เราหาเงินได้แล้วเก็บไว้ที่ไหน ดูได้ที่งบการเงินส่วนบุคคลส่วนของ “ทรัพย์สินและหนี้สิน” ทำให้รู้ว่าตอนนี้ฐานะการเงินของเราเป็นอย่างไร เมื่อรู้แล้วจะได้เข้าใจสถานการณ์ของตัวเองแล้วเริ่มต้นวางแผนการเงินได้แบบมีทิศทางมากขึ้น ถ้าฐานะเป็นบวกก็สบายใจได้ส่วนหนึ่ง แล้วต้องรักษาได้ดีแบบนี้ต่อไป แต่ถ้าออกมาเป็นลบก็ต้องหันมาแก้ปัญหาก่อน ถึงจะเริ่มวางแผนเพื่ออนาคตนะคะ
ภาพรวมฐานะการเงิน
แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ทรัพย์สินและหนี้สิน ดังนี้
ทรัพย์สิน
ทรัพย์สินสภาพคล่อง
เราต้องการใช้ตอนไหน ถอนเงินออกมาใช้ทันที แม้ว่าดอกเบี้ยต่ำ แต่เงินต้นอยู่ครบ เหมาะกับเก็บเงินฉุกเฉิน เก็บเงินเพื่อดาวน์บ้านหรือดาวน์รถ
ทรัพย์สินส่วนตัว
เราไม่คิดจะขาย เป็นของรักของหวง มีความรู้สึกผูกพัน ต้องการเก็บไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน
ทรัพย์สินลงทุน
ทำให้เงินเติบโต มีทั้งการเก็งกำไรระยะสั้นและเก็บระยะยาวใช้หลังเกษียณ วางแผนไว้ว่าเงินแต่ละก้อนจะใช้ตอนอายุเท่าไหร่ เพื่อเกลี่ยเงินให้มีใช้ตลอดชีวิต
หนี้สิน
รวมกันแล้วควรมีประมาณ 40 - 45% ของรายได้ เพื่อจะได้ไม่สร้างภาระหนักมากเกินไปจนกลายเป็นคนหนี้สินล้นพ้นตัว แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
หนี้ระยะสั้น ควรมีไม่เกิน 20% ของรายได้
กู้มาแล้วต้องรีบคืนเงิน เช่น บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด โรงรับจำนำ ยืมเงินคนอื่น ฯลฯ หนี้แบบนี้เราควรปลดหนี้เร็วๆ ไม่งั้นเจอดอกเบี้ยแพง
หนี้ระยะยาว ควรมีไม่เกิน 20 - 25% ของรายได้
กู้มาแล้วผ่อนระยะยาวหลายปี เช่น เงินกู้ กยศ. ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หนี้สหกรณ์ ฯลฯ ดอกเบี้ยต่ำกว่าหนี้ระยะสั้น
ตัวอย่าง เรามีรายได้เดือนละ 30,000 บาท
ควรมีหนี้ระยะสั้นไม่เกิน 6,000 บาท
หนี้ระยะยาวไม่เกิน 6,000 - 7,500 บาท
รวมหนี้สินผ่อนหนี้สินต่อเดือนไม่ควรเกิน 12,000 - 13,500 บาทของรายได้
เราจะมีเงินออมเพื่ออนาคตและเหลือใช้จ่ายส่วนตัวส่วนอีก 16,500 - 18,000 บาท
หนี้สินที่ทำให้เราสบายตัวควรเป็นเท่าไหร่
วิธีคำนวณ คือ
(หนี้สินรวม / ทรัพย์สินรวม) x 100 ผลลัพธ์ที่ได้ควรน้อยกว่า 50%
=> นำยอดหนี้ทั้งหมดของเรามารวมกัน เรียกว่า “หนี้สินรวม”
=> นำมูลค่าทรัพย์สินของเราทั้งหมดมารวมกัน เรียกว่า “ทรัพย์สินรวม”
=> นำหนี้สินมาหารทรัพย์สินแล้วคูณ 100 สิ่งที่จะเกิดขึ้น…
1. ถ้าได้ผลลัพธ์น้อยกว่า 50% เรามีความมั่งคั่งเป็นบวก
พยายามรักษาระดับให้ต่ำแบบนี้ต่อไป แปลว่า เราสามารถขายทรัพย์สินแล้วมาจ่ายหนี้ได้ทั้งหมด เงินที่เหลือในแต่ละเดือนสามารถวางแผนเพื่ออนาคตได้อย่างเต็มที่
2. ถ้าผลลัพธ์เกินกว่า 50% เรามีความมั่งคั่งติดลบ
เพราะมีหนี้มากเกินไป ต้องแก้ไขหนี้อย่างจริงจัง เข้าไปคุยกับเจ้าหนี้ว่าควรจัดการตัวเองอย่างไรหรือเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้
ถ้าเราแยกทรัพย์สินและหนี้สินได้แล้ว ก็จะรู้ว่าตัวเองมีฐานะเป็นอย่างไร เพื่อจะได้วางแผนจัดการเงินได้เหมาะสมกับสภาพคล่องในปัจจุบันให้ได้มากที่สุดนั่นเองจ้า
————
PR : คอร์สการเงินและ E-book
=> ขาย E-book “วิธีจัดการเงินขั้นเทพ ฉบับลงมือทำ” สรุปเคล็ดลับวิธีจัดการเงินแบบไม่ต้องคลำทางเอง อ่านแล้วทำ workshop ครบทุกเรื่อง รับรองว่าจัดการเงินดีขึ้นแน่นอนวิธีการสั่ง E-book และหนังสือเล่มในลิงค์นี้นะคะ https://www.facebook.com/miracleofsaving/photos/a.641428715894749/3107277445976518/?type=3&theater