“ความหมายของชีวิตคืออะไร?”

คำถามนี้น่าจะเคยวนเวียนอยู่ในหัวของใครหลายคนอยู่บ้าง...เพราะในครั้งหนึ่งเราอาจจะเกิดมาเพื่อหาความหมายให้กับชีวิต หรือบางทีเราจะปล่อยให้มันไม่มีความหมายเลยก็ได้

แต่สำหรับคนที่นิยามความหมายของชีวิตตัวเองได้แล้ว เชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่ทุกคนจะต้องมีเพื่อเติมเต็มความหมายเหล่านั้น ก็คือ “การตั้งโจทย์หรือเป้าหมายให้กับชีวิต”

แน่นอนว่าทุกเป้าหมายในชีวิตไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ต้องมีเรื่องเงินๆทองๆเข้ามาเกี่ยวข้อง และเพราะเหตุนี้ชีวิตเราก็ควรรู้จักกับ “การลงทุน” ด้วยเหมือนกัน ซึ่งการจะลงทุนเพื่อให้ตอบโจทย์นั้นเราก็ควรรู้จักวิธีการจัดพอร์ตลงทุนด้วย

ซึ่งปั้นเงินมีรูปแบบพอร์ตฯ 3 แบบที่ทุกคนควรมีเพื่อตอบโจทย์เป้าหมายชีวิต รวมถึงความหมายของชีวิตในวันข้างหน้า โดยจะแบ่งเป้าหมายในการจัดพอร์ตตามนี้..

(1) พอร์ตลงทุนระยะยาวเพื่อเป้าหมายที่สำคัญที่สุด

เป้าหมายที่อยู่ไกลบางครั้งมันดูห่างไกลเกินไปจนไม่สำคัญ แต่อันที่จริงแล้วเป้าหมายระยะยาวนี่แหละคือสิ่งที่สำคัญและสามารถตัดสินความสำเร็จในการวางแผนการเงินของเราในอนาคตได้เลย

เรารู้กันดีว่าการลงทุนเพื่อนำเงินไปใช้ภายหลังการเกษียณอายุเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะเราต่างใช้เวลากว่า 1 ใน 3 ของชีวิตทำงานเพื่อสะสมเงินไปใช้ในยามบั้นปลาย ซึ่งในเวลาเราก็คงอยากใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายกันทั้งนั้น

พอร์ตลงทุนสำหรับเป้าหมายระยะยาวนี้จึงเป็นพอร์ตลงทุนแบบแรกที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญ แม้จะไม่สำคัญในวันนี้ แต่มันสำคัญกับอนาคตจริงๆ

รูปแบบการลงทุน: เราสามารถใช้สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงอย่างหุ้นเข้ามาผสมในพอร์ตฯได้ 50-60% ขึ้นไป เพราะเราสามารถลดความเสี่ยงของหุ้นได้ด้วยการลงทุนระยะยาว โดยที่เหลือใช้สินทรัพย์ที่สร้าง Fixed Income 20-30% และลงทุนเพื่อนสภาพคล่อง 10-20%

(2) พอร์ตลงทุนระยะยาวเพื่อเป้าหมายที่ช่วยเติมเต็มชีวิต

ถ้าอยากให้ชีวิตในด้านอื่นๆได้รับการเติมเต็ม ผมขอแนะนำให้ทุกคนมีพอร์ตลงทุนสำหรับความสุขในด้านต่างๆของชีวิต เช่น การมีอิสรภาพทางการเงิน สร้างพอร์ตที่จ่าย Passive Income ให้เราได้ จัดพอร์ตเพื่อการกุศล สร้างวัด สร้างโรงพยาบาล หรือเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวรอบโลก เป็นต้น

จะเห็นว่าความจริงแล้วเป้าหมายที่ผมยกตัวอย่างให้เห็น มันไม่ได้จำเป็นว่าทุกคนจะต้องมีเหมือนกัน แต่มันขึ้นอยู่กับขนาดของความพอใจหรือความหมายของสิ่งเหล่านั้นที่มีต่อชีวิต

ดังนั้นพอร์ตลงทุนเพื่อเป้าหมายนี้สามารถรับความเสี่ยงได้สูง เพราะเราตั้งใจจะลงทุนเพื่อเติมเต็มอะไรบางอย่าง ไม่ใช่เพราะว่ามันสำคัญจำเป็นกับชีวิตเรา

แต่ถ้ามันมีความหมายและสำคัญมากจริงๆผมแนะนำว่าจัดเป้าหมายนั้นให้อยู่ในกลุ่มแรกน่าจะดีกว่า

รูปแบบการลงทุน: ใช้สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงอย่างหุ้นเข้ามาทำให้พอร์ตนี้ถึงไปเป้าหมายได้เร็วขึ้นด้วย การให้น้ำหนัก 70-80% ขึ้นไป ส่วนที่เหลือลงทุนเพื่อสภาพคล่อง 20-30%

(3) พอร์ตลงทุนระยะสั้นเพื่อเป้าหมายอันสำคัญยิ่ง

ในบางครั้งเป้าหมายใหญ่และสำคัญก็เกิดขึ้นมาโดยที่เราไม่เคยรู้ว่าจะต้องมีมันมาก่อน เพราะจุดเริ่มต้นของเป้าหมายอาจจะเกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจ ภาระฉุกเฉิน หรือความตั้งใจพิเศษเสมอ

ซึ่งแน่นอนว่าความสำคัญของมันจะมีมากจนถึงขั้นที่เราต้องกันเงินบางส่วนไว้เพื่อวัตถุประสงค์เหล่านั้นโดยเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่น...

บางคนแต่งงานอยากซื้อบ้านใหม่ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า บางคนอยากเริ่มต้นธุรกิจด้วยเงินเก็บที่มีภายในปีหน้า เป็นต้น

ระยะเวลาของเป้าหมายจึงสั้นและสำคัญเกินกว่าที่เป้าหมายนั้นจะรับความเสี่ยงได้ไหว

รูปแบบการลงทุน: ใช้เงินลงทุนวางทิ้งไว้ในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำเช่น บัญชีออมทรัพย์ กองทุนรวมตลาดเงิน หรือกองทุนรวมตราสารหนี้ ในสัดส่วน 100% จนกว่าจะถึงเวลาที่กำหนด และไม่ควรมีสินทรัพย์ที่เสี่ยงมากกว่านี้


ปั้นเงินมักจะแนะนำเสมอว่าพอร์ตลงทุนนั้นควรจัดแยกตามวัตถุประสงค์และเป้าหมาย เพราะเป้าหมายต่างๆในชีวิตเรารับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน และต้องการผลตอบแทนที่ต่างกัน

เลือกจัดพอร์ตให้เหมาะสมกับเป้าหมายชีวิตกันเถอะ