เพื่อน ๆ นักลงทุนทั้งหลายที่แฟนของ aomMONEY ถ้าติดตามข่าวสารด้านการลงทุนกันอย่างสม่ำเสมอ น่าจะพอทราบกันดีครับว่าเมื่อวันที่ 14 – 17 พ.ย. 62 ที่ผ่านมา ได้มีงานมหกรรมการลงทุนแห่งปีเกิดขึ้นอย่าง “SET in the City 2019”  ณ สยามพารากอน 

สำหรับงานนี้เรียกได้ว่าเป็นบทพิสูจน์เลยครับว่า “เทรนด์ WealthTech หรือเทคโนโลยีช่วยบริหารความมั่งคั่ง” กำลังกลายเป็นเทรนด์ที่มาแรงในปีนี้ เพราะนอกจากจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมากแล้ว WealthTech ยังเป็นกลุ่มสตาร์ทอัพเทคโนโลยีด้านการเงินการลงทุนที่น่าจับตา เพราะตอบโจทย์ประเทศไทยที่กำลังจะเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุในตอนนี้อีกด้วย 

Jitta Wealth

Jitta Wealth

กระแส WealthTech มาแรงขนาดไหน ดูได้จากผู้เข้าชมบูธ “Jitta Wealth” ในงาน SET in the City 2019 ก็ได้ครับ เรียกได้ว่าแน่นขนัดตลอดเวลา จน Jitta Wealth คว้ารางวัลบูธยอดเยี่ยมต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่ง Jitta Wealth เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทสตาร์ทอัพด้าน WealthTech ที่บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด โดยเป็นสตาร์ทอัพรายแรกในไทยที่ได้รับอนุญาตบริหารจัดการกองทุนส่วนบุคคล จาก ก.ล.ต. ครั้งนี้ Jitta Wealth มาร่วมงานในธีมสวนสนุก พร้อมพากูรูผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนแบบเน้นคุณค่า มาแชร์ประสบการณ์การสร้างความมั่งคั่งด้วย WealthTech ให้กับนักลงทุนได้ฟังกัน 

#ทำไม WealthTech ถึงได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก?

หลายคนคงสงสัยกันแล้วใช่ไหมครับว่า WealthTech เข้ามาช่วยการลงทุนได้อย่างไร ทำไมถึงได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก การที่ WealthTech ได้รับความนิยม ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้วิเคราะห์ข้อมูลโดยคุณเผ่า CEO จาก “Jitta Wealth”  ได้พูดในงาน SET in the City 2019 เพราะเทคโนโลยีสามารถวิเคราะห์ได้แม่นยำมากกว่า 90% และสามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่มากเกินกว่าที่มนุษย์จะทำได้ ที่สำคัญ คือ มีค่าธรรมเนียมที่ถูกอีกด้วยครับ และ aomMONEY ก็จะขอยกตัวอย่างของ WealthTech มาอธิบายให้ฟังคร่าว ๆ 

  • Robo advisor โปรแกรมที่เปรียบเสมือนเป็นผู้จัดการด้านการลงทุนให้กับเรา คอยวิเคราะห์และแนะนำว่าในช่วงอายุเท่านี้ กับความเสี่ยงที่เราสามารถรับได้ เราควรจะลงทุนในแบบไหน และนอกจากนี้ยังให้บริการลงทุนได้อัตโนมัติอีกด้วยครับ

  • Micro-investing เป็นการตัดเงินส่วนหนึ่งจากการที่เราใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เข้ามาทบกันเพื่อลงทุนอัตโนมัติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเงินลงทุนน้อย

  • AI Portfolio Manager คือ การนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการปรับพอร์ตการลงทุน และซื้อขายอัตโนมัติ ซึ่งในอนาคตคาดว่า AI จะสามารถแนะนำแผนทางการเงินให้เราได้ตั้งแต่เกิดยาวไปถึงจนเสียชีวิตเลยครับ อย่าง Jitta Wealth ก็ถือว่าอยู่ในหมวดหมู่ของ AI Portfolio Manager นี้ด้วย และเข้าถึงคนทั่วไปได้มากขึ้น เพราะใช้เงินลงทุนที่ต่ำกว่า 

“นอกจากเทคโนโลยีที่มีส่วนช่วยให้ WealthTech ได้รับความนิยมแล้ว WealthTech ยังเป็นประโยชน์กับเทรนด์การสร้างความมั่งคั่งระยะยาวแบบ passive อีกด้วย”

 

การลงทุนแบบ passive คือการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงในหุ้นหลายๆ ตัว ซื้อขายน้อยครั้ง และค่าธรรมเนียมต่ำ ไม่เน้นผลตอบแทนหวือหวา แค่ล้อไปกับการเติบโตของตลาดหุ้น แต่อาศัยลงทุนนานขึ้น ให้เวลาช่วยทำผลตอบแทนให้งอกเงยทบต้นเป็นเงินก้อนโต ซึ่ง WealthTech ก็เข้ามาช่วยทำให้การลงทุนแบบ passive เป็นระบบอัตโนมัติมากขึ้น ตั้งแต่การบริหารจัดสัดส่วน กระจายความเสี่ยงลงทุนในหุ้นหลายๆ ตัว และปรับพอร์ตอัตโนมัติ แม้เราจะทำงานไม่ค่อยมีเวลามาดูพอร์ต ก็ยังสามารถปล่อยให้เงินเติบโตไปเรื่อยๆ ได้ นอกจากนี้ WealthTech ยังช่วยทำให้ต้นทุนปฏิบัติการต่างๆ ลดลง ส่งผลให้ค่าธรรมเนียมต่ำ นักลงทุนก็ได้กำไรกลับไปลงทุนต่อมากขึ้น

#คุณธนัฐ ศิริวรางกูร หรือหมอนัท จากเพจ คลินิกกองทุน กล่าวเสริมบนเวทีเสวนาถึง WealthTech และ passive เรื่องการนำ WealthTech เข้ามาใช้ในการลงทุนแบบ passive นั้น จะทำให้ #ประหยัดค่าธรรมเนียม แล้วค่าธรรมเนียมที่น้อยลงจะมีผลอย่างไรกับการลงแบบ passive หมอนัทยกตัวอย่างให้เราฟังง่าย ๆ อย่างนี้ครับ 

#ตัวอย่าง สมมุติเราลงทุน 1 แสนบาท ผลตอบแทน 7% ต่อปี ใช้เวลาลงทุน 20 ปี โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมต่อปี เราจะได้ผลตอบแทน ประมาณ 3.8 แสนบาท แต่ถ้าเราเสียค่าธรรมเนียม 2% ต่อปี เราจะได้ผลตอบแทน 2.5-2.8 แสนบาท ซึ่งเท่ากับว่าเราจะสูญเสียผลตอบแทนไปแสนกว่าบาท หรือ 1 ใน 3 เลยครับ

Jitta Wealth

#Jitta Wealth ทางเลือก WealthTech เพื่อการลงทุนแบบ Passive  

“Jitta Wealth” เป็นอีกทางเลือกในการสร้างความมั่งคั่งผ่านการลงทุนในหุ้นแบบ passive ด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยี (WealthTech) ที่ประกอบด้วยอัลกอริทึม AI วิเคราะห์หุ้นเฉพาะตัว และระบบบริหารจัดการกองทุนอัตโนมัติ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการตัดสินใจลงทุนด้วยอารมณ์ ช่วยกระจายความเสี่ยงลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพดีและราคาเหมาะสม 20-30 หุ้นจากอันดับต้นๆ ของ Jitta Raking และช่วยปรับพอร์ตอัตโนมัติปีละครั้งอย่างสม่ำเสมอ

#Jitta Wealth เหมาะกับใคร?

เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นระยะยาวสไตล์ passive มุ่งหวังสร้างผลตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหุ้น และสามารถลงทุนได้อย่างน้อย 3-5 ปี โดยไม่ต้องบริหารจัดการพอร์ตด้วยตนเอง 

#ทำไม  Jitta Wealth ถึงได้รับความสนใจ                                                              

1. ผลตอบแทนระยะยาวสูงกว่าดัชนีตลาด การลงทุนโดยมนุษย์นั้นเราต้องยอมรับเลยครับว่าเลี่ยงไม่ได้ที่จะมี “เรื่องอารมณ์” เข้ามาเกี่ยวข้องในการลงทุน ทำให้การลงทุนอาจจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คาดหวัง ซึ่ง “Jitta Wealth” จะเข้ามาแก้ปัญหาในส่วนนี้ได้ด้วยการใช้เทคโนโลยีลงทุนตาม Jitta Ranking ที่เป็น AI จัดอันดับหุ้นดีราคาถูกน่าลงทุน ด้วยแนวคิดการลงทุนแบบวอร์เรน บัฟเฟตต์ ทำให้ได้ผลตอบแทนระยะยาวสูงกว่าดัชนีตลาด เพราะ AI ไม่มีปัญหาเรื่องอารมณ์เหมือนมนุษย์

2. ค่าธรรมเนียมถูก เนื่องจาก  “Jitta Wealth” ใช้เทคโนโลยี บริหารจัดการการลงทุน ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องต้นทุนจึงสามารถเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ใช้บริการได้ต่ำ โดยคิดค่าธรรมเนียมการจัดการเพียง 0.5% ต่อปี และ 10% ของกำไร

3.สะดวกสบายไม่ต้องมานั่งเฝ้าจอ เพราะ “Jitta Wealth” ใช้เทคโนโลยีทำงานแทนตัวเรา ทั้งการซื้อขายและปรับพอร์ตหุ้นให้อัตโนมัติ โดยเราสามารถเพิ่มเงินและถอนเงินได้บ่อยเท่าที่ต้องการ เหมือนลงทุนเองเลยครับ 

4. ลงทุนต่างประเทศได้ง่ายกว่า ถ้าเพื่อน ๆ อยากลงทุนในต่างประเทศ แต่ไม่ชอบความยุ่งยาก และไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร “Jitta Wealth” สามารถเข้ามาช่วยจัดการให้ได้ครับ ไม่ว่าจะเป็น ด้านเอกสาร แลกเปลี่ยนเงินตรา และกฏเกณฑ์การลงทุนในแต่ละประเทศ  และในปัจจุบันเปิดให้ลงทุน 3 ประเทศด้วยกันครับ คือ ไทย สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม


เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับข้อมูลที่ aomMONEY นำมาฝากเพื่อนๆ ในบทความนี้ ต้องบอกเลยว่าการลงทุนสไตล์ passive โดยใช้ WealthTech เข้ามาช่วยนี่น่าสนใจและเหมาะกับเทรนด์การลงทุนในยุคนี้มากๆ แต่ก่อนที่เราจะมั่นใจฝากเงินลงทุนไว้ให้ใครดูแลนั้น เพื่อนๆ ควรจะศึกษาวิธีการลงทุนและทำความเข้าใจแนวคิดการลงทุนให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ด้วยนะครับ 

และถ้าเพื่อนๆ สนใจจะลงทุนกับ Jitta Wealth ภายในปีนี้ มีโปรโมชั่นพิเศษ ทุก 1 ล้านบาท รับเงินเพิ่มทุน 100,000 บาท รับเพิ่มได้สูงสุดถึง 1 ล้านบาท หรือเทียบเท่าเงินลงทุนเริ่มต้น 10 ล้านบาท 

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์นี้เลยครับ  https://jittawealth.co/t/gkxp

Jitta Wealth

ทีมกองบรรณาธิการ aomMONEY

บทความนี้เป็น Advertorial