[WEEKLY OUTLOOK กับอัศวินกองทุน]สรุปภาพรวมการลงทุน ช่วงวันที่ 8-12 สิงหาคม 2559

สวัสดีครับ กลับมาพบกันอีกแล้วในสัปดาห์ที่ 9 กับผม “อัศวินกองทุน” เพื่อนคู่คิดที่จะมาช่วยทุกคนให้ทราบถึงแนวโน้มการลงทุนทั่วโลกแบบสั้นๆ เข้าใจง่ายเป็นประจำทุกรายสัปดาห์ เพื่อให้ทุกคนมีชีวิตชีวากับลงทุนและกระจายความเสี่ยงได้อย่างสบายใจเหมือนเช่นเคย

ในช่วงวันที่ 8-12 สิงหาคม 2559 นี้ มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง โดยสิ่งหนึ่งที่เป็นปัจจัยหลักส่งผลกระทบของทั่วโลก นั่นคือ ปัจจัยบวกจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ซึ่งทำให้ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นเอเชียเป็นส่วนใหญ่ เรามาดูกันเลยดีกว่าครับว่าสัปดาห์นี้ผมจะมีคำแนะนำอย่างไรบ้าง...

คลิกเพื่อดูภาพใหญ่

สรุปภาพรวมประจำสัปดาห์  :
ตลาดหุ้นเอเชียได้รับปัจจัยบวกจากนโยบายการเงินผ่อนคลายทั่วโลก

ตลาดหุ้นสหรัฐ

เริ่มต้นที่ตลาดหุ้นสหรัฐกันก่อนเลยครับ เราจะสังเกตได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในไตรมาสที่สองขยายตัวเพียงร้อยละ 1.2 ซึ่งต่ำกว่าการคาดกาณ์ ทำให้ความเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอตัวเพิ่มสูงขึ้นจากการที่ภาคธุรกิจชะลอการลงทุน ดังนั้นในช่วงนี้ผมมองว่านักลงทุนทุกคนควรรอดูท่าทีกันไปก่อน จึงอยากแนะนำให้คงการลงทุนไว้ครับ

ตลาดหุ้นยุโรป

ผลการทดสอบ Stress test ของภาคธนาคารในยุโรปออกมาค่อนข้างดี  ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษ ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% และเพิ่มวงเงินซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติม ซึ่งโดยรวมช่วยสนับสนุนความเชื่อมั่นนักลงทุนมากขึ้น ดังนั้นในสัปดาห์นี้ ผมขอแนะนำให้เป็นคงการลงทุนไว้

ตลาดหุ้นจีน (A-SHARE / H-SHARE )

มาดูทางด้านตลาดหุ้นจีนกันบ้างครับ ในฝั่งของตลาด H-SHARE ตอนนี้ผมมองว่าระดับราคาต่อมูลค่าพื้นฐานน่าสนใจ แต่ในขณะที่ตลาดหุ้น A-SHARE มีปัจจัยเข้ามากดดันหลังจากรัฐบาลเข้าควบคุมเรื่อง Wealth management products (WMPs) ทำให้สภาพคล่องลดลง ถ้าเป็นแบบนี้แล้วล่ะก็ ผมแนะนำว่านักลงทุนควรเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในในตลาด H-SHARE และคงการลงทุนในตลาดฝั่ง A-SHARE ไปก่อนครับ

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น

สำหรับตลาดหุ้นญี่ปุ่น ในสัปดาห์นี้น่าจะมีนโยบายการคลังจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ประกอบกับ BOJ ได้ประกาศเพิ่มวงเงินในการเข้าซื้อ ETF ซึ่งเหมือนกับการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าตลาดหุ้นกันเลยทีเดียว ประกอบกับราคาต่อมูลค่าพื้นฐานของตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลงมา ดังนั้นผมมองว่าตอนนี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเริ่มน่าสนใจในการลงทุน จึงอยากแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนครับ

ตลาดหุ้นเกาหลี

การไม่รีบขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ และการทำนโยบายผ่อนคลายเพิ่มเติมจากธนาคารกลางญี่ปุ่นและอังกฤษ เป็นปัจจัยสนับสนุน fund flow ให้เข้าตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะตลาดหุ้นเกาหลีที่ราคาต่อมูลค่าพื้นฐานยังไม่สูงมาก แบบนี้เห็นทีจะเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่เราจะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนเช่นเดียวกันครับ

ตลาดหุ้นไทย

ทางฝั่งตลาดหุ้นไทย ผมมองว่าเศรษฐกิจยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน และโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงสภาวะดอกเบี้ยต่ำทั่วโลกยังเป็นปัจจัยที่สนับสนุนการลงทุนในตลาดหุ้นไทย แบบนี้จะรออะไรกันอยู่ล่ะครับ เพิ่มน้ำหนักการลงทุนกันเลยครับผม

ตลาดหุ้นอินเดีย

สำหรับตลาดหุ้นอินเดีย สภาสูงของอินเดียมีมติผ่านร่างกฎหมายภาษีสินค้าและบริการ (GST Bills) ซึ่งถือเป็นการปฏิรูปโครงสร้างภาษีครั้งใหญ่ของอินเดียในรอบ 16 ปี ที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำของการจัดเก็บภาษีระหว่างรัฐของอินเดียและจะเป็นปัจจัยที่สนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจอินเดียอีกด้วย แหม่.. แนวโน้มดีแบบนี้ ตลาดอินเดียก็เป็นที่หนึ่งที่ผมอยากจะแนะนำให้เพิ่มการลงทุนครับ

เงินสดและกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น

เมื่อความผันผวนของตลาดหุ้นมีแนวโน้มลดลง นักลงทุนควรลดการถือครองเงินสด และเริ่มลงทุนในตลาดหุ้นครับ ดังนั้นลดสัดส่วนเงินสดในมือกันได้เลยครับ

น้ำมัน

ตัวเลขปริมาณสำรองสหรัฐฯ ลดลง คาดว่าราคาขาขึ้นของน้ำมันดิบจะยังมีจำกัด เนื่องจากปริมาณสำรองน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับสูง แบบนี้ผมว่าดูท่าทีโดยการคงการลงทุนกันไปก่อนจะดีกว่าครับ

ทองคำ

ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯเดือน ก.ค. ที่ออกมาดีกว่าการคาดการณ์ค่อนข้างมากอาจเป็นปัจจัยทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่า กดดันราคาทองคำในระยะสั้น แบบนี้ดูท่าทีโดยการคงการลงทุนไว้ก่อนจะดีกว่าครับ

ตราสารหนี้ไทย

ราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยช่วงอายุ 1-3 ปีปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สอดคล้องกับทิศทางอัตราผลตอบแทนที่จากการเข้าซื้อต่อเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ตามการถือครองพันธบัตรยังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีในการกระจายความเสี่ยงอยู่ครับ ผมก็ยังคงแนะนำเหมือนเช่นเคยว่าให้คงการลงทุนในตราสารหนี้ต่อไปครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์นี้ ผมขอสรุปสั้นๆอีกสักทีนะครับว่า จากผลของการผ่อนคลายนโยบายการเงินทั่วโลก ทำให้ตลาดหุ้นทางฝั่งเอเชียเริ่มน่าสนใจมากขึ้น ตั้งแต่ ญี่ปุ่น เกาหลี ตลาด H-SHARE ของจีน อินเดีย หรือแม้แต่ตลาดหุ้นไทยของเราก็เช่นเดียวกันครับ ทั้งหมดนี้อาจจะเริ่มเป็นโอกาสที่ดีในการเพิ่มการลงทุนของเรา อย่างไรก็พิจารณาเลือกตลาดหุ้นที่ใช่และที่ชอบให้เหมาะสมด้วยนะครับ

แม้จะเป็นสัปดาห์ที่ 9 แล้วก็ตาม แต่ผมก็ยังอยากบอกเพื่อนๆนักลงทุนทุกคนที่อ่านบทความนี้ครับว่า อย่าลืมพิจารณาข้อมูลให้ดี กระจายความเสี่ยงä