“Disrupt or Die?”

ประโยคนี้ลอยขึ้นมาในหัวขณะที่ผมกำลังฟัง คุณอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) พูดแสดงวิสัยทัศน์ในงาน “AP WORLD : a new vision of quality of life”

โลกหมุนทุกวัน โลกธุรกิจก็หมุนไปทุกวันเช่นกัน

บางอุตสาหกรรมเปลี่ยนแปลงเร็ว บางอุตสาหกรรมเปลี่ยนแปลงช้า แต่สิ่งที่แน่นอน คือ ไม่มีอุตสาหกรรมไหนไม่เปลี่ยนแปลง แม้กระทั่งอุตสาหกรรมที่ดูจะเปลี่ยนแปลงไปไม่มากอย่างธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่ผู้เล่นในตลาดก็จำเป็นต้องลุกขึ้นมาปรับตัว บริษัทที่ล่มสลายไปแล้วมากมายสอนนักธุรกิจมือเก๋าที่ยังหมุนไปตามโลกอยู่ว่า “เปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน ก่อนที่จะโดนบังคับให้เปลี่ยนแปลง”

AP WORLD คือ การปรับตัวครั้งสำคัญของ AP

จากแบรนด์พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มีวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดสรรพื้นที่เพื่อความสุขในการใช้ชีวิต (Space Expert for Living Satisfaction) จนล่าสุดเอพีขยับตัวมาสู่วิสัยทัศน์ใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม  AP WORLD : a new vision of quality of life ที่ไม่ใช่แค่การจัดสรรพื้นที่เพื่อสร้างความสุขผ่านอสังหาริมทรัพย์แล้วเท่านั้น แต่เอพีจะสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้บริโภค วิสัยทัศน์ใหม่นี้เอพีต้องการจะสร้างพิมพ์เขียวแห่งคุณภาพชีวิตที่ดีในวันข้างหน้า ซึ่งจะสมบูรณ์ไปด้วยระบบนิเวศ (Eco System) ที่เอพีพัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อมุ่งสู่การเป็นรายแรกที่ริเริ่มสร้างสรรค์โลกแห่งคุณภาพชีวิตที่ดี อีกทั้ง ยังเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่ยั่งยืน

SEAC (เอสอีเอซี), VAARI (วาริ) และ CLAYMORE (เคลย์มอร์) คือ "โลกใบใหม่ของเอพี"

จากความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดสรรพื้นที่ชีวิต ผ่าน 3 ธุรกิจสำคัญในด้านอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่

  • AP ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อจำหน่ายที่ถือเป็นธุรกิจหลัก
  • BC (บีซี) ธุรกิจรับฝากขายฝากเช่าอสังหาริมทรัพย์ทุกรูปแบบ ที่มีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีมูลค่าอสังริมทรัพย์ซื้อ-ขาย-เช่า สูงถึง 12,000 ล้านบาท
  • และ SMART (สมาร์ท) ธุรกิจบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ที่ปัจจุบันมีโครงการภายใต้การดูแลมากกว่า 200 โครงการ รวมเป็นจำนวนครอบครัวมากกว่า 55,000 ครอบครัว

“แน่นอนว่า 3 ธุรกิจประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากแต่เอพีกำลังจะขยับไปให้ไกลกว่าสู่การรังสรรค์คุณภาพชีวิตที่ยอดเยี่ยม”

SEAC (เอสอีเอซี) คือ ธุรกิจด้านการศึกษา

SEAC จะเป็นศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน โดยได้รับความร่วมมือจากสถาบันระดับโลก อาทิ Stanford University 

ในยุคปัจจุบันที่โลกหมุนไวจนน่าตกใจ ในวันที่เราเรียนจบการศึกษา ความรู้ที่สะสมมาก็แทบจะล้าหลังไปเสียหมดแล้ว ผู้คนจำนวนมากในตลาดแรงงานต้องการปรับตัว ต้องการเปลี่ยนแปลง ต้องการพัฒนาตนเอง แต่รูปแบบการศึกษาในปัจจุบันจำนวนมากกลับไม่ตอบโจทย์ SEAC จะมาช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ เอสอีเอซีจะช่วยยกระดับความรู้ของผู้คน โดยที่พวกเขายังสามารถโลดแล่นอยู่ในโลกของการทำงานได้อย่างเต็มที่ แน่นอนว่านี่คือวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนเรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเอพี

VAARI (วาริ) คือ ธุรกิจด้านการจัดการคุณภาพชีวิต

VAARI คือ ผู้สร้างระบบนิเวศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการคุณภาพชีวิต งานของ VAARI คือการมองหา Pain ของผู้อยู่อาศัยในวันนี้ มองหาปัญหาที่จะช่วยเข้าไปแก้ให้ดีขึ้นได้

ยิ่งโลกหมุนไปทุกวัน ประสบการณ์ในการใช้อสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยยิ่งต้องได้รับการยกระดับมากขึ้น ความต้องการที่ต้องเข้ากันได้ดีกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบัน VAARI จะช่วยทำให้ผู้อาศัยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทำอย่างไรให้การใช้ชีวิตในแต่ละวันมีความสุข นี่คือโจทย์สำคัญที่วาริจะเข้าไปช่วยหาคำตอบ

CLAYMORE (เคลย์มอร์) คือ ธุรกิจนวัตกรรม

CLAYMORE ปักธงหลักในการพัฒนานวัตกรรมดีไซน์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่ยังไม่ถูกค้นพบ (Unmet Need) ของคนในสังคม

นวัตกรรมที่คิดค้นต้องจับต้องได้ และใช้งานได้จริง โดยการมองของนวัตกรรมจะไปไกลกว่าขอบเขตธุรกิจเดิมที่เคยมี มองข้ามแบรนด์ มองข้ามธุรกิจ มองข้ามอุตสาหกรรม CLAYMORE จะเป็น Innovation Lab ที่บ่มเพาะนวัตกรรมที่ตอบโจทย์กับสังคมโลกยุคปัจจุบัน แน่นอนว่าเราไม่ได้กำลังพูดถึงแต่เรื่อง Space เหมือนอย่างเคย แต่เรากำลังมองหาสิ่งที่ยิ่งกว่าอย่าง Quality of Life

"ธุรกิจหลักตั้งเป้าเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ธุรกิจใหม่เติมเต็มอนาคตแห่งคุณภาพชีวิตที่ดี"

เบื้องต้น เอพี ไทยแลนด์ คาดว่าจะปิดปี 2561 ด้วยการโตสวนกระแสกว่า 30% เติบโตเป็นประวัติการณ์ และขึ้นแท่นอันดับ 2 ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีรายได้สูงสุดของอุตสาหกรรม

มองไปไกลกว่าปีนี้ปีหน้า เอพี ไทยแลนด์ ตั้งเป้ารายได้แตะหลัก 60,000 ล้านบาทในอนาคตอันใกล้ ถึงแม้ว่าจะขออุบไว้ว่าเป็นตัวเลขภายใน แต่คุณอนุพงษ์ก็แย้มๆ ว่าอยากเห็นตัวเลขนี้ภายใน 2565 โดยหวังจะเห็นตัวเลขมาจากธุรกิจใหม่กว่า 6,000 ล้านบาท อย่างภายในปี 2562 นี้ก็ตั้งเป้าโครงการใหม่ 39 โครงการ มูลค่ารวม 56,800 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการแนวสูง 5 โครงการ และโครงการแนวราบอีก 34 โครงการ ซึ่งที่ดินในการเปิดโครงการทั้งหมดมีพร้อมหมดเรียบร้อยแล้ว

AP Thailand กล้าที่จะแตกต่าง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดสำหรับคนไทย

การเข้าร่วมฟังการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้บริหารระดับสูง AP ในครั้งนี้ ทำให้ผมนึกถึงหนังสือระดับตำนานอย่าง Blue Ocean Strategy ของปรมาจารย์ด้านกลยุทธ์อย่าง Ren?e Mauborgne และ W. Chan Kim

“AP มองข้ามน่านน้ำสีแดงของโลกธุรกิจปัจจุบัน ไปยังน่านน้ำสีครามที่อยู่ไกลออกไป”

บริษัทมองข้ามเวลาและพาตัวไปสู่โลกของการเปลี่ยนแปลงแห่งดิสรับชัน บริษัทมองข้ามอุตสาหกรรมและพากล้าตัวเองไปยังโลกของอุตสาหกรรมที่แตกต่าง และบริษัทยังกล้ามองข้ามห่วงโซ่อุปทานแบบดั้งเดิมเพื่อเข้าไปช่วยผู้บริโภคแก้ปัญหาในการใช้ชีวิตเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า

“เปิดใจ ปรับตัว เปลี่ยนแปลง และก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ ดูเหมือน AP จะกระโดดตัวเองเข้าสู่โลกใหม่ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มตัวแล้ว”

ลงทุนศาสตร์ - Investerest

บทความนี้เป็น Advertorial