ผมเชื่อว่า ใครก็ตามที่มีรถยนต์ ส่วนใหญ่แล้ว ก็มักจะเลือกทำประกันรถยนต์ในทันทีไปโดยปริยาย เพราะเรามักจะตระหนักกันดีอยู่แล้วว่า อุบัติเหตุบนท้องถนนมีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจากทั้งตัวเราเอง หรือจากผู้อื่น แม้ว่าเราจะระมัดระวังเป็นอย่างดีแค่ไหนแล้วก็ตาม

แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องซื้อประกันรถยนต์ ซึ่งปัจจุบัน เราก็มักจะเลือกซื้อจาก “โบรคเกอร์” ที่สามารถเลือกซื้อได้หลายบริษัท แต่ส่วนใหญ่เราก็มักจะดูจาก “ราคาเบี้ยประกัน” เป็นหลัก ว่าประกันชั้นไหน โบรคเกอร์เจ้าไหนขายเบี้ยถูกที่สุด ก็มักจะเลือกเจ้านั้น เพราะคิดว่า “ถูกที่สุด = คุ้มค่าที่สุด” ซึ่งในความเป็นจริง อาจไม่เป็นแบบนั้นเสมอไป เพราะการจะซื้อประกันรถยนต์สักกรมธรรม์นั้น มีหลายประเด็นที่เราควรจะต้องคิด และระมัดระวัง นอกเหนือจากแค่เรื่องของค่าเบี้ย เนื่องจากบางครั้ง ราคาถูก ก็อาจจะต้องแลกกับ ความคุ้มครองหรือคุณภาพการให้บริการที่แย่ลงตามไปด้วยก็เป็นได้

ซึ่ง “เทสโก้ โลตัส โบรคเกอร์ประกันภัย” ก็ถือเป็นโบรคเกอร์ประกันภัยเจ้าหนึ่ง ที่ให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อประกันรถยนต์อย่างมีคุณภาพ โดยที่ไม่ได้เน้นเฉพาะแค่การแนะนำประกันรถยนต์ที่ค่าเบี้ยประกันราคาถูกแต่เพียงอย่างเดียว แต่ควรจะพิจารณาปัจจัยในการเลือกทำประกันรถยนต์ด้านอื่นๆที่มีความสำคัญไม่แพ้กันเอาไว้ด้วย

ดังนั้น ในวันนี้ ผมจึงขอมารีวิว การเลือกซื้อประกันรถยนต์กับ “เทสโก้ โลตัส โบรคเกอร์ประกันภัย” โดยพิจารณาจาก 5 ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อ นอกเหนือจากแค่เรื่องของเบี้ยประกัน ที่ทางบริษัทเน้นย้ำ และให้ความสำคัญ ในแต่ปัจจัย ดังนี้

ความคุ้มครอง

คือเรื่องสำคัญเรื่องแรกที่เราควรดู ว่าจากเบี้ยประกันที่เราจ่ายไปนั้น เราจะได้รับความคุ้มครองเรื่องอะไรบ้าง แต่ละเรื่องมีวงเงิน หรือทุนประกันอยู่ที่เท่าไหร่ เพราะหลายครั้งที่ซื้อประกันเจ้าที่เบี้ยประกันถูกๆ แต่ความคุ้มครองบางรายการก็ไม่มี หรือวงเงินความคุ้มครองก็อาจจะน้อยกว่ามากๆ ซึ่งตัวอย่างรายการความคุ้มครองที่เราควรต้องทราบก็เช่น

  • ทุนประกัน หรือวงเงินความคุ้มครองรถของเราเอง
  • วงเงินคุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้ (สำหรับประกันชั้น 1 และ 2)
  • วงเงินคุ้มครองชีวิตและสุขภาพของบุคคลภายนอก ต่อคน และต่อครั้ง
  • วงเงินคุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอก เช่น ค่าซ่อมของรถคู่กรณี
  • วงเงินคุ้มครองชีวิตและสุขภาพของผู้ขับขี่ กรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพจากการขับขี่
  • วงเงินประกันตัวผู้ขับขี่
  • วงเงินค่ารักษาพยาบาลต่อครั้ง สำหรับผู้ประสบภัยทุกคน

ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อ เราก็ควรจะต้องดูรายละเอียดมูลค่าความคุ้มครองของแบบประกันแต่ละแบบ แล้วเลือกแบบที่มีวงเงินคุ้มครองสูงพอเท่าที่เราต้องการ หรือคิดว่าครอบคลุมพอ เมื่อเกิดเหตุร้ายแรงที่สุดเอาไว้ก่อน แล้วจึงค่อยดูปัจจัยอื่นๆประกอบไว้ด้วย ซึ่งในเรื่องนี้ ทาง เทสโก้ โลตัส ก็จะมีข้อมูลของความคุ้มครองแต่ละรายการของประกันรถยนต์แต่ละแบบแต่ละยี่ห้อ เพื่อให้เราพิจารณาได้อย่างละเอียด และสามารถแนะนำเราได้ว่า ด้วยระดับวงเงินความคุ้มครองที่เราต้องการ มีแบบประกันของบริษัทไหนบ้าง ที่น่าจะตอบโจทย์เราได้

ซ่อมอู่หรือห้าง

คือการพิจารณาผู้ให้บริการซ่อมรถให้เรา ตามแบบประกันที่จะกำหนดว่า จะเคลมได้เฉพาะซ่อมอู่เท่านั้น หรือบางแบบอาจจะได้ทั้งซ่อมอู่หรือซ่อมห้าง โดยที่ซ่อมอู่ ก็คือ อู่ซ่อมรถทั่วไป ที่ทำสัญญารับซ่อมกับบริษัทประกันแต่ละเจ้า ขณะที่ ซ่อมห้าง ก็คือ การซ่อมกับศูนย์บริการของรถยี่ห้อนั้นๆโดยตรง ซึ่งก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันก็ไป เช่น ซ่อมอู่ ข้อเสียก็คือ ควบคุมคุณภาพได้ยาก ถ้าไปเจออู่ที่ไม่ดี งานซ่อมอาจจะไม่เรียบร้อย ชิ้นส่วนอาจจะไม่ได้ใช้ของแท้ แต่ข้อดีก็คือ อาจจะหาอู่ซ่อมได้สะดวกกว่าเอารถไปเข้าศูนย์ และอาจจะซ่อมได้เร็วกว่า แต่ถ้า ซ่อมห้าง ข้อดีก็คือ คุณภาพการซ่อมที่อาจจะอุ่นใจได้มากกว่า บริการอาจจะดีกว่า และมั่นใจได้ว่าได้อะไหล่หรือชิ้นส่วนของแท้แน่นอน แต่ข้อเสียก็คือ อาจจะหาศูนย์ใกล้บ้านได้ยากกว่า

ในส่วนนี้ ทาง เทสโก้ โลตัส ก็จะมีแบบประกันให้เราเลือกได้ ทั้งแบบที่ได้เฉพาะซ่อมอู่ และ แบบที่ได้ทั้งซ่อมอู่และซ่อมห้าง ตามความต้องการและความสบายใจของเรา ซึ่งเราก็แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อเลือกได้ ตามความต้องการของเราเลย

ค่าเสียหายส่วนแรก

คือ การให้ผู้ทำประกัน ต้องออกค่าใช้จ่ายเองก่อนส่วนหนึ่งก่อน แล้วบริษัทประกันจึงจะค่อยจ่ายส่วนที่เหลือให้ ซึ่งมีทั้ง “แบบสมัครใจ (Deductible)” กับ “แบบตามเงื่อนไข (Excess)”

โดยที่ แบบสมัครใจ คือ การที่เรายอมจ่ายค่าเสียหายเองส่วนหนึ่งก่อน ส่วนที่เหลือถึงให้บริษัทประกันจ่ายให้ ซึ่งก็จะทำให้ค่าเบี้ยประกันถูกลง เท่ากับจำนวนค่าเสียหายที่เรายอมออกก่อนนั่นเอง ซึ่งถ้าปีนั้นเราเกิดโชคร้ายเกิดอุบัติเหตุ 2 ครั้ง ลูกค้าต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกถึง 2 ครั้ง รวมกับค่าประกันภัยที่จ่ายไปแล้ว ทำให้จริงๆแล้วปีนั้นลูกค้าต้องจ่ายค่าเบี้ยมากกว่าเดิมนั้นเอง เข้ากับสุภาษิตที่ว่า “เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย”

ส่วน แบบตามเงื่อนไข คือค่าเสียหายที่เราต้องจ่ายเองตามข้อกำหนดอยู่แล้ว ซึ่งเป็นค่าเสียหายที่อาจจะเกิดจากอุบัติเหตุที่ระบุคู่กรณีไม่ได้ โดยส่วนมากก็จะต้องรับผิดชอบไม่เกิน 1,000 บาทต่อจุด

ในส่วนนี้ เป็นส่วนที่ทาง เทสโก้ โลตัส โบรกเกอร์ประกันภัย ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ด้วยความที่เกรงว่าผู้ซื้ออาจจะเน้นเลือกซื้อแต่แบบที่เบี้ยถูก แต่อาจจะไปเจอแบบที่ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก โดยที่ให้ข้อมูลไม่ชัดเจน ทำให้ผู้ซื้ออาจจะเข้าใจผิดแล้วต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกเองได้ ทางเทสโก้ โลตัส จึงคัดเลือกแต่เฉพาะแบบประกันที่ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก มาแนะนำให้กับผู้ซื้อ เพื่อให้ผู้ซื้ออุ่นใจว่า แม้เบี้ยประกันอาจจะแพงกว่าแบบที่มีค่าเสียหายส่วนแรก แต่ผู้ซื้อจะอุ่นได้อย่างแน่นอนว่า เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น เราไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายใดๆเองก่อนโดยไม่รู้ตัวอย่างแน่นอน

ซึ่งทาง เทสโก้ โลตัส โบรกเกอร์ประกันภัย ก็มี concept ที่น่าสนใจมากๆ นั่นคือ

“ราคาถูกใจ จริงใจ ไม่เจ็บใจ” จ่ายครั้งเดียวจบครบทุกความคุ้มครอง

(ทำความเข้าใจ ค่าเสียหายส่วนแรก เพิ่มเติม คลิก : เลิกปวดหัวกับ “ค่าเสียหายส่วนแรก”)

ความเสี่ยงเฉพาะตัว

คือ การพิจารณาตัวเองว่า เราน่าจะมีความเสี่ยงในการขับรถไปชนเองมากน้อยแค่ไหน เพราะประกันรถยนต์แต่ละประเภท ทั้งชั้น 1 ชั้น 2 และชั้น 3 หรือชั้น 2+ และ 3+ ก็มีความคุ้มครองแตกต่างกัน โดยที่ประกันชั้น 1 จะคุ้มครองรถเราทุกกรณี ทั้งชนแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี รวมถึงกรณีรถหาย ไฟไหม้ ขณะที่ชั้น 2 และชั้น 3 จะไม่คุ้มครองความเสียหายของรถเราเลย แต่ชั้น 2 จะคุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้ด้วย ส่วน 2+ และ 3+ ก็จะมีความคุ้มครองความเสียหายของรถเรา กรณีมีคู่กรณี เพิ่มเข้ามาเท่านั้น ดังนั้น เราจึงควรประเมินความเสี่ยงตัวเอง เพื่อที่จะเลือกแบบประกันให้เหมาะสม ว่าควรทำชั้นไหน เช่น สำหรับคนที่มีความเสี่ยงสูงที่จะขับชนคนอื่น ทั้งแบบมีคู่กรณีและไม่มี หรือต้องการความอุ่นใจ 100% ไม่ว่าจะกรณีไหนๆ ก็อาจจะเหมาะกับแบบชั้น 1 ขณะที่ คนที่เชื่อมั่นว่าตัวเองมีโอกาสขับชนน้อย ก็อาจจะเลือกเป็นแบบชั้น 2+ หรือ 3+ ก็ได้

ซึ่งทาง เทสโก้ โลตัส ก็มีแบบประกันให้เราเลือกทุกแบบ ทั้งชั้น 1, 2, 2+, 3 และ 3+ จากบริษัทประกันภัย 8 บริษัทที่คัดเลือกมาแล้ว คือ สินมั่นคงประกันภัย, ประกันภัยไทยวิวัฒน์, เอไอจีประกันภัย, แอลเอ็มจีประกันภัย, เมืองไทยประกันภัย, ประกันคุ้มภัย, กรุงเทพประกันภัย และวิริยะประกันภัย ซึ่งล้วนแต่เป็นบริษัทประกันภัยชั้นนำของประเทศทั้งสิ้น 

บริการทั้งก่อนและหลังการขาย

คือ การพิจารณาว่า โบรคเกอร์ที่ขายประกันเจ้านี้ มีคุณภาพในการให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย ดีหรือไม่ เช่น ความสะดวกสบายในการซื้อและการติดต่อ รวมไปถึงการให้คำปรึกษา การตอบข้อซักถาม เพื่อให้คำแนะนำในการทำประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับเราที่สุดได้ อย่างครบถ้วน ตรงไปตรงมา ไม่มีปิดบังหลอกลวง รวมถึงการติดตาม และการอำนวยความสะดวกในการจ่ายเบี้ยประกันปีต่อ และการประสานงานเพื่อเคลมประกันด้วย

ในส่วนนี้ ทาง เทสโก้ โลตัส ก็ถือว่ามีการให้บริการที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย เพราะมีเคาน์เตอร์ให้บริการ ในส่วนของบริการด้านการเงิน และโบรคเกอร์ประกันภัย ที่ เทสโก้ โลตัส  211 สาขาทั่วประเทศ รวมไปถึงช่องทางออนไลน์ ที่ เทสโก้โบรคเกอร์ประกันภัย และ ช่องทางโทรศัพท์ ที่เบอร์ 1712 กด 1 และ กด 2 ซึ่งก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยตอบคำถาม และให้คำปรึกษารวมถึงแนะนำแบบประกันได้อย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา เพื่อให้เราได้แบบประกันรถยนต์ที่คุ้มค่าและเหมาะสมกับเรามากที่สุด รวมถึงช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อประสานงานกับบริษัทประกัน หรือกับอู่หรือศูนย์เมื่อถึงคราวที่เราต้องเคลมประกันอีกด้วย

สรุป จุดเด่นและข้อจำกัด ของ เทสโก้ โลตัส โบรคเกอร์ประกันภัย

จุดเด่น

  • เน้นการแนะนำประกันรถยนต์อย่างมีคุณภาพ จริงใจ เหมือนสโลแกนใหม่ “ประกันชั้น 1 ราคาถูกใจ จริงใจ ไม่เจ็บใจ” เจ้าหน้าที่สามารถให้คำแนะนำแบบประกันที่เหมาะสมได้โดยดูหลายปัจจัยประกอบกันตามที่เราต้องการ ไม่ได้แนะนำแต่แบบที่ราคาถูกที่สุดอย่างเดียว
  • คัดเลือกแต่เฉพาะแบบประกันที่ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก เหมาะกับคนที่ต้องการความอุ่นใจว่าไม่มีเงื่อนไขอื่นที่ต้องออกค่าใช้จ่ายเองเพิ่มเติมแอบแฝง 
  • คัดเลือกแบบประกันเฉพาะจากบริษัทประกันภัยชั้นนำ 8 แห่งมาแล้ว
  • สามารถผ่อนชำระค่าเบี้ยประกันผ่านบัตรเครดิตของธนาคารที่เป็นพันธมิตรธุรกิจกับเทสโก้โบรกเกอร์ได้ (หากเป็นบัตรเครดิต เทสโก้ โลตัส วีซ่า ได้ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 10 เดือน) ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เทสโก้โบรคเกอร์ประกันภัย

         หมายเหตุ : *เฉพาะแคมเปญ ราคาถูกใจ จริงใจ ไม่เจ็บใจ เบี้ยเริ่มต้น 7,777 บาท จะผ่อน
         ไม่ได้โปรเดียว โปรอื่นผ่อนได้ปกติ 

  • มีเคาน์เตอร์ เซอร์วิส ในเทสโก้ โลตัส 209 สาขาทั่วประเทศ ทำให้เข้าถึงได้ง่าย มีทางเลือกชำระค่าเบี้ยได้สะดวก หลากหลาย
  • มีระบบเปรียบเทียบแบบประกันออนไลน์ด้วยตัวเอง  (เป็นระบบใหม่ที่เพิ่มเข้ามา ช่วยให้สามารถตัดสินใจเลือกแบบประกันที่เหมาะสมได้ง่ายขึ้น) 

ข้อจำกัด

  • ไม่สามารถเลือกแบบประกันที่มีให้เลือกจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกเองได้ สำหรับผู้ที่ต้องการ

จากข้อพิจารณาทั้งหมด จะเห็นว่า เทสโก้ โลตัส โบรคเกอร์ประกันภัยนั้น ให้ความสำคัญกับการทำประกันรถยนต์อย่างมีคุณภาพอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการคัดเลือกบริษัท การคัดเลือกแบบประกันที่เหมาะสม การให้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนอย่างชัดเจน อุ่นใจ ไม่มีแอบแฝง รวมถึงการที่สามารถให้คำแนะนำแบบประกันที่เหมาะสมกับเราได้จริงๆ ซึ่งก็คงต้องขอฝากไว้ สำหรับใครที่กำลังมองหาการทำประกันรถยนต์อย่างมีคุณภาพ ก็ควรที่จะต้องพิจารณาถึงปัจจัยหลายๆด้าน อย่าเลือกเพียงเพราะแค่เบี้ยประกันถูกอย่างเดียว เพื่อให้เราสามารถทำประกันรถยนต์ได้อย่างอุ่นใจ ได้ผลประโยชน์เต็มที่ และคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปจริงๆครับ