ท่ามกลางเศรษฐกิจชะลอตัว หุ้นตกหนัก ดอกเบี้ยเงินฝากน้อยนิด มักเกิดคำถามว่าควรเอาเงินไปลงทุนอะไรดีเพื่อทำให้เงินงอกเงย? ครั้นจะเก็บเงินแช่ไว้ในบัญชีเงินฝากเฉยๆ ก็มีแต่มูลค่าลดลง ไม่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้

ผมขอแนะนำให้ลองศึกษาการลงทุนในคอนโดเป็นทางเลือกดูนะครับ เพราะราคาไม่ผันผวนเหมือนหุ้น และราคามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี

หลายคนอาจเข้าใจผิดคิดว่าต้องมีเงินเก็บหลักล้านก่อนถึงเริ่มซื้อคอนโดได้ แต่ในความเป็นจริงคนส่วนมากก็ใช้เงินเก็บหลักแสนเป็นเงินดาวน์ ส่วนยอดที่เหลือก็ขอสินเชื่อบ้านแล้วผ่อนจ่ายรายเดือนกับธนาคาร

ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ราคาคอนโดสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ราคาคอนโดขนาด 1 ห้องนอนในกรุงเทพฯขยับจากราคาเริ่มต้น 1 ล้านต้นๆ กลายเป็น 3 ล้านต้นๆ โดยได้พื้นที่ภายในห้องเล็กลงกว่าเดิมด้วย หลายคนคงเสียดายไม่ได้ซื้อไว้ บางคนรอจังหวะฟองสบู่แตกก็คงต้องผิดหวังกันไป ปัจจุบันปริมาณคอนโดมีมากกว่าความต้องการในบางทำเล (Over Supply) ต้องระมัดระวังในการลงทุนเพิ่มขึ้น เลือกทำเลที่ใช่ดูแล้วมีอนาคตที่ดี

และธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาตรการควบคุมสินเชื่อบ้าน (LTV) มีผลบังคับใช้ 1 เม.ย. 2562 เพื่อลดความร้อนแรงในการลงทุนอสังหาฯด้วยการจำกัดวงเงินสินเชื่อให้ลดลงต้องใช้เงินดาวน์ของตนเองมากขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องดีช่วยลดความเสี่ยงฟองสบู่แตก สำหรับคนที่สนใจซื้อคอนโดก็ต้องเตรียมเงินให้พร้อมมากขึ้นเท่านั้นเอง

ทิศทางอนาคตคอนโดผมเชื่อว่าราคายังขยับขึ้นไปได้อีกไกล แต่อาจมีบางช่วงบางปีสะดุดบ้างถ้าเจอวิกฤติการเงินทั้งในและต่างประเทศ ผมเห็นแบบอย่างจากประเทศสิงคโปร์ที่ราคาคอนโดแพงมากจนซื้อไม่ไหวต้องเช่าอยู่เอา หรือหากเป็นคนสิงคโปร์ก็จะใช้สิทธิ์ซื้อคอนโดราคาประหยัดจากรัฐบาลแทน ซึ่งการลงทุนคอนโดมีผลดีนอกจากได้รับผลตอบแทนสูงแล้ว ยังถือเป็นมรดกส่งต่อให้ลูกหลานได้อีกด้วย ถึงเวลานั้นเค้าจะขอบคุณที่เราซื้อคอนโดไว้ให้เขา เพราะอนาคตการเป็นเจ้าของคอนโดในเมืองคงเป็นเรื่องยาก

โดยวิธีการเลือกคอนโดควรเริ่มจากทำเลอยู่ในเมืองใกล้กรุงเทพฯชั้นในและเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสะดวก จากนั้นก็ลองสังเกตุดูว่ามีห้างสรรพสินค้า ออฟฟิศ โรงเรียน โรงพยาบาลอยู่ใกล้หรือไม่ แล้วค่อยพิจารณาเลือกตัวโครงการคอนโดจากรูปแบบโครงการ การออกแบบ ราคาต่อตารางเมตร และแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ

นอกจากนี้ต้องเลือกว่าอยากซื้อโครงการประเภทไหน ได้แก่ เปิดขายพรีเซลล์ยังไม่สร้างมักได้ราคาต่ำสุด หรือซื้อโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ราคาขยับขึ้นไปบ้างแต่ได้เห็นของจริง หรือซื้อคอนโดเก่าต่อจากคนอื่นได้ในราคาอดีตแต่ฟังก์ชั่นอาจไม่ทันสมัยเหมือนคอนโดใหม่ บางคนอาจสงสัยว่าแบรนด์มีความสำคัญยังไง

เหตุผลแรก คือสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าและบริการ 

เหตุผลถัดมา คือการปล่อยเช่าและขายต่อง่ายกว่า 

เหตุผลสุดท้ายคือ ราคาเพิ่มขึ้นในอนาคตดีกว่า

ดังนั้น ถ้ามีคอนโดคล้ายกัน 2-3 แห่ง แนะนำว่าช่วงเวลานี้ควรเลือกคอนโดที่มีแบรนด์น่าเชื่อถือ โดยหนึ่งในนั้นเป็นคอนโดของแสนสิริ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ผมให้ความไว้วางใจในการออกแบบและบริการหลังการขายอย่างมืออาชีพ รู้สึกถึงความคุ้มค่าจากราคากับเงินที่จ่ายไปครับ

ทั้งนี้ “แสนสิริ” ถือว่าเป็นผู้พัฒนาอสังหาฯ ระดับต้นๆ ที่มีโครงการไฮไลท์อยู่หลายโครงการและหนึ่งในนั้นคือ 98 Wireless คอนโดระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี ตั้งอยู่บนทำเลสี่แยกเพลินจิตใจกลางเมือง ตามมาด้วยแบรนด์คอนโดชั้นนำอย่าง XT, THE LINE, THE BASE และ D CONDO ซึ่งมีฐานลูกค้าเก่ารอซื้ออยู่เป็นจำนวนมาก

สังเกตได้จากยอดจองสูงตั้งแต่ช่วงพรีเซลล์ เหตุนี้จึงอยากชวนให้ลองไปชมห้องตัวอย่างที่สำนักงานขายในโครงการที่คุณสนใจดูครับจะได้สัมผัสถึงความใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ ที่แสนสิริตั้งใจรังสรรค์เพื่อผู้อยู่อาศัย อาทิ การเลือกลายหินอ่อนประดับไว้ในล็อบบี้โครงการ พร้อมใช้โทนสีพิเศษที่ไม่เหมือนใคร และดีไซน์บวกนวัตกรรมที่ยกระดับการอยู่อาศัยในคอนโดให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น หรือลองเข้าไปดูที่เว็บไซต์แสนสิริก่อนได้ที่ https://www.sansiri.com

บทความนี้เป็น Advertorial