ไหนใครเป็นเจนวายยกมือขึ้น!! เชื่อว่าหลายๆ คนกำลังมีลิสต์ความคิดที่จะช้อปจะเที่ยวเยอะแยะมากมาย เรียกได้ว่าของมันต้องมีเต็มอยู่ในหัวเยอะแยะ แต่ก่อนที่จะใช้จ่ายไปนั้น เคยคิดไหมว่าเงินจะพอไหม หรือจะจ่ายบัตรเครดิตพอไหม

ถ้าคิดแล้วเงินทองมีปัญหา อยากจะบอกว่าคุณมาถูกทางแล้ว เพราะอภินิหารเงินออม มีทริคง่ายๆ ด้วยการออมแบบ เบา กลาง หนัก 3 สไตล์ที่ GEN Y คนไหนอ่านก็ทำได้แน่นอน เพื่อของมันต้องมีในวัย 40 แบบชีวิตการเงินไม่พัง

สูตรลัดเก็บเงินแบบชิลล์ๆ สไตล์ อภินิหารเงินออม :

“GEN Y ต้องมีเงินเก็บฉุกเฉิน”

เผื่อชีวิตเกิดดราม่า จะได้ไม่ต้องเข้าไปสู่วังวนหนี้สินที่ยับเยินเพราะดอกเบี้ยเงินกู้แสนแพง เช่น ตกงานกระทันหัน เราก็ไม่เดือดร้อน ยังมีเงินกินข้าว บ้านรถยังอยู่ครบเพราะมีเงินฉุกเฉินที่ตุนไว้มาใช้จ่ายระหว่างรองานใหม่

ควรมีเท่าไหร่ :  เตรียมไว้ 3 - 6 เท่าของค่าใช้จ่าย เช่น หนี้สินและใช้จ่ายส่วนตัวเดือนละ 25,000 บาท ควรมีเงินฉุกเฉินไว้ 75,000 - 150,000 บาท ถ้าตกงานก็ยังมีเงินใช้ต่อลมหายใจไปได้อีก 3 - 6 เดือน

เก็บเงินไว้ที่ไหน : ควรเลือกวิธีเก็บเงินที่เงินต้นอยู่ครบ มีสภาพคล่องสูงทำให้เราถอนใช้ง่ายๆ เช่น ฝากไม่ประจำ ถอนได้ ดอกเบี้ยสูง

และนี่คือ 3 สูตรลัดง่ายๆ การเก็บเงินที่สุดแสนจะชิลล์ ที่แนะนำโดย Guru ที่เชี่ยวชาญ ชาว Gen Y ทั้งหลายที่เพิ่งเริ่มต้นก็สามารถลองหยิบสูตรลัดการเก็บเงินแบบชิลล์ๆ เหล่านี้ไปใช้กันดูได้เลย เพราะอีกไม่นานเราก็จะเข้าวัย 40 กันแล้ว ไม่มีแฟนไม่เท่าไหร่ แต่ไม่มีตังค์นี่เรื่องใหญ่! #ของมันต้องมีก่อน40

สูตรลัดเก็บเงินแบบสายกลาง สไตล์ อภินิการเงินออม :

GEN Y ต้องมีเงินเก็บเพื่อความฝัน

เราต้องการใช้เงินก้อนนี้ไว้ทำอะไร เช่น ท่องเที่ยว ซื้อบ้าน แต่งงาน ทำศัลยกรรม ซื้อรถยนต์ เรียนต่อ เก็บไว้ใช้ในวัยอิสระหลังอายุ 60 ฯลฯ

ควรมีเท่าไหร่ : เรามีเรื่องใช้เงินไม่จำกัด แต่เรามีรายได้แบบจำกัด เราอยากทำทุกความฝันพร้อมกันไม่ได้ เราต้อง “จัดลำดับความสำคัญ” ว่าเรื่องจำเป็นต้องทำก่อน เรื่องที่ไม่รีบไว้ค่อยทำทีหลัง เพื่อจะได้แบ่งเก็บเงินให้เหมาะสมกับช่วงเวลาที่จะใช้เงิน เราแบ่งเป้าหมายความฝันไว้ 3 ช่วงเวลา

สูตรลัดเก็บเงินแบบจัดหนัก สไตล์ อภินิหารเงินออม :

ใช้เงินแบบนี้แล้วชีวิตดี๊ดี!! เริ่มจาก รายได้ - เงินออม - หนี้สิน = รายจ่ายส่วนตัว พอเงินเดือนเข้ากระเป๋าปุ๊บ ก็เอาไปออมก่อนแล้วจ่ายหนี้สิน สุดท้ายเหลือเท่าไหร่ก็ใช้เท่านั้น เราแบ่งรายได้ 100% เป็น 3 ส่วน ตามนี้จ้า …

ถ้าเรามีหนี้สินหรือรายจ่ายส่วนตัวน้อยลงก็จะมีเงินออมมากขึ้น เอาล่ะ หลังจากที่เรามีเงินฉุกเฉินครบ 3 - 6 เท่าของค่าใช้จ่ายและแบ่งเงินเพื่อชีวิตอิสระในวัยเกษียณแล้ว อย่าลืม!! เก็บเงินเพื่อเรื่องนี้ด้วยจ้า

แบบจัดหนัก!! : เงินออมกับชีวิต เพื่ออนาคตที่สดใส

“เรารู้วันเกิด แต่ไม่รู้วันตาย” เมื่อรายได้ของเราเป็นเสาของบ้านที่ยึดโครงสร้างทุกอย่างไว้ให้มั่นคง ถ้าทำประกันปิดประตูความเสี่ยงไว้ แม้ว่าโชคร้ายเกิดแผ่นดินไหวหนักครั้งใหญ่ บ้านพังยับ ก็ยังเบาใจเพราะครอบครัวมีเงินก้อนมาสร้างบ้านหลังใหม่ได้

วิธีการคำนวณ : เราทำงานอีก 30 ปี มีรายได้เดือนละ 30,000 บาท สมมติรายได้คงที่ ตลอดชีวิตเราสร้างรายได้ให้ครอบครัวประมาณ 360,000 บาท x 30 ปี = 10,800,000 บาท ถ้าอย่าลืมว่ารายได้ของเราเพิ่มขึ้นทุกปีตามความสามารถของเรา อนาคตก็จะมีเงินมากกว่านี้

  • แนวคิดการทำประกันชีวิต คือ ซื้อความคุ้มครองชีวิต (เรียกเป็นทางการว่าทุนประกัน) 1,800,000 - 10,800,000 บาท เช่น เราต้องการสร้างความคุ้มครองรายได้ 5,000,000 บาท ที่ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน เบี้ยประกันปีละ 24,000 บาท
  • เบี้ยประกันที่เราจ่ายเพื่อซื้อความคุ้มครองเปลี่ยนแปลงไปตามเพศ อายุ จำนวนความคุ้มครอง ควรเลือกให้เหมาะสมกับสภาพคล่องของตัวเองด้วย
    • คนโสด จ่ายเบี้ยประกันต่อปี ไม่ควรเกิน 15 - 20% ของรายได้ต่อปี
    • คนมีครอบครัว จ่ายเบี้ยประกันต่อปี ไม่ควรเกิน 10 - 15% ของรายได้ต่อปี

ตัวอย่าง : การออมเงินแบบจัดหนัก

เราอายุ 30 มีรายได้เดือนละ 30,000 บาท รายจ่ายเดือนละ 25,000 บาท แบ่งออมเดือนละ 5,000 บาท อยากมีเงินสำรองไว้เผื่อตกงานและเก็บเงินไว้ใช้หลังเกษียณ ควรแบ่งเก็บที่ไหน เท่าไหร่

  • เงินฉุกเฉิน : จำนวน 75,000 - 150,000 บาท เราทยอยเก็บไว้เงินฝากออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงเดือนละ 1,500 บาท
  • เงินเกษียณ : เราเก็บไว้ที่กองทุนรวมหุ้นต่างประเทศเดือนละ 1,500 บาท
  • เงินปกป้องรายได้ : เราเก็บไว้ที่ประกันควบการลงทุนเดือนละ 2,000 บาท

อย่ารอ อย่าเดี๋ยว ต้องเริ่มทำทันที!!

บทความนี้เป็น Advertorial