พี่ว่าในชีวิตของพวกเราอาจจะเคยมีบางช่วงเวลาที่ต้องการเงินก้อนใหญ่เอามาหมุนทำโน่นทำนี่ เช่น การต่อเติมบ้าน ปรับปรุงบ้านขนาดใหญ่ ซื้อเฟอร์นิเจอร์ เอาไว้ค้าขาย โป๊ะหนี้เพื่อรีไฟแนนซ์ หรือไปใช้ในเรื่องอื่นๆ

บางทีเราอาจจะต้องรีบทำและไม่สามารถรอเก็บเงินออมในแต่ละเดือนให้ครบได้ ไม่งั้นต้องเลื่อนโครงการไปเป็นปีๆ และแน่นอนว่าถ้าเราจะไปยืมเงินใครก็คงไม่สะดวกใจนัก แล้วจะไปกดเงินสดจากบัตรต่างๆ ก็กลัวดอกเบี้ยก็บานนนน!  ต้องมานั่งใช้หนี้เพิ่มอีก…

แต่จริง ๆ แล้วมันก็มีวิธีที่น่าสนใจนะก็คือการเอา “บ้านไปเพิ่มเงิน”

การเอาบ้านไปเพิ่มเงิน ในความหมายพี่ “ไม่ใช่ว่าเราจะต้องขายบ้านทิ้งน่ะ การเพิ่มเงินแบบนี้ กรรมสิทธิ์บ้านยังเป็นของเรา ยังใช้อยู่อาศัยให้ครอบครัวลูกหลานอยู่อาศัยวิ่งเล่นได้ปกติ เพียงแต่เราใช้บ้านเป็นหลักประกันเพื่อขอเงินกู้มาใช้จ่ายตามเป้าหมายของเรานั้นเอง

วิธีการนี้ได้เงินง่ายกว่าขายบ้านอีก (ขายบ้านยังต้องรอขายอีกนาน) หากเรามีบ้านก็แค่ทำเรื่องกับธนาคาร รอผลการพิจารณาก็สามารถได้รับเงินก้อนได้เลย

ทีนี้หลายๆคนก็อาจจะสงสัยว่า ถ้ามีบ้านจะเอาไปเพิ่มเป็นเงิน  “เงื่อนไขเป็นอย่างไรและต้องจ่ายดอกเบี้ยเท่าไหร่?”

พี่ขอแบ่งบ้านเป็น 2 ประเภทนะ

ประเภทที่ 1 บ้านเราเอง มีโฉนดที่ดิน แถมผ่อนหมดแล้ว

ในกรณีแรกบ้านที่เราอยู่เป็นของเรา มีโฉนดที่ดิน ไม่ใช่อาคารพาณิชย์หรือที่ดินเปล่า อันนี้ง่ายเลย เราสามารถเดินไปที่ธนาคารและทำเรื่องกู้ได้สูงสุดถึง 80% ของราคาประเมิน กู้ได้ในระยะเวลาถึง 30 ปี แต่เมื่อรวมอายุเราแล้วต้องไม่เกิน 65 ปี ทำเรื่องกับธนาคารแล้วเขาจะอนุมัติวงเงินให้เราไปใช้ได้

ตัวอย่างนี้จะเป็นของโครงการ Happy Home for Cash (สินเชื่อบ้านเพิ่มเงิน) ของ LH Bank อัตราดอกเบี้ยสามารถดูตามตารางข้างล่าง ซึ่งพอเฉลี่ย 3 ปีแรกจะอยู่ที่ 5.00% และเฉลี่ย 5 ปีที่ 6.01% กรณีเราทำประกันเพื่อคุ้มครองสินเชื่อ หากไม่ทำจะอยู่ที่ เฉลี่ย 3 ปีแรกที่ 5.50% และเฉลี่ย 5 ปีที่ 6.40% หากทำประกันก็ดีนะ ได้ความคุ้มครองในความเสี่ยงแถมอัตราดอกเบี้ยก็ลดลงด้วย

เห็นไหมว่าข้อดีของการใช้บ้านเป็นหลักประกัน อัตราดอกเบี้ยจะถูกกว่าไปขอสินเชื่ออื่นๆ นี่แค่ 5-6% เองนะ ถ้าไปกดเงินเอาจากบัตรเครดิตโดนทีไปเลย 20%

ประเภทที่ 2 เราผ่อนบ้านอยู่ อยากรีไฟแนนซ์รับเงินก้อนเพิ่ม

มาดูในรูปแบบที่ 2 บางคนผ่อนบ้านอยู่ไง อยาก รีไฟแนนซ์เพื่อลดภาระดอกเบี้ย เลยต้องไปกู้มาโป๊ะจากที่นึง มาไว้อีกที่นึงที่ผ่อนถูกกว่า ก็สามารถติดต่อธนาคารได้เช่นกันนะครับ รูปแบบนี้กู้ได้ 100% ของภาระหนี้แต่ไม่เกิน 90% ของราคาประเมินหลักประกัน กู้ได้ถึง 35 ปี แต่เมื่อรวมอายุเราแล้วต้องไม่เกิน 65 ปี นอกจากนี้หลักทรัพย์ค้ำประกันการขอสินเชื่อ จะต้องมีราคาประเมินตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป และเงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

ตัวอย่างนี้จะเป็น สินเชื่อรีไฟแนนซ์ของทาง LH Bank ซึ่งเราเลือกได้ในรูปแบบอัตราดอกเบี้ยคงที่ 1 ปี หรือ ลอยตัว และหากเราทำประกันคุ้มครองสินเชื่อด้วย ทางธนาคารจะสำรองจ่ายค่าจดจำนอง ให้ 1% แต่ไม่เกิน 200,000 บาท และห้ามปิดบัญชีสินเชื่อนี้ภายใน 5 ปีแรก

ตารางข้างล่างนี้จะเห็นได้ว่า หากเราใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่และทำประกัน เฉลี่ย 3 ปีจะอยู่ที่ 3.15% และเฉลี่ย 5 ปีจะอยู่ที่ 4.09% กรณีที่เราเลือกดอกเบี้ยลอยตัว หากทำประกัน อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีจะอยู่ที่ 3.00% และเฉลี่ย 5 ปีจะอยู่ที่ 4.00% ในกรณีไม่ทำประกัน อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีจะอยู่ที่ 3.25% และเฉลี่ย 5 ปีอยู่ที่ 4.10% รูปแบบไหนที่ดีต่อเรา พี่แนะนำให้ลองคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อหารูปแบบที่ดีที่สุดกับเราครับ

เห็นไหมว่าไม่ต้องไปหาเงินกู้ที่ไหน แค่มีบ้านก็รับเงินก้อนเพิ่มได้แล้ว ทีนี้ก็อยู่ที่เราแล้วว่า บ้านเรานั้นเป็นบ้านแบบไหน ผ่อนหมดหรือยัง หรือต้องการรีไฟแนนซ์ ก็สามารถตรวจสอบข้อมูลดูรายละเอียดตามเงื่อนไขได้นะครับ

สำหรับใครที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Happy Home for Cash สินเชื่อบ้านเพิ่มเงิน ตอนนี้ทาง LH Bank เขาจัด Campaign ตั้งแต่วันนี้ - 31 มีนาคม 2562 นี้ (เบิกใช้วงเงินกู้ภายใน 15 เมษายน 2562) อย่าพลาดงานนี้นะครับถ้าต้องการแลกบ้านเป็นเงิน สามารถดูรายละเอียดได้ที่ http://bit.ly/2MsyysM หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 02-359-0000

บทความนี้เป็น Advertorial