หลังจากทราบว่า ผู้ประกันตนแต่ละประเภทนั้นได้รับประโยชน์อะไรกันไปในบทความคราวที่แล้ว
ครั้งนี้เรามาดูว่า เงินที่เราจ่ายไปในแต่ละเดือนนั้นได้ไปอยู่ในกองทุนอะไรบ้าง
แล้วใครบ้างที่ช่วยเราในการจ่ายเงินสมทบ สามารถดูได้ตามด้านล่างนี้เลยครับ

เงินสมทบสำหรับผู้ประกันตน มาตรา 33

ที่ได้จ่ายไปจะมีนายจ้างและรัฐบาลเข้ามาช่วยจ่ายเงินเข้าสู่ กองทุน 3 แบบ ครับ คือ

1. กองทุน 4 กรณี

( กรณีเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตายและ คลอดบุตร)

2. กองทุน 2 กรณี

(กรณีสงเคราะห์บุตร และชราภาพ)

3. กองทุน 1 กรณี

(กรณีว่างงาน)

ซึ่งทั้ง 3 กองทุนนี้จะแยกกันบริหารนะครับ

ผู้ประกันตนจะจ่ายในสัดส่วนดังต่อไปนี้ครับ

จ่ายเพื่อรับผลประโยชน์ใน กรณีเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตายและ คลอดบุตร = 1.5 % ของรายได้

จ่ายเพื่อรับผลประโยชน์ใน กรณีสงเคราะห์บุตร และชราภาพ = 3.0  %  ของรายได้

จ่ายเพื่อรับผลประโยชน์ใน กรณีว่างงาน = 0.5 % ของรายได้

และสุดท้ายนี้ครับ หลาย ๆ ท่านคงไม่ทราบมาก่อนว่าประกันสังคมที่เราจ่ายไปนั้น จะมีการให้เงิน บำเหน็จ และบำนาญด้วยนะครับ โดยจะคิดคำนวนดังนี้ครับ

ในกรณีที่จ่ายเงินสมทบ น้อยกว่า 180 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จ

โดยแบ่งเป็น 2 กรณีครับ

1. ส่งเงินเข้ากองทุนน้อยกว่า 12 เดือน จะได้รับเงินที่จ่ายเข้ากองทุน (ได้เงินที่เก็บเข้ากองทุนคืนเท่านั้น)

2. ส่งเงินเข้ากองทุนมากกว่า 12 เดือน แต่น้อยกว่า 180 เดือน จะได้รับเงินที่จ่ายเข้ากองทุน + เงินสมทบจากนายจ้าง + เงินผลประโยชน์ที่กองทุนนำเงินสมบไปลงทุนมาแล้วมีกำไรครับ

ในกรณีที่จ่ายเงินสมทบมากกว่าหรือเท่ากับ 180 เดือน ท่านจะได้รับเงินบำนาญ (โอ้ว บ๊ระเจ้า)

1. กรณีเท่ากับ 180 เดือน คำนวนบำนาญโดย ใช้เงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย คูณด้วย 20 %

2. กรณีมากกว่า 180 เดือน คำนวนบำนาญโดย เงินจากข้อที่ 1 มา รวมกับ เงินส่วนเพิ่มที่จะได้ หลังทำงานมากกว่า 180 เดือน

โดยคิดจาก จำนวนเดือนที่จ่ายเงินเข้ากองทุน-180 เดือน และหารด้วย 12 (ถ้ามีเศษให้ปัดเศษทิ้ง) จากนั้นคูณด้วย 1.5 จะได้เป็น % ส่วนเพิ่ม

และเอาไปรวมกับส่วนของข้อแรกครับ จะได้เป็น % จากเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายครับ นั้นคือบำนาญที่เราจะได้รับครับ

ในกรณีที่จ่ายเงินสมทบมากกว่าหรือเท่ากับ 180 เดือน ท่านจะได้รับเงินบำนาญ (โอ้ว บ๊ระเจ้า)

จะสังเกตเห็นได้ว่าหากเราทำงาน แล้วจำนวนปีนั้น มากขึ้นไปเรื่อย ๆ เราก็จะได้เงินบำนาญมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกันครับ

บางท่านอาจจะคิดว่าเงินที่เราได้นั้น ทำไมช่างเล็กน้อยเหลือเกิน ไม่กี่พันบาทเอง แต่หากท่านลองนึกภาพคนที่ไม่มีโอกาส หรือมีโอกาสน้อยกว่าคนในเมือง เงินเพียงแค่ไม่กี่พันบาทนี่แหละจะเป็นเงินที่ทำให้พวกเขาเหล่านั้นอยู่ได้อย่างสบายเลยนะครับ

แม้แต่คนในเมืองอย่างผม ถ้ายามเกษียณได้รับเงินส่วนนี้มาเพิ่มเป็นบำนาญแล้วละก็ อย่างน้อยก็มีเงินจ่ายค่ามื้อถือ หรือเติมน้ำมันรถได้ทั้งเดือนเลยนะครับ

ครั้งหน้าเรามาดูกันว่า กองทุนนี้จะมีเงินจ่ายบำนาญให้เราเพียงพอหรือไม่ในอีก 30-40 ปีข้างหน้านี้กันนะครับ ^-^