ในการทำธุรกิจ หากสภาพธุรกิจหรืออุตสาหกรรมเดิมไม่สามารถไปต่อได้ อาจเป็นเพราะมีคู่แข่งมากขึ้น หรือยิ่งกว่านั้นคืออุตสาหกรรมดังกล่าวไม่สามารถทำกำไรได้ การเปลี่ยนไปทำธุรกิจอื่นหรือประกอบธุรกิจอื่นเพิ่มเติม ก็เป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดไม่น้อยในยุคที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา

ไม่ใช่แต่เฉพาะธุรกิจเล็ก ๆ หรือธุรกิจส่วนตัวของคนทั่วไป กระทั่งบริษัทมหาชนยักษ์ใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ก็มีการเปลี่ยนธุรกิจหลักของบริษัทเพื่อเปิดประตูสู่โอกาสในการเติบโตครั้งใหม่ และ ALPHAX ก็เป็นหนึ่งในบริษัทมหาชนที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้น

ALPHAX หรือ บริษัท อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจหลัก 3 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจสารสกัดกัญชง และธุรกิจเช่าสินเชื่อ แต่เดิมนั้น ALPHAX คือ บริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด (มหาชน) แต่ได้เปลี่ยนแปลงการจัดการภายในพร้อมทั้งล้างขาดทุนสะสมเสร็จสิ้นมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับโอกาสพลิกฟื้นธุรกิจ

ALPHAX นั้นหมายถึง "ผู้นำ" ด้วยจุดประสงค์ของบริษัทที่ต้องการเป็นผู้นำสู่ความเป็นเลิศทางธุรกิจในอุตสาหกรรม
ทั้งสามด้านที่บริษัทเข้าไปประกอบธุรกิจอยู่ โดยรายละเอียดของทั้งสามธุรกิจนั้นมี ดังนี้

หนึ่ง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ ALPHAX ปัจจุบันบริษัทมีโครงการในเครือประกอบด้วย IKON 77 เป็นคอนโดมิเนียมแบบ
Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร 442 ยูนิต, โครงการ IKON UDOMSUK คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 334 ยูนิต และโครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ย่านรามอินทรา THE VALOR  โดยแต่ละโครงการจะมีจุดเด่นที่สร้างความแตกต่างเมื่อเทียบกับโครงการอื่น ๆ เช่น ทำเลที่ตั้ง การออกแบบ การบริหารส่วนกลาง ที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษแตกต่างกันไปแต่ละโครงการ

นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมพัฒนาอาคารสำนักงาน โครงการ V Tower ติด BTS พระโขนง และ โครงการคอนโดมิเนียม The 38 Sukhumvit ในซอยสุขุมวิท 38 เพิ่มเติมอีกในอนาคต สอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโตด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งลูกค้ากลุ่มที่อยู่อาศัยแบบคอนโดมิเนียม ลูกค้ากลุ่มที่อยู่อาศัยแนวราบ และลูกค้ากลุ่มอาคารสำนักงานให้เช่า

สอง ธุรกิจสารสกัดกัญชง

ธุรกิจสารสกัดกัญชง ดำเนินการผ่านการลงทุนในบริษัทย่อยคือ บริษัท อัลฟ่า ไบโอเทค จำกัด ซึ่งเป็นผู้ควบคุมปัจจัยการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การปลูก การสกัดสาร และการผลิตสินค้าป้อนสู่ตลาด ปัจจุบันบริษัทมีเครื่องจักรที่มีศักยภาพในการป้อนวัตถุดิบ 300 กิโลกรัมต่อเดือน โดยติดตั้งแล้วที่โรงงานของ บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (JP) โดยเครื่องจักรดังกล่าวสามารถแยกสารสกัดกัญชงได้หลากหลายรูปแบบ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม นอกจากนั้น บริษัทยังได้มีการสั่งซื้อเครื่องจักรขนาดใหญ่เพิ่มเติมที่มีศักยภาพในการป้อนวัตถุดิบ 30,000 กิโลกรัม (30 ตัน) ต่อเดือน โดยคาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จพร้อมรับใบอนุญาตภายในไตรมาส 3 ปี 2565

ในช่วงที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการหลายรายที่เข้ามาลงสนามในธุรกิจสารสกัดกัญชง ทำให้อุตสาหกรรมนี้กลายเป็นที่จับตาในฐานะของคลื่นลูกใหม่แห่งวงการธุรกิจ สำหรับ ALPHAX ล่าสุดมีลูกค้าให้ความสนใจสินค้ากลุ่มสารสกัดกัญชงของบริษัทพร้อมกับเซ็นสัญญาแล้ว 35 ราย โดยเป็นลูกค้าจากกลุ่มธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม อาหารเสริม และสมุนไพรต่าง ๆ สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการสินค้าในกลุ่มสารสกัดกัญชงได้เป็นอย่างดี โดยรายได้ในกลุ่มธุรกิจสารสกัดกัญชง และรับรู้รายบาทแรกไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เดือน มีนาคม 2565

สาม ธุรกิจเช่าสินเชื่อ

ALPHAX ยังมีธุรกิจเช่าสินเชื่อผ่านการเข้าลงทุนใน บริษัท “มหทุนโฮลดิ้ง” เป็นสัดส่วน 76.78% ซึ่งมหทุนโฮลดิ้งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อีกต่อใน บริษัท มะหะทุน เช่าสินเชื่อ มหาชน ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ลาว

มะหะทุนเป็นผู้นำเบอร์ 1 ธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ที่มีส่วนแบ่งการตลาดใหญ่ที่สุดในนครเวียงจันทน์ และสะหวันนะเขต มีพอร์ตสินเชื่อทั้งหมดประมาณ 350 ล้านบาท ธุรกิจของมะหะทุนเช่าสินเชื่อ ประกอบด้วย 3 ส่วนคือ สินเชื่อรถใหม่ สินเชื่อรถมือสอง และสินเชื่อรถเปลี่ยนเงิน
ในอนาคตมะหะทุนยังวางเป้าหมายเบื้องต้นไว้ว่าจะเข้าไปขยายธุรกิจสินเชื่อในผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น นาโนไฟแนนซ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น

แล้วอนาคตของ ALPHAX จะเป็นอย่างไรต่อไป

ทั้งสามธุรกิจนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นตัวเปลี่ยนเกมที่จะนำพา ALPHAX ไปสู่ความเป็นผู้นำได้อย่างที่บริษัทคาดหวังไว้ แต่ถ้าวิเคราะห์ในมุมมองของนักลงทุน สิ่งที่ต้องวิเคราะห์เพิ่มเติมว่าบริษัทจะสามารถดำเนินการตามแผนงานที่วางไว้ได้ดีเพียงใด ก็คือการวิเคราะห์จากงบการเงิน ทั้งในส่วนของงบแสดงฐานะการเงิน เพื่อดูว่าบริษัทมีโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่งเพียงพอไหม และในส่วนของงบกำไรขาดทุน เพื่อดูว่าบริษัทมีศักยภาพในการเติบโตมากน้อยเพียงใด ต่อไปนี้คือข้อมูลงบการเงินของ ALPHAX

งบการเงินปี 2563

สินทรัพย์ 1,010.83 ล้านบาท
หนี้สิน 344.44 ล้านบาท
ส่วนของผู้ถือหุ้น 666.40 ล้านบาท

รายได้ 627.22 ล้านบาท
ค่าใช้จ่าย 568.79 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 58.43 ล้านบาท

งบการเงินปี 2564

สินทรัพย์ 937.24 ล้านบาท
หนี้สิน 266.44 ล้านบาท
ส่วนของผู้ถือหุ้น 670.80 ล้านบาท

รายได้ 508.40 ล้านบาท
ค่าใช้จ่าย 510.03 ล้านบาท
กำไรสุทธิ -1.63 ล้านบาท

ในส่วนของงบแสดงฐานะการเงิน จะเห็นได้ว่าส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับที่มากกว่าหนี้สินรวมพอสมควร หรือคิดเป็นอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ประมาณ 0.40 เท่า ซึ่งบ่งบอกถึงฐานะการเงินของบริษัทว่ามีส่วนทุนรองรับความเสี่ยงในอนาคต ในส่วนของงบกำไรขาดทุน นักลงทุนอาจเห็นว่าในปีล่าสุดบริษัทมีผลประกอบการที่ขาดทุน แต่ก็นับเป็นการขาดทุนที่ไม่สูงนักหากเทียบกับความยากลำบากในอดีตที่บริษัทเผชิญมา และในจังหวะเปลี่ยนผ่านธุรกิจนี้ย่อมมีความไม่แน่นอนสูง ผลขาดทุนเล็กน้อยในบางเวลาอาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับว่านักลงทุนมีมุมมองต่อความเสี่ยงนี้มากแค่ไหน ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผู้ถือหุ้นของ ALPHAX ได้ใช้สิทธิแปลงสภาพวอแรนต์คิดเป็นเงินมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท นั่นเป็นหนึ่งในสัญญาณว่าผู้ถือหุ้นให้ความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มทางธุรกิจของ ALPHAX เป็นอย่างดี และบริษัทเองก็ได้เงินทุนสำหรับไปขยายธุรกิจตามแผนการที่วางไว้ด้วย

ถ้ามองในแง่ธุรกิจ ALPHAX ก็นับเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่กำลังเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้สอดรับกับความต้องการของโลกธุรกิจยุคใหม่อย่างเต็มที่อีกบริษัทหนึ่ง ซึ่งทั้งสามธุรกิจที่ ALPHAX กำลังมุ่งไป ทั้งอสังหาริมทรัพย์ สารสกัดกัญชง และธุรกิจเช่าสินเชื่อ บริษัทก็ตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำในทั้งสามธุรกิจนี้ให้ได้ในเร็ววัน ดั่งคำว่า ALPHAX ที่แปลว่า “ผู้นำ”

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูข้อมูลของบริษัทเพิ่มเติมได้ที่ http://www.alphadivisions.com/

บทความนี้เป็น Advertorial