การลงทุนด้วยตัวเอง อาจจะมีความเสี่ยงที่ยุ่งยากกว่าการลงทุนใน "กองทุน" ที่มีผู้เชี่ยวชาญดูแล

การลงทุนในกองทุนรวม ก็เปรียบเสมือนการคัดกรองความเสี่ยงออกไปในระดับหนึ่ง

แต่อย่างไรก็ดี "กองทุน" รวมก็ยังมีความเสี่ยงอยู่...

ถ้าเราตัดความเสี่ยงที่เลี่ยงไม่ได้ อย่างความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากระบบ (Systematic Risk) ออกไป เเล้วมอง "กองทุน" แต่ละกอง ให้เหมือนกับ “คน” ที่จะมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน มีความชอบไม่เหมือนกัน มีเป้าหมายต่างกัน ใช้ชีวิตและมีแนวคิดที่หลากหลาย

เพราะกองทุนรวมเองมีหลากหลายกองทุน แต่ละกองมีนโยบายที่ใช้ดำเนินการไม่เหมือนกัน มีผลประโยชน์ที่คาดหวังต่างกัน และสามารถรองรับความเสี่ยงได้แตกต่างกัน

เมื่อเรียงลำดับความเสี่ยงของกองทุน

เราจะเห็นว่ากองทุนแต่ละกองก็จะเน้นไปที่สินทรัพย์ที่แตกต่างกัน

1. กองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ

เช่น กองทุนรวมที่ลงทุนกับตลาดเงิน (ลงทุนในเงินฝาก), ตราสารหนี้ อาทิ พันธบัตรรัฐบาล, พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ, ตั๋วเงินคลัง เป็นต้น รวมไปถึงตราสารหนี้แบบระยะยาว (มีการถือครองมากกว่า 1 ปี) และแบบระยะสั้น(มีการถือครองน้อยกว่า 1ปี) ขึ้นอยู่กับผู้ลงทุนว่าต้องการลงทุนนานหรือไม่

ตัวอย่างกองทุนเช่น KTSV, KFCASH, SCBTMF

2. กองทุนที่มีความเสี่ยงปานกลาง

คือ กองทุนรวมที่มีการลงทุนแบบผสม มีทั้งการลงทุนในตราสารทุนและตราสารหนี้ ในแต่ละกองก็จะมีสไตล์การลงทุนไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับนโยบายของกองนั้นๆว่าสามารถรับความเสี่ยงและหวังผลตอบแทนขนาดไหน เช่น กองทุนที่มีการ Fixed สัดส่วนของการลงทุนในตลาดทุนที่ 35%-65% ของมูลค่าทรัพย์สินในกองทุน หรือ กองทุนที่ไม่มีการกำหนดสัดส่วนตรงนี้ก็จะเรียกว่า กองทุนผสมแบบยืดหยุ่น

ตัวอย่างกองทุน เช่น K-PLAN3, CIMB-PRINCIPAL iBALANCED-R

3. กองทุนที่มีความเสี่ยงสูง

เช่น กองทุนที่มีการลงทุนในหุ้นหรือตราสารทุน คือ กองทุนที่มีการกำหนดสัดส่วนของการลงทุนในหุ้นอยู่ไม่น้อยกว่า 65% ของกองทุน อีกกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงคือ กองทุนที่มีการลงทุนในใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้น หรือ Warrant นั่นเอง เปลี่ยนจากการลงทุนหุ้นเฉยๆมาเป็นลงทุนใน Warrant ไม่น้อยกว่า 65% ของกองทุน

ตัวอย่างกองทุนเช่น KFFIN-D, BTP, SCBMSE

4. กองทุนที่มีความเสี่ยงสูงมาก

เช่น กองทุนรวมกุล่มธุรกิจ เป็นกองทุนที่มีการลงทุนในหุ้นของกลุ่มธุรกิจแบบเดียวกัน เช่น ลงทุนในหุ้นของกลุ่มธนาคาร ข้อเสียของการลงทุนแบบนี้มันกระจุกตัว ถ้าเกิดผลกระทบกับธุรกิจหนึ่งๆแล้วกองทุนแบบนี้ก็จะได้รับผลตามไปด้วย หรือ กองทุนที่มีการลงทุนซับซ้อน อาทิ กองทุนรวมน้ำมัน กองทุนรวมทองคำ หรือสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ

ตัวอย่างกองทุนเช่น SCBENERGYP, SCBGOLDH, TUSOIL

กองทุนรวมที่เคยเข้าใจว่าไม่มีความเสี่ยงนั้นไม่มีจริง การลงทุนอะไรก็ตามมักมีความเสี่ยงเสมอทั้งความเสี่ยงที่เกิดขึ้นแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้และแบบที่เลี่ยงได้ อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละกองทุนด้วย

ดังนั้นความเสี่ยงจะยังคงมีอยู่เสมอในเรื่องของการลงทุน ผู้ที่ระวังเรื่องความเสี่ยงอยู่เสมอนี่แหละครับ คือ ผู้ที่ประสบความสำเร็จ!

ติดตามความรู้เรื่องการเงินการลงทุนจาก aomMONEY

Website : www.aomMONEY.com

Youtube : https://www.youtube.com/AommoneyTH

กลุ่มกองทุนไหนดี : https://www.facebook.com/groups/SelectedFund/

ทีมกองบรรณาธิการ aomMONEY