ก็มีเพื่อนๆแฟนเพจเข้ามาคุยด้วยเกี่ยวกับการลงทุนในปีหน้าว่าจะลงทุนอะไรดี ตลาดต่อไปจะกลายเป็น AEC แล้ว ส่วนตัวผมเองยังมองว่าประเทศไทยนั้นตอนนี้อาจจะเจอปัญหาเรื่องค่าแรงที่สูงเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมที่ไม่ต้องใช้แรงงานฝีมือสูง (อะไรก็ได้ที่คนทำง่ายๆเขาก็ย้ายกันไปง่ายๆ) เช่น กลุ่มตัดเย็บเสื้อผ้า ในขณะเดียวกันการที่เราจะออกไปลงทุนในต่างประเทศก็ต้องพบกับคู่แข่งด้านเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น เกาหลี ยุโรป สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีความได้เปรียบกว่าเรา
คำถามคืออะไรที่เป็นสิ่งที่น่าลงทุนตอนนี้บ้าง?
อุตสาหกรรมที่ผมเห็นค่อนข้างจะชอบก็จะเป็นกลุ่มท่องเที่ยวที่น่าจะมีแนวโน้มเติบโตได้จากความได้เปรียบของภูมิศาสตร์ประเทศ ต้นทุนทางวัฒนธรรมที่มีเยอะมาก แบบว่ามาเมืองไทยทีเที่ยวได้ทุกแบบ ไหว้พระ ช็อปปิ้ง กิน นอน ดื่ม นวด อยากได้อะไรคนไทยจัดให้ได้ด้วยความเต็มใจได้หมด
ผมก็เลยลองไปดูสถิติคนเข้าคนออกประเทศไทย (โดย Assume ว่าคนส่วนใหญ่มาเพื่อเที่ยวนะครับ) ข้อมูลนี้สามารถเข้าไปดูได้ที่เวปไซต์ของการท่องเที่ยวของประเทศไทยจากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ผมลองเปิดสถิติที่ผมมีอยู่ในเมืองคือช่วงเดือนตุลาคม ก็ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่านักท่องเที่ยวจะมาที่เมืองไทยถึง 2.2 ล้านคน โดยแบ่งจำนวนนักท่องเที่ยวได้ดังนี้ครับ
ชาติที่เข้ามาเกิน 1 แสนคนขึ้นไปในเดือนตุลาคมผมแยกออกมาให้ดูนะครับ ก็มีใกล้ๆ 1 แสนอื่นๆ อย่างญี่ปุ่น ส่วนตัวเลขที่ยังเข้ามาท่องเที่ยวมากแต่ยังไม่ถึงแสนก็ยังมี อังกฤษ สหรัฐอเมริกา อินเดีย เยอรมัน ฝรั่งเศส ออสเตรเลียและรัสเซียครับ แต่สิ่งที่น่าสนใจมันอยู่ที่นักท่องเที่ยวจีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของเราซะแล้ว
เราก็ไม่แน่ใจไงว่าสถิตินี้จะ Confirm ได้หรือเปล่าว่าเทรนการท่องเที่ยวจะมาและจีนเป็นลูกค้าหลักของเรา ผมเลยไปดูข้อมูลย้อนหลังซัก 3 ปีว่า Trend ของการท่องเที่ยวบ้านเราเติบโตไหมและมีนักท่องเที่ยวมาจากที่ไหนมากที่สุด
อันนี้เป็นสถิติหลายๆปี ผมคัดเอาประเทศที่ตัวเลขน่าสนใจมาให้ดูกันนะครับ
จากปี 2011 - 2015 (มค-ตค) ดูทรงแล้วน่าจะมีโอกาสที่เราจะเห็นนักท่องเที่ยวเติบโตได้อีกนะครับ ถ้าเราอิงสถิติในรอบปีที่นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไม่ต่ำกว่า 500,000 คน ก็มีโอกาสที่ปี 2015 จะมีสถิติที่ดีขึ้นจากปี 2014 อีก ก็ต้องมาลุ้นจำนวนนักท่องเที่ยวให้มาบ้านเราเยอะๆ (ถ้าเราลงทุนในอุตสาหกรรมนี้)
สถิติหลายๆปีเราจะเห็นได้ว่ายอดนักท่องเที่ยวจีนมีอัตราการเติบโตแบบถล่มทลาย ส่วนนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นก็ยังทรงๆนะครับอยู่ในอัตราเดิม ยกเว้นนักท่องเที่ยวจากรัสเซียที่เดิมเคยมีอัตราการเติบโตที่ดี แต่มาในช่วง 2 ปี หลังนี่ล่ะครับที่เกิดวิกฤตในค่าเงินรูเบิ้ล นักท่องเที่ยวรัสเซียหายไปเต็มเลย แต่ก็ยังติดอันดับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเมืองไทยต้นๆอยู่นะครับ
ปัจจัยที่กดดันท่องเที่ยวอยู่บ้างก็น่าจะเป็นปัญหาเรื่องความเสี่ยงด้านการเมือง ถ้ามีการประท้วง ก็อาจจะมีผลกระทบต่อตัวเลขนักท่องเที่ยวได้นะครับ แต่แปลกนะ! ดูจากสถิติแล้วต่อให้การเมืองไทยไม่ได้นิ่งมากก็ไม่ได้ทำให้คนกลัวการเข้ามาเที่ยวเมืองไทยเท่าไหร่
อีกปัจจัยหนึ่งก็คือเศรษฐกิจโลก แต่ถ้าหากจะมาลุ้นนักท่องเที่ยวจีนก็ต้องดูเศรษฐกิจจีนประกอบด้วยเหมือนกันว่าจะมีการชลอตัวในอนาคตขนาดไหน มีโอกาสเป็นแบบรัสเซียไหม? ตรงนี้ก็เป็นความเสี่ยงนะครับ แต่เมืองไทยเองก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ค่าใช้จ่ายไม่แพงมากเมื่อเที่ยวกับที่อื่นๆในโลก (คนชั้นกลางทั่วโลกสามารถเที่ยวได้) ถ้าเศรษฐกิจไม่ดี แต่ถ้าคนจะเลือกไปเที่ยว เมืองไทยก็ยังอยู่ในตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่นะครับ
ทีนี้นักท่องเที่ยวมาประเทศไทย ก็ต้องคิดกันต่อว่า เขาจะเอาเงินมาจ่ายกับอะไร? แล้วมีธุรกิจอะไรที่จะได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นบ้าง? เรานึกอะไรกันออกบ้างครับ? เท่าที่ผมนึกออกก็คือ
- สนามบิน : ต้องบินมาลงที่สุวรรณภูมิ
- โรงแรม : ถ้ามีนักท่องเที่ยวมามากขึ้น โรงแรมก็มีโอกาสคึกคักขึ้น
- แหล่งช็อปปิ้งต่างๆ : แน่นอนครับเราเห็นๆอยู่เลยทุกที่มีคนจีน ไปซื้อของกินของใช้
ส่วนใครที่สนใจลงทุนนอกตลาดผมว่าอะไรที่เป็นการพัฒนาด้านภาษาอย่างโรงเรียนสอนภาษาจีนน่าจะดีนะครับ รวมถึงถ้าหากเราอยากจะลงทุนกับตัวเองการเรียนภาษาจีนก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่จะเป็นประโยชน์ต่อเราในอนาคตได้
เดี๋ยวในตอนต่อไปผมจะลองเอาข้อมูลสถิติอื่นๆที่น่าจะบอกตัวเลขบางอย่างใน Theme การท่องเที่ยวในปีต่อไปนะครับ ดูว่าจะเป็นอย่างไร
ตกลงหุ้นอะไรจะมา?????
ติดตามใน Tar Kawin ใน Official Line @deb3801o
ข้อมูลอ้างอิงบทความ : การท่องเที่ยวของประเทศไทยจากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา