“จะส่งลูกเรียนคนนึงต้องวางแผนอย่างไร”

คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ภาระที่สำคัญที่สุดของการที่เป็นคุณพ่อคุณแม่ ก็คือ “ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของลูก” ซึ่งถ้าพ่อแม่ทุกๆ คนเลือกได้คงอยากให้ลูกได้มีโอกาสเรียนในระดับที่สูงที่สุด และ สถาบันที่ดีที่สุด ซึ่งถ้ามีกำลังก็อาจจะส่งเสียไปจนถึงระดับปริญญาโท ปริญญาเอกเลยก็ว่าได้ และถ้าให้ดีก็ต้องมีโอกาสส่งไปเรียนที่ต่างประเทศให้ได้ด้วย เพราะ อนาคตต่อไปการทำธุรกิจก็ต้องติดต่อต่างประเทศมากๆขึ้น ไม่เพียงจะใช้ภาษาอังกฤษ แต่เดี๋ยวนี้ต้องมีภาษาที่ 3 กันแล้วด้วย เช่น ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น เป็นต้น

ดังนั้นพ่อแม่ในยุคนี้จึงต้องมีการเตรียมการกันอย่างเป็นแบบแผนเลย ซึ่งให้ดีก็ต้องมีการวางแผนระยะยาวไปเลยจากวันนี้ถึงวันที่ลูกเรียนจบปริญญาตรี ปริญญาโท เลย

ซึ่งการวางแผนการศึกษาบุตรจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นและสำคัญกับคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้มากๆ เพราะ หากไม่รู้ว่าเราควรต้องใช้เงินทั้งหมดจนกระทั่งลูกเรียนจบระดับที่เราต้องการ ก็อาจจะมีปัญหาได้ เพราะ ระหว่างการเตรียมเงินเพื่อการศึกษาลูก ก็ยังต้องเตรียมเงินเกษียณอีกด้วย

ซึ่งเราจะประมาณค่าใช้จ่ายการศึกษาทั้งหมดได้ ก็ต่อเมื่อเราประมาณการว่า เราจะส่งลูกให้เรียนสูงสุดถึงระดับไหน

ดังนั้น สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ ต้องรีบจัดการคือ

1. เลือกประเภทสถาบันการศึกษาที่ให้ลูกเรียน 

ข้อนี้ก็เป็นที่คุณพ่อคุณแม่ จะต้องคิดร่วมกันว่าจะให้ลูกเราเรียนไปทางสายไหน ซึ่งโดยปัจจุบันก็มีอยู่หลายแนว ไม่ว่าจะเป็นสถาบันของรัฐบาล สถาบันของเอกชนและเดี๋ยวนี้ก็มีแบบเอกชนธรรมดา หรือ แบบเอกชน แบบ 2 ภาษา หรือที่เรียกว่า EP : English Program ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าแบบธรรมดาเพราะ ต้องมีครูต่างชาติมาสอนด้วย หรือแบบเอกชนแบบโรงเรียนสายทางเลือก ก็มีค่าเทอมสูงเช่นเดียวกัน หรือ เรียนแบบนานาชาติ ที่มีแต่ครูต่างชาติ 100% เลย ซึ่งแบบนี้ค่าเทอมก็แพงที่สุด

ดังนั้นการเลือกประเภทของสถาบันการศึกษาจะมีผลต่อค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมแน่นอน เพราะ เป็นการเลือกและต้องวางแผนระยะยาวเลยทีเดียว โดยปกติการเลือกเรียนประเภทใดแล้ว ก็จะไม่เปลี่ยนแนวทาง ดังนั้นพ่อแม่คงต้องคิดให้ดีนะครับ

2. เลือกทำเลของสถาบันการศึกษา 

ซึ่งหลังจากเลือกประเภทของสถาบันการศึกษาของลูกแล้ว ก็มาดูว่าเราจะให้ลูกเรียนทำเลไหนดี จะใกล้บ้าน จะใกล้ที่ทำงานของคุณพ่อหรือคุณแม่ เพราะ หากเราเลือกสถาบันดังๆที่เราต้องการแต่ต้องเดินทางไกล ก็อาจจะต้องยอมรับว่า ลูกของเราอาจจะต้องตื่นเช้ามากๆกว่าคนอื่น ต้องกินข้าวในรถ ระหว่างไปโรงเรียน แถมตอนขากลับก็ต้องฝ่ารถติดกลับบ้าน กว่าจะถึงบ้านก็อาจจะ 1-2 ทุ่ม ก็ต้องรีบทำการบ้านต่อ หรือจะจ้างรถโรงเรียนเพื่อให้กลับบ้านเร็วขึ้น ซึ่งตรงนี้ก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นด้วย แต่บางคนจะเลือกใกล้บ้านก็อาจจะไม่ต้องตื่นเช้ามากเพื่อไปโรงเรียน ซึ่งก็ทำให้เด็กได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ซึ่งข้อนี้ต้องคิดให้ดีนะครับ เพราะ ต้องเรียนหลายปีเลยทีเดียว

ดังนั้นข้อนี้ตามความเห็นผม จึงอยากให้พ่อแม่อาจจะ List ชื่อ โรงเรียนที่ต้องการ และแวะไป เยียมชมโรงเรียนนั้นๆก่อน (แนะนำว่าควรไปช่วงวันที่ทำการเรียนการสอนปกตินะครับ จะได้เห็นแนวทางการสอนแบบสดๆ) จากนั้นก็ค่อยประเมินว่าจะไปกลับอย่างไร ที่เราอยากให้เป็นครับ

อย่าลืมว่า “ ยิ่งเรียนสูงขึ้นไป ยิ่งใช้เงินเยอะ ”

1. ระดับตั้งแต่เตรียมอนุบาลและอนุบาล

โดยถือว่าเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดของการสร้างรากฐานของมนุษย์ โดยหากได้รับการศึกษาและพัฒนาอย่างถูกต้องเหมาะตามวัย ก็น่าจะทำให้ครอบครัวมีความสุขไปด้วย ซึ่งค่าใช้จ่ายในช่วงนี้ ก็จะเป็น ค่าอาหารกลางวัน ค่าเรียนว่ายน้ำ ค่าเรียนคอมพิวเตอร์ และ อื่นๆอีกมากมาย

2. ระดับประถมจนถึงชั้น มัธยมปลาย หรือ ไปสายอาชีวศึกษา

ซึ่งการใช้จ่ายในช่วงนี้ ก็จะมีค่าเรียนค่าเทอมสูงขึ้นกว่าสมัยอนุบาล ส่วนรายจ่ายอื่นๆ ก็ได้แก่ค่าหนังสือ เสื้อผ้า ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าเรียนพิเศษและที่พบบ่อยๆ คือ ค่าเรียนติวหนังสือ เพราะ พ่อแม่ก็คาดหวังจะให้ลูกมีโอกาสสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดัง เป็นต้น

3. ระดับปริญญาตรีขึ้นไป

ซึ่งช่วงนี้ค่าเทอมก็จะแพงขึ้นไปอีก และ อาจจะมีรายจ่ายเพิ่มมาเช่น ค่าไปอยู่หอ หรือบางทีค่าเดินทางก็แพงกว่าสมัยเรียนมัธยม เพราะ มหาวิทยาลัยอาจจะไกลจากที่พักอาศัยก็ได้ รวมถึงช่วงมหาวิทยาลัยก็มักจะมีค่ากิจกรรมมากกว่าปกติด้วย

และจากตารางแสดงอัตราค่าเล่าเรียน....

จะเห็นว่า ค่าเล่าเรียนจะยิ่งสูงขึ้นๆ ไปเรื่อยๆ แถมค่าเล่าเรียนที่เอามาโชว์นี้ก็ยังเป็นมูลค่าค่าเล่าเรียนในปัจจุบัน ดังนั้น การจะวางแผนทุนการศึกษาบุตร ก็ควรต้องมีการประมาณการเงินเฟ้อด้วย ก็จะได้เป้าหมายค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษาในอนาคตแล้วครับ

ดังนั้นการวางแผนจะส่งลูกเรียนนั้นคือสิ่งสำคัญมากๆ เพราะ มันคือการตัดสินใจของพ่อแม่ที่จะตั้งใจวางโปรแกรมการเรียนให้ลูกในระยะยาว ถึง 20-24 ปี เลย และที่สำคัญ สิ่งแรกๆหลังจากได้ประเภทการศึกษาและทำเลโรงเรียนลูกที่ต้องการแล้ว คือ “ค่าใช้จ่ายประมาณการที่ต้องเตรียมทั้งหมด” คือสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ ต้องคิดทันทีเป็นสิ่งแรกครับ เพื่อวางแผนการเก็บออมถูก และควรพิจารณาในหลายๆ มิติประกอบกัน ตามความพร้อมของเราด้วย ไม่ใช้ต้องถึงกับต้องเป็นหนี้เป็นสิน เพื่อส่งลูกเรียนนะครับ