ช่วงนี้หลังบ้านทั้งใน Line Facebook พลั่งพลูไปด้วยกับคำถามของแฟนๆนักออมหุ้นนะครับว่า

"พี่ๆๆๆ ทำไมหุ้นมันลงจัง แล้วมันจะลงไปขนาดไหน เท่าไหร่ควรซื้อดี"

โอ้ว ผมตอบไม่ได้หรอก ผมไม่ใช้นักเก็งกำไรราคาที่บอกอะไรได้ขนาดนั้น แต่ผมมองดูการเติบโตและการออมหุ้นเหล่านั้นให้เราสามารถสร้างความมั่งคั่งอย่างมั่นคงได้  ซึ่งในวันนี้ผมมีตัวอย่างมาให้ดูครับ ก่อนที่เราจะไปดูหุ้นตัวอย่างรายตัว ผมอยากจะบอกให้อย่างนึงว่า เวลาเรามีอารมณ์ในระดับ ชั่วโมง นาที วินาที บางทีความคิดเรามันถูกพาไปไกลมากจนทำให้หวั่นไหวในการลงทุนได้ พูดง่ายๆว่าการมองในระยะสั้นเยอะๆมันก็จะกระทบต่อการลงทุนระยะยาวได้หากใจไม่นิ่งพอ มีนักลงทุน DCA หลายคนเจอเหตุการณ์หุ้นตก 100 จุด ก็หนีกันตะเลิดแล้ว แต่มันเป็นเหตุการณ์ระยะสั้นนะครับเมื่อมันจบไป ทุกอย่างจะกลับเข้าไปสู่ความเป็นจริงของมันในเชิงพื้นฐานระยะยาวอยู่แล้ว เดี๋ยวมีตัวอย่างนะครับ

หมายเหตุ : กราฟที่แสดงและข้อมูลในเรื่องหุ้นทั้งหมดอ้างอิงมาจากเวปหุ้นปันผลนะครับ >>>> www.panphol.com

ตัวแรกเลยนะครับโรงพยาบาล BH

ใครมาลงทุนในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา พอเจอเหตุการณ์ตลาดหุ้นถล่ม 100 จุดทีนี่เสียวไปตามๆกัน แต่พอมาดูในช่วง 1 ปี หากผม Assume ว่ากราฟนั้นสะท้อนทุกอย่างที่เป็นแง่ดีแง่ร้ายรวมถึงผลประกอบการไปแล้ว จะเห็นได้ว่า Trend ในรอบ 1 ปีของหุ้นตัวนี้มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรอย่างนั้น ตอนจบของวันมันก็เด้งขึ้นจากเหตุตกใจไปอยู่ในกรอบของการลงทุนที่ใกล้เคียงกับจุดเดิม ใช่ไหมครับ

ทีนี้หากเรามามองในมุมของการทำ DCA ในรอบ 1 ปีจะเป็นอย่างไร

ผมใช้ราคาเปิดของวันที่ 15 ของแต่ละเดือนในการคำนวนะครับ จะเห็นได้ว่า เริ่ม ธันวาคม 2556 - ธันวาคม 2557 จะเห็นได้ว่าหากลงทุนมา 1 ปีแล้วตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีอะไรกระทบมากครับ ถึงแม้ราคาเปิดของวันที่ 16 ธันวาคม จะเป็น 135.50 บาท ก็ยังไม่ได้กระทบต่อ Port DCA ภาพใหญ่ แต่ผมก็ตอบไม่ได้นะครับว่าในวันต่อๆไปมันจะปรับราคาลงหรือเปล่านะครับ ซึ่งถ้ามันลงต่ำมาอีก DCA ก็จะเฉลี่ยลงตามราคาหุ้นที่ปรับตัวตาม

ตัวต่อมาคือ PTTEP

ช่วงนี้ตัวพลังงานมีแนวโน้มที่ไม่ค่อยดีนะครับ อันที่จริงสินค้าวัฏจักรอย่างน้ำมันนั้นก็เป็นอุตสาหกรรมที่ผมหลีกเลี่ยงให้ออมหุ้นแบบ DCA เพราะถ้าเมื่อไหร่สินค้าโภคภัณฑ์มันปรับตัวราคาลดลงก็มีผลในแง่ของการทำกำไรของบริษัท ช่วงนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลงแรง ก็ย่อมมีผลกระทบต่อธุรกิจประเภทนี้เข้าไปใหญ่เลย หากเราลงทุนในธุรกิจขุดเจาะน้ำมันราคาขายน้ำมันก็มีผลต่อการทำกำไรของบริษัท ถ้ากรณีของโรงกลั่นน้ำมันหากมีการ Stock น้ำมันเยอะๆก็อาจจะเจอ Stock-loss ได้เหมือนกันใช่ไหมครับ คล้ายๆกับเราซื้อวัตถุดิบมาแพง พอเจ้าอื่นๆเขาซื้อของต้นทุนถูกกว่าแล้วขายในราคาตลาดโลกที่ต่ำลงไปด้วย ไอเราวัตถุดิบก็ขาดทุน เอาไปขายก็กำไรน้อยลงหรืออาจจะต้องขายขาดทุนเพื่อให้แข่งกับเจ้าอื่นได้ แน่นอนว่าธุรกิจแบบนี้มีความเสี่ยงสูงจริงๆ

เหมือนเดิมนะครับ ผมดูกราฟภายใต้การสมมติฐานไว้ว่าทุกอย่างสะท้อนในกราฟนี้แล้วจะเห็นได้ว่า 3 เดือนที่ผ่านมาหุ้น PTTEP ลงตลอดและกราฟ 1 ปีก็ดูนิ่งๆและมาลงรุนแรงในไตรมาสสุดท้าย มองเผินๆก็รู้เลยว่าหากใครลงทุนตั้งแต่ต้นปี ตอนนี้เจ๊งกันหมดนะครับ มาดูมุมมองของ DCA 1 ปีของหุ้นตัวนี้ว่าจะเป็นอย่างไร

ตายไปเลย แต่ก็เป็นไปตามคาดอยู่แล้วนะครับ หุ้นพลังงานเป็นขาลงแล้ว ยังไงก็ขาดทุนละนะ สำหรับผมไม่ DCA หุ้นพลังงานแบบนี้อยู่แล้วและคิดเสมอว่าหุ้นที่เป็นโภคภัณฑ์ควรจะลงทุนในช่วงที่เป็นขาขึ้นเท่านั้น มันไม่เหมือนหุ้นเติบโตที่ธุรกิจขยายกิจการและการทำกำไรเพิ่มขึ้นจากสาขาใหม่ๆที่มันมีนะครับ ราคาพลังงานถ้าตกปุ๊ปนี่ยิ่งมีเยอะยิ่งขาดทุนเยอะตามเลย ส่วนคนที่ DCA หุ้นประเภทนี้ต้องตัดสินใจแล้วนะครับว่าจะตัดสินใจอย่างไรต่อไป เพราะผมเห็นเขาคาดการราคาน้ำมันจะลงเรื่อยๆอีก

DTAC

ยอมรับเลยครับว่าตัวนี้ผมไม่ค่อยได้ดูนัก แต่เอาให้ดูหน่อยก็ได้วว่ามันมีแนวโน้มปรับตัวลงมาเรื่อยๆนะครับทั้งในรอบ 3 เดือนถึง 1 ปี ก็ต้องไปดูว่ามันปรับตัวลงมาเพราะอะไร แต่... เท่าที่ผมอ่านๆในข่าวดูบ้าง ก็เห็นว่าเขาวิเคราะห์กันในเรื่องของการทำกำไรที่ลดลงของบริษัทจากข่าวนี้นะครับ >>> ข่าว DTAC ลองดูเพิ่มเติมนะครับ แหม แต่ในอุตสาหกรรมแบบนี้คู่แข่งมันก็วนๆกันอยู่ไม่กี่รายเนอะ ถ้า DTAC กำไรลดจากการใช้บริการก็ไม่แน่ว่าเขาย้ายไปค่ายอื่นกันหรือเปล่า ค่ายอื่นอาจจะทำกำไรได้มากขึ้นก็ได้ อิอิ

ช่วงต้นปีนี่มันขึ้นตลอดเลยจนกระทั่งกลางปีราคาลดลงฮวบๆแล้วก็ลดลงเรื่อยๆอยู่แล้วยะครับ สำหรับเมื่อวันก่อนราคาในช่วงที่ลดลงเยอะๆมันก็ตามตลาดนั่นแหระ แต่อนาคตถ้าอัตราการทำกำไรมันยังลดลงอีก ผมก็ไม่รู้สิน่าว่าหุ้นมันจะดิ่งต่อไปเรื่อยๆหรือเปล่า อันนี้ก็ต้องตามกันดูนะครับ มาดูมุมมองของ DCA ในหุ้น DTAC ดูนะครับว่าเป็นอย่างไรบ้างดีกว่า

ในรอบ 1 ปี หากเราลงทุนมาจะพบว่าช่วงที่ราคามันขึ้นในช่วงต้นปีก็ได้กำไรกันไปตามๆกัน แต่ช่วงนี้ DTAC ขาลงอยู่นะครับ มันก็อยู่ที่คุณมองแล้วล่ะว่าอนาคต DTAC จะเติบโตและมีผลกำไรที่ดีกว่านี้หรือเปล่า ถ้าคิดว่าดีราคามันก็จะปรับขึ้นไปเองล่ะครับ  อย่างไรก็ตามนะผมว่าในเรื่องของการแข่งขันอาจจะต้องไปศึกษาความได้เปรียบทางการแข่งขันในระยะยาวอีกที ( Five Forces Factor) นั่นอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่บอกเราไá