เมื่อรายได้ของเราทำให้คนในครอบครัว…

  • มีข้าวกินอิ่มท้อง 
  • มีเงินผ่อนรถขับพาลูกไปส่งที่โรงเรียน 
  • มีเงินผ่อนบ้านให้พ่อแม่อยู่สบาย ฯลฯ 

หลายอย่างในชีวิตล้วนต้องใช้เงิน เราจึงต้องวางแผนการเงิน เพื่อให้มีเงินใช้ตลอดชีวิต ทั้งในช่วงที่มีความสุขและทุกข์ ด้วยการจากการจำลองสถานการณ์ ทั้งด้านดีและด้านร้าย เพื่อสร้างทางเลือกให้ชีวิตของตัวเอง

สมมติว่าเราจำลอง 2 สถานการณ์ คือ

1. เรามีชีวิต : มีวันพรุ่งนี้

เรามีโอกาสสร้างรายได้ให้มากขึ้น แต่ละเดือนรู้ว่าควรจัดการเงินอย่างไรเพื่อไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ เช่น ทำให้หนี้สินหมดเร็วขึ้น เงินท่องเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัว เงินค่าเทอมลูก เงินเกษียณของตัวเอง เงินดูแลพ่อแม่ ฯลฯ 

2. เราเสียชีวิต : จบแค่วันนี้

รายได้ที่จะสร้างให้ครอบครัว 10 กว่าล้านบาท หายไปแน่นอน สถานการณ์นี้เราควรมองว่าเพื่อให้ครอบครัวปรับตัวยอมรับความสูญเสียครั้งนี้จะต้องใช้เงินประมาณเท่าไหร่ ถ้าขายทรัพย์สินที่เราเก็บสะสมไว้จะใช้ดูแลครอบครัวได้กี่เดือน ซึ่งค่าใช้จ่ายช่วงปรับตัวนี้ของแต่ละครอบครัวไม่เท่ากัน

ทั้งหมดนี้ยังไม่รวมการนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล การเกิดอุบัติเหตุจนกลายเป็นคนทุพพลภาพ เจ็บป่วยนอนติดเตียง เพราะมีค่าใช้จ่ายอีกแบบหนึ่งที่อาจจะต้องเตรียมเผื่อไว้ด้วย

แอดมินขอยกตัวอย่างนี้เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น

สมมติว่าเราอายุ 30 มีรายได้เฉลี่ยปีละ 500,000 บาท ถ้าทำงาน 20 ปีแบบเงินเดือนเท่าเดิมและไม่มีรายได้พิเศษ เรามีเงินให้ครอบครัวขั้นต่ำ 10,000,000 บาท  วางแผนสำรองกรณีเลวร้ายที่สุดไว้ว่า หากเสียชีวิตจะมีเงินก้อนดูแลครอบครัวช่วงปรับตัวประมาณ 1 ปี หลังจากนั้นก็หาวิธีเตรียมเงินเพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย 500,000 บาท มี 2 แนวทาง คือ

1. สะสมเงินเอง

สรุปทรัพย์สินว่ามีมูลค่าปัจจุบันเท่าไหร่ ถ้าหักหนี้สินทั้งหมดแล้วจะเหลืออยู่กี่บาท ถ้ามีมากกว่า 500,000 บาท ก็อุ่นใจได้ว่าเราหายตัวไป ครอบครัวสามารถขายทรัพย์สินของเรามาจ่ายหนี้และเหลือใช้จ่ายในครอบครัวได้ 1 ปี ถ้ายังขาดอยู่ก็สะสมเพิ่มจ้า

เพื่อให้ละเอียดมากขึ้น ควรวางแผนไปเลยว่าสามารถขายอะไรได้บ้าง เช่น กองทุน หุ้น ทองคำ ติดต่อ บลจ.อะไรเพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ขาย ผู้จัดการมรดกจะจัดการทรัพย์สินให้เราง่ายขึ้น

2. โอนความไม่แน่นอนให้บริษัทประกันชีวิต

แนวคิดนี้เหมือนการซื้อประกันรถยนต์ แม้ว่าเป็นเบี้ยประกันจ่ายทิ้งรายปี แต่เราก็ยังซื้อประกันรถยนต์เพื่อความอุ่นใจ เรื่องของประกันชีวิตก็เช่นกัน เราซื้อเพื่อสร้างความอุ่นใจให้ครอบครัว 

ประกันชีวิตแบบพื้นฐานที่ตอบโจทย์ความคุ้มครองสูง จ่ายเบี้ยประกันน้อยๆ มี 2 แบบ คือ ประกันที่เป็นเบี้ยทิ้ง(แบบชั่วระยะเวลา) และเบี้ยประกันที่จ่ายแล้วมีมูลค่าเงินสด (แบบตลอดชีพ) 

โจทย์ของเราสาวสวยผู้น่ารัก คือ ตอนนี้อายุ 30 มองว่าภายใน 10 - 15 ปีนี้เป็นช่วงกำลังสร้างเนื้อสร้างตัว ถ้าเรามีชีวิตอยู่ครอบครัวสุขสบาย สร้างเงิน 10,000,000 บาทได้แน่นอน แต่ถ้าหากบังเอิญเราเสียชีวิต คนที่เรารักต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้นหลายเท่าและอยู่อย่างยากลำบาก

เราต้องการแผนสำรองมีเงินก้อนทันที 500,000 บาท จ่ายตรงถึงคนในครอบครัว ตอนนี้จ่ายเบี้ยประกันเท่าไหร่บ้าง ข้อมูลเปรียบเทียบจาก https://www.itax.in.th/market/ (เบี้ยประกันแตกต่างกันไปตามเพศและอายุ เข้าไปในเว็บคำนวณของตัวเองได้หรือสอบถามตัวแทนประกันอีกครั้ง)

!!การฆ่าตัวตายประกันชีวิตไม่จ่าย แอดมินขอเขียนคำตรงๆ ธรรมดาที่เข้าใจง่าย อาจจะมีบางคำพูดที่ดูรุนแรง ทำให้บางคนไม่สบายใจหรือรับไม่ได้ แอดมินก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

แบบที่ 1 ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา

  • เหมาะกับคนที่ต้องการความคุ้มครองสูงมากๆ แต่จ่ายเบี้ยประกันน้อยสุดๆ
  • หลักการจำง่ายๆ คือ “ตายภายในเวลาที่ซื้อประกันเท่านั้นถึงได้รับเงิน”

ตัวอย่างหมายเลข 1 คือ Term 10 ของ AIA จ่ายเบี้ยประกันปีละ 1,482 บาท จ่าย เป็นเวลา 10 ปี ทุนประกัน(ความคุ้มครองชีวิต)  570,000 บาท แปลว่า เสียชีวิตภายใน 10 ปี ครอบครัวได้รับเงินปรับตัวรับความสูญเสีย 570,000 บาท หากเสียชีวิตปีที่ 11 เป็นต้นไปไม่ได้รับเงิน

แบบที่ 2 ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ

  • เหมาะกับคนที่ต้องการความคุ้มครองสูง จ่ายเบี้ยประกันน้อย ได้รับเงินก้อนคืน พ่วงกับประกันสุขภาพ
  • หลักการจำง่ายๆ คือ “อยู่หรือตายก็ได้รับเงินและมีเงินก้อนแน่นอนตอนเกษียณ”

ตัวอย่างหมายเลข 1 คือ ห่วงรัก พรีเมียร์ ของ กรุงเทพประกันชีวิต จ่ายเบี้ยประกันปีละ 8,672 บาท จ่ายเป็นเวลา 20 ปี ได้รับเงิน ดังนี้

ถ้าตั้งแต่วันนี้ - อายุ 90 เราเสียชีวิต ครอบครัวได้รับเงินปรับตัวรับความสูญเสีย 540,000 บาท 

วันนี้ - อายุ 90 จำเป็นต้องใช้เงิน กู้ประกันชีวิตเอาเงินมาใช้ได้ ดอกเบี้ยหน้าเล่มกรมธรรม์ +2%

ถ้าเราดูแลตัวเองดี อายุยืนถึง 90 มีเงินก้อนสุดท้ายดูแลตัวเอง 540,000 บาท

ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าชีวิตมันไม่แน่นอน เราควรวางแผนจัดการเงินทั้งช่วงชีวิตขาขึ้นและขาลง จากเรื่องนี้ต้องการมีเงินสำรองให้ครอบครัวเพื่อปรับตัวรับความสูญเสีย 1 ปี  ทีทั้งแนวทางสะสมเงินเองและโอนความไม่แน่นอนให้บริษัทประกัน ถ้าใครสะดวกแบบไหนก็ทำแบบนั้นนะคะ

-------------

PR :  E-book “วิธีจัดการเงินขั้นเทพ ฉบับลงมือทำ” เคล็ดลับวิธีจัดการเงินแบบไม่ต้องคลำทางเอง อ่านแล้วทำ workshop ครบทุกเรื่อง รับรองว่าจัดการเงินดีขึ้นแน่นอน อ่านสารบัญและวิธีสั่งซื้อ E-book ได้ที่ลิงค์นี้นะคะ https://bit.ly/3eeO33Q

เพจอภินิหารเงินออม