จอห์น ดี. ร็อกกี้เฟลเลอร์ (John D. Rockefeller) เคยเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่เชื่อไหมว่าคุณในตอนนี้มีสิ่งหนึ่งที่เขาไม่สามารถซื้อได้ในช่วงที่เขามีชีวิตอยู่ประมาณ 100 ปีก่อน นั่นคือ เพนิซิลลิน (penicillin)

หลายคนน่าจะพอรู้ดีว่า ถ้าอยาก “รวย” มีทางเลือกหลักๆ อยู่ 2 ทาง คือ (1) ทำงานให้หนัก เพื่อสร้าง Active Income (2) ลงทุนให้มาก เพื่อสร้าง Passive Income

“ถ้าคิดว่าเงินซื้อความสุขไม่ได้ แปลว่าเรายังหาเงินได้ไม่มากพอ — แต่ที่สุดแล้วความต้องการของเรามันจะไปจบตรงไหน?” หลายคนอาจจะจับทางได้จากประโยคด้านบนแล้วว่าที่เราใช้เงินซื้อความสุขไม่ได้เพราะจริง ๆ แล้ว “ความสุขของเรามันไม่เคยมีเพียงพอ”

แม้การเป็นเจ้าของบ้านอาจเป็นความฝันของใครหลายคน แต่สำหรับทอรี ดันแลป เจ้าของธุรกิจวางแผนการเงิน ‘Her First 100K’ และนักเขียนหนังสือ ‘Financial Feminist’ ผู้สามารถเก็บเงินได้ราว 100,000 ดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่อายุ 25 ปี กลับพูดว่า

จริงหรือไม่ ถ้าไม่มีเงินซักบาทในกระเป๋า คงไม่มีใครมีความสุขแน่ๆ และคำถามต่อมา คือ แล้วต้องมีเงินเท่าไรล่ะ หรือ รวยขนาดไหนกันนะ ถึงจะทำให้คนเรามีความสุขกันนะ

การมีเงินมากขึ้นทำให้คุณมีความสุขมากขึ้นไหม? คนส่วนใหญ่ตอบว่า “แน่นอนสิ” มันต้องทำให้เรามีความสุขมากขึ้นอยู่แล้ว แม้จะดูเป็นคำถามที่ตรงไปตรงมา แต่กลับเป็นคำถามที่นักเศรษฐศาสตร์หลายต่อหลายคนถกเถียงกันเรื่อยมา

“เงินซื้อความสุขได้” เชื่อว่าหลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า ทุกวันนี้เงินนั้นเรียกได้ว่าเป็น ‘ปัจจัยห้า’ กันไปแล้ว แต่แล้ว “เงินเท่าไหร่ล่ะ?” ที่จะสามารถสร้างความสุขให้เราได้แท้จริง และยั่งยืนในระยะยาว

คุณเคยนึกถึงชีวิตหลังเกษียณบ้างมั้ย? และรู้หรือไม่ว่าเงินที่ต้องใช้ในช่วงวัยเกษียณไว้เท่าไร? เชื่อว่ามีหลายคนมองว่า ‘การวางแผนเกษียณ’ เป็นเรื่องไกลตัว และไม่จำเป็นต้องรีบร้อน แต่เชื่อเถอะว่ายิ่งวางแผนได้เร็ว จะยิ่งทำให้มีอิสรภาพทางการเงินเร็วขึ้น และทำให้สามารถได้ทำในสิ่งที่อยากทำในช่วงบั้นปลายชีวิตได้ชัดเจนขึ้น

ได้ยินกันมาเสมอว่า “ถ้าอยากมีเงินเก็บ ก็ออมเงินสิ” แน่หละครับว่า การออมเงิน ทำให้เรามีเงินเก็บจริง แต่ยังไม่ได้ทำให้มีเงินงอกเงยขึ้นถ้าเก็บไว้เฉยๆ

หลังจากวางแผนมาหลายปี ในวัย 26 ปี ซานเตียโก ปุเอร์โตลัส (Santiago Puértolas) หนุ่ม ​Gen Z ชาวสเปน ก็สามารถออมเงินเกือบทั้งหมดจากรายได้ประมาณ 3.5 ล้านบาท/ปี ของตัวเองได้สำเร็จ

เป้าหมายทางการเงินสำหรับเก็บออมของเรามักถูกแบ่งออกเป็นสองก้อนใหญ่ๆ ก้อนแรกคือเงินสำรองฉุกเฉินเผื่อเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันในอนาคตระยะสั้น ส่วนอีกก้อนคือเงินสำหรับการเกษียณในอีกหลายสิบปีข้างหน้า

เมื่อกล่าวถึงความมั่งคั่งเราคิดถึงอะไร? เราอาจจะนึกถึง เสื้อผ้าแบรนด์เนม เครื่องประดับหรูหรา รถยนต์ป้ายแดงหรือบ้านหลังโต แต่นั่นไม่ใช่ความจริงเสมอไป