองไว้ไม่น้อยกว่า 10 ปี (นับจากวันที่ซื้อแบบปีชนปี
3. ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 200,000 บาท ไม่มี % ของรายได้มากำหนด ไม่รวมกับกลุ่มไหน
โดยกองทุนนี้จะซื้อได้ในระยะเวลาจำกัด ตั้งแต่ เม.ย. - มิ.ย. 2563 เท่านั้น
แต่ถ้าหากใครยังซื้อไม่ทัน ก็ต้องบอกว่ายังเหลืออีกตัวหนึ่งที่ออกมาเป็นค่าลดหย่อนคู่กันกับ SSF-EXTRA นั่นคือ SSF ซึ่งมีเงื่อนไขคล้ายคลึงกัน เพียงแต่ว่าจะมีการลงทุนที่แตกต่างกันเล็กน้อย (SSF ลงทุนได้กว้างกว่าในสินทรัพย์หลายประเภท) และ เพดานการซื้อรวมกับกลุ่มเกษียณต้องไม่เกิน 500,000 บาท (รวมถึงกำหนด % ไว้ที่ 30% ของรายได้ด้วย)
ดังนั้นถ้าหากใครซื้อ SSF-EXTRA ไม่ทัน แล้วยังอยากลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม อาจจะลองมองดู SSF เป็นทางเลือกหนึ่ง หรือจะยังเลือกกลับไปซบ RMF เหมือนเดิมก็ได้ หรือแม้แต่จะย้ายไปที่กลุ่มอื่นเลยเช่นประกันประเภทต่างๆ อันนี้แล้วแต่ที่สบายใจครับ แต่คำถามหลักๆ ที่อยากฝากไว้สำหรับการตัดสินใจในการซื้อกองทุนใดก็ตามเพื่อลดหย่อนภาษี คือ
1. เสียภาษีไหม? ถ้าไม่เสียภาษีควรซื้อกองทุ
2. มีเงินซื้อไหม? ต้องใช้เงินหรือเปล่า ถ้ากระแสเงินสดไม่ดี ไม่ควรซื้อ เพราะถ้าต้องใช้เงินขึ้นมาจ
3. พร้อมรับความเสี่ยงไหม? กองทุนที่เราซื้อลงทุนในสินทรัพย์อะไร ต้องมองให้เข้าใจและรู้ว่ามีความเสี่ยงแบบไหนบ้าง
4. ถือตามอายุที่กฎหมายกำหนดได้ไหม รอคอยไหวหรือเปล่า เพราะถ้าซื้อมาแล้วขายก่อน อันนี้ผิดเงื่อนไข จะวุ่นวายภายหลังได้นะ
5. มีแผนการลงทุนไหม ชอบกองทุนไหนบ้าง (เลือกหรือยัง?) พอร์ตการลงทุนแบบไหน (วางแผนไว้ไหม?) ตรงนี้อาจจะสำคัญกว่าการลดหย่อนภาษีเสียด้วยซ้ำครับ
ถ้าผ่าน 5 ข้อนี้ได้ ผมว่าเราตอบได้ครับว่าควรซืื้อแบบไหนอะไรดี และถ้าใครตัดสินใจได้แล้วก็ขอให้ประสบความสำเร็จในทางที่ตัวเลือกครับผม
สุดท้ายนี้ ถ้าใครชอบบทความแบบนี้ พรี่หนอมฝากทุกคนติดตามบทความภาษีที่ บล็อกภาษีข้างถนน และแฟนเพจ TAXBugnoms ด้วยนะครับ ขอบคุณครับผม