เรื่องเม้าท์ๆเกี่ยวกับบริษัทชอบนักแหละ มาเปิดพอร์ตโครงสร้างรายได้ของ CENTEL กันดีกว่า หลายๆคนพอได้ยินชื่อธุรกิจ CENTEL แล้วจะนึกถึงโรงแรมเซ็นทาร่าขึ้นมาก่อน อย่างเซ็นทาร่าแกรนด์อยู่อยู่ข้างๆเซ็นทรัลเวิล์ดงี้จะนึกเป็นเรื่องแรกๆเลย

ถ้าเรามาดูโครงสร้างรายได้จาก CENTEL จะพบว่ามี 2 ธุรกิจนั่นก็คือ

โรงแรม ได้แก่โรงแรมในเครือของโรงแรมเซ็นทาร่า

ร้านอาหาร (มีเยอะมาก) ได้แก่ มิสเตอร์โดนัท เคเอฟซี อานตี้แอนส์ เป็บเปอร์ลันช์ ชาบูตง ราเมน โคลด์สโตน ครีมเมอรี่ โยชิโนยะ โอโตยะ เดอะเทอเรส เทนยะ คัตสึยะ

--

รายได้ของโรงแรมและร้านอาหารนั้นในปี 2560 มีสัดส่วน 44 : 53.9 และที่เหลือเป็นรายได้อื่นๆ พอเห็นเป็นสัดส่วนแบบนี้แล้ว อ้าว… งี้จริงๆรายได้หลักมันเป็นร้านอาหารสิ!

ใช่เลย ว่าแต่รายได้หลักๆมาจากไหน?

รายได้ทั้งหมดของปี 2560 นั้นมี 20,245 ล้านบาท ถ้ามากางดูจะเห็นรายได้หลักๆดังนี้

เคเอฟซี 6,058.2 ล้านบาท คิดเป็น 29.9%

มิสเตอร์ โดนัท 1,834.3 ล้านบาท คิดเป็น 9.1%

โรงแรมเซ็นทาร่าฯ เซ็นทรัลเวิล์ด 1,588.5 ล้านบาท คิดเป็น 7.8%

โรงแรมเซ็นทาร่าฯ พัทยา 1,179.4 5.8 ล้านบาท คิดเป็น 5.8%

โรงแรมเซ็นทาร่าฯ ลาดพร้าว 1,055 ล้านบาท คิดเป็น.8 5.2%

คือสรุปว่า รายได้จาก KFC นั้นครองสัดส่วนรายได้ในปี 2560 ไปเกือบ 30% ของพอร์ตการลงทุนบริษัท ถ้าเรามาดูย้อนหลังจะเห็นว่า สัดส่วนรายได้ของ KFC นั้น

ปี 2558 ยอดขายอยู่ที่ 5,548.7 ล้านบาท คิดเป็น 28.9%

ปี 2559 ยอดขายอยู่ที่ 5,823.4 ล้านบาท คิดเป็น 29.4%

ยังจำได้ไหมว่าหลายปีก่อนเวลามีข่าวไข้หวัดนก คนก็จะตื่นตระหนกเรื่องการกินไก่ จนอดีตนายกรัฐมนตรีต้องมากินไก่โชว์ให้ดู เรื่องนี้ทำให้เรามองเห็นความเสี่ยงได้ว่า หากเกิดเหตุลักษณะนี้ก็ “อาจจะ”ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อธุรกิจ และมีโอกาสกระทบกับราคาหุ้นได้เช่นกัน

ซึ่งคนที่ไม่ทราบก็อาจจะงงขึ้นมาได้ว่า เอ้… เกิดไข้หวัดนก ทำไมหุ้นลงโรงแรมมีผลกระทบได้นิ

วันนี้เราก็รู้แล้วนะจ๊ะว่า CENTEL มีอาชีพหลักคือ ขายไก่