ในช่วงปลายปีแบบนี้ ผมเชื่อว่านักลงทุนหลายท่านกำลังที่จะตัดสินใจซื้อกองทุน LTF/RMF กันอยู่แน่ๆ แต่ว่าหลายท่านก็ยังคงรอ

“จังหวะ”

การลงทุนที่ดีอยู่ หรือ มีความคิดที่ว่าการลงทุนกับกองทุน LTF/RMF ในช่วงปลายปี โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายนั้นเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากหลายๆ ปัจจัย ได้แก่ โปรโมชั่นจาก บลจ. ต่างๆ ที่ทยอยกันออกมาพร้อมให้คัดเลือกกันว่าของใครจะดีกว่า ร่วมกับมีประสบการณ์ว่าการซื้อกองทุน LTF/RMF เมื่อปลายปีที่แล้ว (2013) ที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงจากปัญหาการเมือง และเรื่องการปรับลด QE ของสหรัฐ ทำให้ได้ราคา LTF/RMF ที่ค่อนข้างต่ำ หรือ บางท่านอาจจะไม่ได้วางแผนจะซื้อตั้งแต่ต้นปี

แต่จากข้อมูลย้อนหลังประมาณ 10 ปี ตั้งแต่ปีที่จัดตั้ง LTF/RMF ขึ้นมานั้น 8 ใน 10 ปีจะเห็นได้ว่าดัชนีหุ้น หรือ SET index ได้ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนธันวาคมทั้งสิ้น มีเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้นที่ดัชนีในเดือนธันวาคมจะต่ำกว่าดัชนี SET index ในเดือน พฤศจิกายน คือปี 2006 และ ปี 2013 นั่นเอง

และเมื่อเทียบกับวิธีการที่นักลงทุนทยอยซื้อกองทุนด้วยเงินลงทุนเท่า ๆ กันทุกเดือน หรือที่เรียกว่า การลงทุนด้วยกลยุทธ์แบบ Dollar Cost Averaging (DCA) นั้น จะมีโอกาสให้ผลตอบแทนดีกว่าการซื้อกองทุนในช่วง 2 เดือนสุดท้ายอีกด้วย เช่นเดียวกับปี 2014 นี้ ที่เห็นชัดๆ ว่าซื้อตั้งแต่ต้นปี ดีกว่าซื้อในช่วงปลายปี ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ก็ควรที่จะวางแผนลงทุนตั้งแต่ตอนต้นปีครับ

ส่วนท่านไหนที่ไม่ได้วางแผนในการซื้อกองทุน ของปีนี้แล้วละก็ ผมมีวิธีการในการซื้อกองทุน  LTF/RMF ดังนี้ครับ เนื่องจากราคาหุ้นมีแนวโน้มที่จะพุ่งขึ้นจาก เดือนพฤษจิกายน ของทุกปี ดังนั้น ผมแนะนำว่าให้ซื้อกองทุนLTF/RMF ในช่วง เดือนพฤษจิกายน นี้เลยเพื่อหลีกเลี่ยงการซื้อกองทุน LTF/RMF ในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของปี หรือ สิ้นเดือนธันวาคม เพราะว่าในช่วงเดือนธันวาคมนั้น จะมีการส่งคำสั่งซื้อเข้าไปที่ บลจ. ต่าง ๆ อย่างหนาแน่น และแน่นอนว่าจะทำให้เราพลาดการบริการดี ๆ เช่นคำแนะนำในการลงทุน และเผลอ ๆ อาจจะพลาดการลงทุนในปีนี้ไปอย่างน่าเสียดายอีกด้วย

ถ้าท่านนักลงทุนปฏิบัติตามคำแนะนำเบื้องต้นแค่นี้ ผมเชื่อว่าจะทำให้
“การซื้อ LTF/RMF ปลายปีนี้ไม่ยาก ไม่วุ่นวายและ มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดี”

ที่มาจาก : บทความพิเศษจากของ บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด