สวัสดีครับ กลับมาอีกแล้วกับคอลัมน์ Weekly Outlook สรุปและอัพเดทกลยุทธ์การลงทุนประจำสัปดาห์ กับผม อัศวินกองทุน ผู้ที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างคุณตลอดทุกช่วงการลงทุน ด้วยความรู้และข่าวสารที่ถูกต้อง
ในช่วงสัปดาห์นี้มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างครับ โดยเฉพาะในส่วนของตลาดหุ้น เห็นว่าที่ผ่านมาหลายตลาดปรับตัวขึ้น ซึ่งตรงนี้เป็นแนวโน้มที่ดีและมีผลกระทบต่อพอร์ทการลงทุนของเราอย่างไร ต้องติดตามกันครับ
![[WEEKLY OUTLOOK กับอัศวินกองทุน]
สรุปภาพรวมการลงทุน ช่วงวันที่ 17-21 กรกฎาคม 2560](https://dp1ole7q4wdk0.cloudfront.net/publishers/12/7b6cb8ed-a8c4-4686-9a8a-8f9102358c74__scb_170717-01.jpg)
ภาพรวมของตลาด
เริ่มต้นกันที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธาน FED แถลงเรื่องที่ FED พร้อมที่จะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย หากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำอยู่ แน่นอนว่าถ้าไม่มีการปรับขึ้นแบบนี้ ตลาดหุ้นต้องรับข่าวแบบดีใจแน่นอนครับ ฮ่าๆ
ส่วนมาดูฝั่งเอเชียบ้านเราบ้างครับ ตลาดแรก คือ ตลาดหุ้นจีน มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากมีการประกาศตัวเลขการส่งออก และการนำเข้าของเดือนพฤษภาคม ที่สูงกว่าตลาดคาดการณ์ และการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามหุ้นธนาคารทั่วโลก ถือว่าเป็นจังหวะหรือโอกาสไหม ต้องติดตามกันต่อไปครับ
สำหรับตลาดหุ้นอินเดียนั้นก็ไม่ยอมน้อยหน้าครับ มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางอินเดียจะมีนโยบายการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าจากอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวลงหลายเดือน โหวว สัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้นเพราะมีการใช้ภาษีใหม่ สัปดาห์นี้มีกำลังใจจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก แบบนี้จะรุ่งหรือร่วง เดี๋ยวรู้กันครับ
ทางด้านปู่ SET คนเดิม เพิ่มเติมคือแกว่งไปมา สัปดาห์นี้ก็ดีขึ้นเหมือนกันครับ เพราะตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับทิศทางราคาน้ำมัน และจากหุ้นในกลุ่มธนาคารและกลุ่มสื่อสารที่มูลค่าพื้นฐานยังต่ำกว่าหุ้นกลุ่มอื่นอยู่ครับ
มาดูทางฝั่งสินทรัพย์ทางเลือกกันบ้างครับ ใครหลายคนคงจะยิ้มได้ถ้าติดตามกันมาเรื่อยๆ เพราะตอนนี้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้วครับ ฮ่าๆ หลังจากสหรัฐฯ ประกาศตัวเลขปริมาณสำรองน้ำมันดิบที่ลดลงมากกว่าตลาดคาดการณ์ และสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) มีการประกาศตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากความต้องการใช้น้ำมันของประเทศสหรัฐฯ และเยอรมันที่สูงขึ้น
ทุกตลาดปรับขึ้นกันอย่างเมามันส์ กลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้ต้องระวังกันให้ดีหน่อยครับ มาดูกันดีกว่าว่าควรจะลงทุนแบบไหนอย่างไรบ้างครับ
กลยุทธ์ลงทุนในตลาดตราสารทุน
ตลาดหุ้นยุโรป เปิดฉากเริ่มจากตลาดที่ไม่ได้พูดถึงก่อนครับ ตอนนี้ผมมองว่าน่าจะเริ่มต้นสะสมหุ้นยุโรปขนาดเล็กหลังจากตลาดปรับตัวลงในช่วงนี้ เนื่องจากความกังวลถึงการขึ้นดอกเบี้ยของ ECB แต่ถ้าให้มองแนวโน้มแล้ว ผมคิดว่า ECB จะไม่สามารถขึ้นดอกเบี้ยได้เร็วตามคาดได้นะครับ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับตัวลงครับ โดยเหตุผลที่ผมแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นยุโรปขนาดเล็กนั้น มันมีสาเหตุจากรายได้ของบริษัทส่วนใหญ่มาจากการบริโภคในประเทศ จึงคาดว่าจะได้รับผลกระทบน้อยกว่าจากค่าเงินยูโรที่แข็งค่าในช่วงครึ่งปีแรกครับ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลายคนสะสมหุ้นสหรัฐฯ มาหลายสัปดาห์คงจะเริ่มหวั่นใจใช่ไหมครับ แต่จากสายตาของผมมองว่า ตอนนี้สหรัฐมีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและมีแนวโน้มเร่งตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับเงินดอลลาร์อ่อนค่าตั้งแต่ช่วงต้นปีเป็นปัจจัยสนับสนุนผลประกอบการบริษัทได้หลายทาง ดังนั้นยังจัดได้อยู่ครับ
ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปลุกเลือดซามูไรในตัวคุณ อย่าหยุดสะสมหุ้นญี่ปุ่นอย่างเด็ดขาดครับ เพราะผมมองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจจะฟื้นตัวต่อเนื่องในภาคการบริโภค และทาง BOJ ยังมีความจำเป็นต้องคงมาตรการกระตุ้นต่อเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนั้น เรื่องของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น ช่วยให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งเป็นปัจจัยทางบวกต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นล้วนๆครับ ดังนั้นอย่ากลัวครับ สะสมกันต่อไปได้เลยครับ
ตลาดหุ้นไทยและเกาหลี ยังต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนครับ ผมแนะนำให้สะสมหุ้นทั้งสองตลาดต่อไป เนื่องจากแนวโน้มการค้าระหว่างประเทศฟื้นตัว ซึ่งทั้งสองประเทศมีสัดส่วนการส่งออกต่อ GDP ในระดับสูง และผมมองว่าทั้งทางไทยและเกาหลีมีการค้าเกินดุลและเงินสำรองระหว่างประเทศในระดับสูงอยู่แล้ว ทำให้ค่าเงินบาทและเงินวอนมีเสถียรภาพ ลดความกังวลของนักลงทุนต่างชาติจากความผันผวนของค่าเงินได้ระดับหนึ่งครับ เอาล่ะ จัดไปครับ
ตลาดหุ้นจีน H-Share และอินเดีย สะสมกันมาเยอะแล้วนะครับ สำหรับสองตลาดนี้ผมแนะนำให้ชะลอการลงทุนทั้งคู่ครับ สำหรับเหตุผลของตลาดหุ้น H-Share นั้น เนื่องจากเป็นตลาดที่มีความผันผวนสูงกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ส่วนตลาดอินเดียตอนนี้ผมมองว่ามูลค่าพื้นฐานแพงและการเข้าซื้อสะสมของนักลงทุนต่างชาติอยู่ในระดับสูง ทำให้ความเสี่ยงขาลงมีมากหากนักลงทุนต่างชาติเทขายจากนโยบายการเงินตึงตัวในหลายประเทศ ดังนั้น รบกวนพักสักนิด อย่าเพิ่งจัดต่อ เดี๋ยวชีวิตจะมีปัญหาได้ครับ
สรุปคำแนะนำการลงทุนในสัปดาห์นี้ : สำหรับประเทศพัฒนาเน้นสะสมให้ครบทั้ง 3 ตลาดเลยครับ สหรัฐ ยุโรป (หุ้นเล็ก) และ ญี่ปุ่นครับ ส่วนตลาดเกิดใหม่เน้นฝั่งเอเชียเน้นคู่ไทยเกาหลี ซีรีย์บ้านพี่เมืองน้องยังอยู่เหมือนเดิมครับผม แต่ให้ระวังหุ้น H-Share และ อินเดียไว้ ดูท่าทีได้อยากให้ดูท่าทีก่อนครับ
กลยุทธ์ลงทุนในตลาดตราสารหนี้
ตราสารหนี้สหรัฐฯ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าเล็กน้อย หลังนางเจเน็ต เยลเลน กล่าวสนับสนุนให้ FED ลดขนาดงบดุลในอนาคตอันใกล้ แต่ยังมองว่าเฟดไม่ควรรีบขึ้นดอกเบี้ยอยู่ครับ
ตราสารหนี้ไทย อัตราผลผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 1-3 ปี ที่จะปรับขึ้นแรงมีโอกาสน้อย เนื่องจากรัฐบาลเน้นระดมเงินทุนจ