หลายๆคนมาขอสูตรลับการออมหุ้น แบบ DCA กับผม อยากให้เล่าทั้งประสบการณ์ในการลงทุนและวิธีการลงทุนออมหุ้นให้ได้ผล จริงๆการออมในหุ้นมันไม่ยากเลยนะครับ มันมีหลักการง่ายๆเหมือนกับการออมเงินนั่นล่ะก็คือ "สร้างวินัยในการลงทุนให้ได้" แต่องค์ประกอบและปัจจัยในการลงทุนคืออะไรใน Post นี้ ผมจะเล่าให้ทุกคนฟังครับ 

กรอบการลงทุนต้องชัดเจน

กรอบการลงทุนในการออมหุ้นคืออะไร?

เราต้องทราบก่อนนะครับว่า "การลงทุนคือการนำเงินเข้าไปซื้อหุ้น" ปัญหาของนักลงทุนในปปัจจุบันคือ ซื้อหุ้นอะไร ซื้อหุ้นที่เมื่อไหร่ ซื้ออย่างไร? มันมีหลากหลายทฤษฎีในการลงทุนมากซึ่งคุณสามารถเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับความรู้และความถูกชะตาของคุณ ในส่วนของการลงทุนแบบ DCA นั้น กรอบการลงทุนผมขอเสนอดังนี้ครับ  

สิ่งที่จะขาดไม่ได้สำหรับการลงทุนใดๆก็คือการวางแผนเงินออม ผมเองก็จะย้ำเสมอครับว่า 

"การลงทุนจะดีได้หากเราวางแผนการเงินมาอย่างดี" 

ในจุดนี้อาจจะมีคนพูดถึงน้อยมากเพราะโดยส่วนใหญ่ที่ผมคุยกับหลายๆคน ความสนใจของคนที่จะมีเงินออมคือคนที่กำลังมีหนี้อยู่และอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง ส่วนคนที่สนใจลงทุนก็คือคนที่มีเงินเหลือๆเป็นก้อนๆและอยากนำเงินก้อนมาลงทุน จริงๆแล้วหากเราวางแผนการออมอย่างเหมาะสม มันไม่ใช่แค่ทำให้คุณสามารถ "ลดหนี้" ได้เท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างเงินออม ป้องกันความเสี่ยงต่างๆที่จะทำให้ชีวิตของเราสูญเสียความมั่งคั่งและนำบางส่วนมาออมในหุ้นได้อีกต่างหากหลักการนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเริ่มทำนะครับ เอาแค่เรามีเงินออมก็คือเรารวยกว่าเดิมแล้ว ออมทีละนิด เดือนละหน่อย จนเป็นวินัยมันจะทำให้เราสามารถยกสถานะของตัวเองขึ้นมาได้ แล้วเราก็นำเงินนั้นมาลงทุนต่อ

การออมไม่เคยทำร้ายใครและวินัยก็เป็นพฤติกรรมทางบวกของมนุษย์

ลองเริ่มจากการเก็บออมเดือนละ 1,000 บาท 2,000 บาท เพราะการลงทุนสมัยนี้ไม่จำเป็นต้องมีเงินก้อนเยอะๆแล้ว ทุกคนมีโอกาสที่จะสร้างเงินล้านได้เหมือนกัน ต้าร์เองก็เป็นคนหนึ่งที่เริ่มต้นมาจากวิธีการง่ายๆแบบนี้การกำหนดแผนการออมเงินนั้น เราจะไม่ทำแค่ในเวลาเพียงสั้นๆแค่ 1 ปีเท่านั้น สำหรับผมแล้วจะต้องวางแผนกันข้ามปีกันเลย (อันนี้เป็นระดับ Advance แนวๆต้าร์กวินเลยนะครับ) โดยในปีแรกคิดเลยว่าจะออมเท่าไหร่? แล้วเราตั้งเป้าหมายกันต่อว่า ในปีต่อๆไปเมื่อเรามีรายได้มากขึ้น จากเงินเดือนที่มากขึ้น โบนัสที่มากขึ้น เงินปันผล รายได้พิเศษ เราจะสร้างเงินออมมาลงทุนในอัตราเท่าไหร่? หรือ ในจำนวนเงินเท่าไหร่? และเราก็มาลงทุนเรื่อยๆครับ จาก 1 เป็น 2 จาก 2 เป็น 10 รับรองว่าคุณจะมีความสุขกับการเห็นตัวเลขที่งอกเงยและตอบคำถามได้ว่า ชีวิตยามเกษียณจะมีอะไรบ้าง  

วางกรอบการลงทุนในเรื่องของเวลา

ในเรื่องของการวางแผนเงินออมนั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากเราไม่มีเรื่องของกรอบของเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะหลักการของการออมก็คือนำเงินที่ได้รับมา มาหยอดกระปุ๊กทีละนิดๆ จนกระทั่งคุณสามารถเก็บเงินได้ตามเป้าหมาย เพราะฉะนั้นในแง่ของการออมในหุ้นก็เช่นกัน กรอบการลงทุนเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่จะทำให้คุณไปสู่เป้าหมายที่กำหนดในเชิงของการนำเงินทุนมาใช้ในการสร้างความมั่งคั่ง

ตรงนี้เป็น How to ที่สำคัญนะครับ

เพราะถ้าหากผมบอกว่าแค่ว่า เอาเงินไปลงทุนในช่วงหุ้นที่มันถูกๆซิ นั่นคือคุณเอาชีวิตของคุณเข้าไปเล่นกับราคาหุ้นแล้ว และคุณก็ไม่มีทางรู้เลยว่า หุ้นจะขึ้นหรือจะลงหรือจะผันผวนให้คุณหวาดเสี๋ยวได้เมื่อไหร่ เราไม่รู้จุดต่ำสุดและจุดสูงจุดของราคาหุ้น วันนี้กับวันพรุ่งนี้หุ้นมีราคาเปลี่ยนแปลงได้ วันนี้กับอีก 5 ปี ก็จะมีความแตกต่างกันเช่นกัน อาจจะกำไรสุดๆ หรือ อาจจะเจอวิกฤตกระทบก็ได้ การบอกว่าลงทุนในช่วงที่หุ้นถูกมันไม่ได้สร้างกรอบการลงทุนให้เรา แต่หากเราตั้งเป็นแผนว่าจะลงทุนทุกๆเดือนด้วยจำนวนเงินที่เรากำหนดไว้ นี่คือการสร้างกรอบการลงทุน

การลงทุนแบบ DCA จะลดความเสี่ยงการลงทุนให้กับเรา ทำให้ไม่ต้องพบกับความผันผวนเพราะวิธีการนี้จะไหลไปกับตลาดได้ในทุกสภาวะ ขอให้เรากำหนดกรอบเวลาของเราให้ดีก็พอ เช่น รายเดือน รายไตรมาส รายปี ซึ่งมันไม่ต่างกับการลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การลงทุน LTF รายปี หรือบางคนก็อาจจะจ่ายหนี้รายเดือนอยู่แล้ว แค่เปลี่ยนจากการจ่ายหนี้มาเป็นการลงทุนเพิ่มเท่านั้นเองครับลองคิดเล่นดูว่าหากคุณลงทุนเดือนละ 1,000 บาท และผลตอบแทนเฉลี่ยได้ประมาณ 5-10% ต่อปี เพียงแค่ 5 ปีเท่านั้นคุณก็มีเงินพอที่จะไปเที่ยวในต่างประเทศได้แล้ว แต่การลงทุนคือการสร้างความมั่งคั่งระยะยาว เราคงไม่ได้มองแค่ 5 ปี ใช่ไหมครับ เรามองถึงโน้นเลย ยามเกษียณเป็นหลักแรก เมื่อเราสะสมความมั่งคั่งได้มากพอแล้ว เราก็จะสามารถนำเงินมาใช้ในการสร้างความสุขในด้านอื่นๆ เป็นเป้าหมายต่อๆไปให้กับชีวิตได้ครับ

Tip การสร้างความมั่งคั่ง

ในช่วงที่ผมเป็นมนุษย์เงินเดือน

ผมจะทำการจัดสรรเงินว่าผมจะออมเงินเท่าไหร่ เริ่มต้นเลยการทำงาน ณ ปีแรกๆ เงินเดือนประมาณ 20,000 บาท ผมได้ สิ่งแรกที่ผมคิดก่อนก็คือจะจัดสรรเงินออมยังไง เพื่อนๆผมหลายคนเริ่มผ่อนรถ ผ่อนคอนโด แต่ผมคิดว่าเงินเดือนผมมันน่าจะเอาไปทำอะไรให้งอกเงยก่อนได้บ้าง ผมเริ่มจากการหักเงินเล็กๆน้อยๆ 3,000 บาท ต่อมาเพิ่มมาเป็น 6,000 บาท และเพิ่มอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆเพื่อมาลงทุนเป็นเงิน 10,000 บาท 20,000 บาท หลายคนถามผมว่า เอาเงินมาจากไหน?

เงินเดือนไง!

ในปีแรกๆผมทำงานได้แค่ 20,000 บาท แต่ต่อมาเงินเดือนมันก็ขึ้นเป็น 25,000 30,000 40,000 บาทไปเรื่อยๆ หลายๆคนบอกว่าเราควรจะกำหนดเงินออมเป็น % ซึ่งผมไม่ได้ทำแบบนั้น ผมตั้งเป้าหมายเป็นรูปจำนวนเงินเลย เช่น ผมรู้ว่าผมมีรายจ่ายประมาณ 10,000 บาทต่อเดือน ในปีแรกผมออมได้ 50% ของรายได้ พอเงินเดือนขึ้น เป็น 30,000 รายจ่ายผมก็ไม่ได้สูงตามเท่า