[WEEKLY OUTLOOK กับอัศวินกองทุน] สรุปภาพรวมการลงทุน ช่วงวันที่ 13-17 กุมภาพันธ์ 2560
สวัสดีครับ อัศวินกองทุน คนดีคนเดิม มารายงานตัวแล้วครับผม กับ Weekly Outlook ตอนที่ 2 ประจำปี 2560 ที่จะมาสรุปภาพรวมการลงทุนประจำสัปดาห์เหมือนเช่นเคยคร้าบบบ
สำหรับสัปดาห์นี้จะมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจอะไรบ้าง เรามาดูกันเลยดีกว่าครับ
ภาพรวมของตลาด
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นโลกนั้นปรับตัวลงมาอยู่ครับ ซึ่งนำโดยตลาดหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว จากความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ และตัวเลข GDP สหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์ ซึ่งต้องจับตาดูกันเลยครับว่า จะเป็นยังไงต่อไป
แต่ในฝั่งเอเชียนั้น ตลาดหุ้นจีน H-SHARE กลับปรับตัวขึ้นแรง นำโดยหุ้นกลุ่มอสังหาฯ หลังจากตัวเลขยอดขายบ้านเดือน ม.ค. ออกมาสูงกว่าการคาดการณ์
ส่วนทางตลาดหุ้นไทยบ้านเราปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก และทิศทาง fund flow ที่กลับเข้ามาซื้อหุ้นขนาดใหญ่มากขึ้นครับ
นอกจากตลาดหุ้นแล้ว ทางฝั่งสินทรัพย์ทางเลือก จะเห็นว่าราคาน้ำมันปรับตัวลงหลังจากตัวเลขปริมาณสำรองน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นกว่าการคาดการณ์มาก ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากความกังวลของตลาดจากประเด็นการเมืองในประเทศฝรั่งเศส
ผมมองว่าภาพรวมของตลาดในอาทิตย์นี้ยังไม่แตกต่างจากสัปดาห์ที่แล้วสักเท่าไรครับ แต่การลงทุนของเราก็ต้องดำเนินต่อไปด้วยกลยุทธ์ที่ถูกต้อง มาดูกันต่อครับว่า ผมจะแนะนำยังไงต่อไป
กลยุทธ์ลงทุนในตลาดตราสารทุน
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผมแนะนำให้ชะลอการเข้าลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐไว้ก่อนครับ เนื่องจากระดับราคาปัจจุบันได้สะท้อนความคาดหวังนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ขณะที่นโยบายต่างๆที่ทางทรัมป์ ได้กล่าวไว้ในช่วงหาเสียง ยังต้องได้รับความเห็นชอบจากสภา congress ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้เวลา และอาจไม่ได้รับความเห็นชอบก็ได้ครับ ดังนั้นตอนนี้ดูท่าทีน่าจะดีที่สุดครับ
- ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ผมแนะนำให้ชะลอการเข้าลงทุนตลาดหุ้นญี่ปุ่นเหมือนกันครับ เนื่องจากค่าเงินเยนที่แข็งค่าตั้งแต่ต้นปีจะกดดันต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนด้วยเช่นกัน รอกันต่อไปครับผม
- ตลาดหุ้นยุโรป รอมาสองตลาดแล้ว สำหรับตลาดยุโรปนั้น ดูเหมือนจะยังมีโอกาสอยู่ครับ ผมแนะนำให้ทยอยเข้าสะสมหุ้นยุโรป จากตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดีกว่าคาดการณ์ครับ ดังนั้น จัดได้เลยครับผม
- ตลาดหุ้นเอเชีย เช่นเดียวกันกับยุโรปครับ ผมยังแนะนำให้ทยอยสะสมในตลาดเกิดใหม่ อย่าง ตลาดจีนทั้งสองตลาด ไทย และเกาหลี เพราะจากท่าทีของ Fed ที่ไม่มีการส่งสัญญาณรีบขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.พ. เป็นปัจจัยสนับสนุนให้นักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นประเทศเกิดใหม่มากขึ้นครับผม
สรุปคำแนะนำการลงทุนในสัปดาห์นี้
แนะนำทยอยเข้าสะสมหุ้นยุโรป ตลาดหุ้นไทย ตลาดหุ้นเกาหลี ตลาดหุ้น A-SHARE และตลาดหุ้น H-SHARE และชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ, ญี่ปุ่น, อินเดีย ครับ
กลยุทธ์ลงทุนในตลาดตราสารหนี้
- พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในช่วงนี้ นักลงทุนยังคาดหวังว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือน มิ.ย. นี้ครับ ซึ่งต้องติดตามผ่านการประชุมเฟดในวันที่ 15 มี.ค. ผมมองว่าผลการประชุมเฟดอาจจะส่งผลให้ตลาดตราสารหนี้กลับมาผันผวนได้อีกครั้งหนึ่งครับ
- พันธบัตรรัฐบาลไทย ทางด้านพันธบัตรรัฐบาลไทย ยังมีแนวโน้มทรงตัวก่อนการประชุมเฟดครับ และนักลงทุนต่างชาติมีโอกาสกลับเข้ามาลงทุนในตราสารหนี้ไทย อย่างไรก็ตามจากภาวะเศรษฐกิจไทยและอัตราเงินเฟ้อที่ปรับขึ้นและความเสี่ยงจากนโยบายธนาคารกลางสหัฐฯจะยังส่งผลให้มีความผันผวนอยู่ครับ
สรุปคำแนะนำการลงทุนในสัปดาห์นี้
ผมยังคงแนะนำให้ลดการลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว และไปเน้นลงทุนในตลาดเงินแทนครับ
กลยุทธ์ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก
- ทองคำ ผมมองว่าเป็นจังหวะดีที่จะเพิ่มการลงทุนในทองคำหลังจากธนาคารสหรัฐฯ ยังไม่ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งล่าสุด เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากประเด็นทางการเมืองจากนโยบายกีดกันการค้าสหรัฐฯ และการเลือกตั้งในยุโรปครับ
- น้ำมัน ตอนนี้ผมคิดว่ายังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมนะครับ ดังนั้นไม่แนะนำให้เข้าลงทุนในน้ำมัน ถึงแม้ประเทศกลุ่ม OPEC จะลดการผลิตและการส่งออกตามข้อตกลง แต่ราคาที่ปรับตัวดีขึ้นจะทำให้ผู้ผลิตที่มีต้นทุนต่ำในสหรัฐฯ เริ่มกลับมาทำการผลิต
สรุปคำแนะนำการลงทุนในสัปดาห์นี้
ผมแนะนำลงทุนทองคำและให้ชะลอการลงทุนในน้ำมัน
สำหรับสัปดาห์นี้ ถ้าสังเกตดูยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนมากนักครับ นอกจากมีทรัพย์สินให้เลือกลงทุนเพิ่มขึ้น อย่างทองคำ และ ตลาดหุ้น H-SHARE ครับ ซึ่งตรงนี้นักลงทุนทุกคนต้องกระจายความเสี่ยงให้เหมาะสมมากขึ้นครับ อย่างที่เขาชอบบอกกันแหละครับว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนครับ
เอาล่ะครับ ผมอัศวินกองทุนขออวยพรให้นักลงทุนทุกคนมีความสุขกับการลงทุนในสัปดาห์นี้ และ Happy Valentine ไว้ล่วงหน้าครับผม
หมายเหตุ : *ข้อมูลจาก Bloomberg ณ วันที่ 9 ก.พ. 2560 ทั้งนี้ เอกสารนี้จัดทำเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับเผยแพร่ทั่วไป ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อชักชวน ชี้นำ หรือ เสนอซื้อ-ขาย หลักทรัพย์ใดๆ จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็นหรือคำแนะนำในการตัดสินใจการลงทุนทางการเงิน และทางธุรกิจแต่อย่างใดโดยสิ้นเชิง ผู้ใช้ข้อมูลนี้ต้องใช้ความระมัดระวังด้วยวิจารณญาณของตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นด้วยตน