ที่ผ่านมาเราคงทราบแล้วว่าทำไมคนส่วนใหญ่ถึงเกษียณไม่ได้สักที วันนี้ก็จะมาพบกับสาเหตุอีกสาเหตุนึง ที่ทำให้คนส่วนใหญ่เก็บออมไม่ถึงเป้าหมายซะที ก็คือ "การที่คนเราไม่เข้าใจเรื่องการลงทุนให้เงินทำงาน"  นั่นก็คือพื้นฐานของเรื่องอัตราดอกเบี้ยทบต้นนั่นเอง

ซึ่งสมัยก่อนๆ ถ้าย้อนกลับไปสัก 20 ปี คนรุ่นนั้นเค้าไม่ต้องสนใจกับเรื่องอัตราดอกเบี้ยทบต้นกันหรอก เพราะอะไรหรอครับ?

เพราะ คนรุ่นก่อนๆนั้นเค้าฝากธนาคารอย่างเดียวก็ได้ดอกเบี้ยมาใช้สบายๆ เงินต้นก็ยังอยู่ เช่น สมัยก่อนถ้าดอกเบี้ยเป็น 10% มีเงินสัก 1,000,000 บาท ตอนอายุ 60 ปี ก็สบายละ เพราะ จะได้ดอกเบี้ยปีละ 100,000 บาท มาใช้ทุกๆปี แบบนี้ก็เรียกว่า พอเกษียณได้ละ

แต่สมัยนี้ละครับ ต้องบอกว่าหมดสิทธิละครับ เพราะ อัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์เหลือไม่ถึง 1% ถ้าจะมีเงินใช้ปีละ 100,000 บาท ต้องมีเงินต้นเกิน 10 ล้านแล้วครับ

ดังนั้นวันนี้ใครที่ยังขยันทำงานเก็บเงินเก่ง แต่ไม่มีความรู้เรื่องการลงทุน ก็เหนื่อยครับ แถมยากที่จะเกษียณอีกด้วย ดังนั้น วันนี้จึงควรต้องมีคนช่วยเราทำงานให้เราด้วย ก็คือ อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน ครับ ซึ่งถ้าเรามีความรู้เรื่องการลงทุนมาก ก็มีโอกาสที่เราจะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนมาก ซึ่งมันก็จะช่วยให้เงินของเรา ทำงานช่วยเราอีกทางหนึ่งด้วย

ซึ่งผมเลยขอยกตัวอย่างตามภาพดังนี้ครับ โดย สมมุติว่าเราต้องการเป้าหมายเงินเก็บเพื่อเกษียณที่ 10,000,000 บาท จะมาได้ยังไง

โดยจากภาพเราต้องการผลลัพธ์ของเงินที่ต้องการคือ Financial Goal  ที่ 10,000,000 บาท

ซึ่งจะมาได้ต้องอาศัย 3 Factor ได้แก่

1. Amount Save = เงินที่เราสามารถออมได้ต่อปี  ซึ่งก็มาจากความสามารถของเราในการทำงานหาเงิน รวมถึงความมีวินัยในการออมด้วย

2. Return = ผลตอบแทนที่หาได้ต่อปี ซึ่งผลตอบแทนจะมากหรือน้อยนั้นก็ขึ้นกับความรู้ทางการลงทุน บางคนไม่มีความรู้ก็อาจจะสร้างผลตอบแทนได้แค่ 1% ต่อปีก็ได้

3. Time = ระยะเวลาที่สาสารถออมหรือลงทุนได้ ซึ่งถ้าเราอายุยังน้อยเราก็มีเวลาออมเยอะ แต่ถ้าอายุเรามากแล้ว เราก็เหลือเวลาน้อยลง

โดยตัวอย่างจะมีทั้งหมด 5 ทางเลือก ดังนี้

ทางเลือกที่ 1 = เก็บเงินได้เดือนละ 10,000 บาท (ปีละ 120,000 บาท) หาผลตอบแทนได้แค่ 1%ต่อปี ต่อให้มีเวลาออม 20 ปี เราก็จะได้เงินรวมเพียงแค่ 2.6 ล้าน เท่านั้น

ทางเลือกที่ 2 = ถ้าเก็บเงินได้เดือนละ 10,000 บาท เหมือนเดิม หาผลตอบแทนได้แค่ 1%ต่อปีเหมือเดิม แต่ถ้าต้องการเป้าหมาย 10 ล้านจริงๆ ก็ต้องรออีก 65 ปี เลยที่เดียว ซึ่งข้อนี้ก็คงไม่ใช้ทางเลือก

ทางเลือกที่ 3 = ออมได้เดือนละ 10,000 บาทเหมือนกัน มีเวลา20 ปี แต่เกิดสามารถหาความรู้ทางการลงทุนได้ที่  14%ต่อปี ก็จะได้เงิน 10 ล้านเหมือนกัน

ทางเลือกที่ 4 = เกิดเราออมเงินได้เพิ่มเป็นเดือนละ 20,000 บาท และมีเวลาออมเงิน 20 ปี ขอแค่หาผลตอบแทนได้ 8% ต่อปี  ก็จะได้เงินเป้าหมาย 10 ล้านเช่นกัน

และทางเลือกที่ 5 = เกิดเก็บเงินได้เดือนละ 50,000 บาท (600,000 บาท) และหาความรู้ด้านการลงทุนโดยหาได้ที่ผลตอบแทน 8% ต่อปี ก็จะสามารถบรรลุเป้าหมาย 10 ล้านได้ภายในเวลาเพียง 10  ปีนะครับ

ซึ่งจากภาพ 5 ทางเลือก จะเห็นว่าการจะได้เป้าหมายการเงินที่ 10 ล้าน นั้น ถ้าเราไม่มีความรู้การลงทุนเพื่อมาหาผลตอบแทนของการออมการลงทุน ต่อให้มีเวลาก็ยากที่จะเกษียณได้ตามเป้าหมายการเงินของเค้าจริงๆ

ดังนั้นจากนี้ไปทุกคนจึงควรเรียนรู้สินค้าการลงทุนอื่นๆที่หลากหลายเพื่อมาช่วยให้เงินทำงานงอกเงยได้มากขึ้นครับ ซึ่งก็จะทำให้เรามีสิทธิที่จะเกษียณอย่างสบายและมีความสุขยามบั้นปลายได้อย่างแน่นอน

By
สุรกิจ พิทักษ์ภากร
นักวางแผนการเงิน CFP ‪
#‎wealthplanner‬

*** มุ่งให้คนไทยมีสุขภาพการเงินที่ดี ***