บ้านที่อยู่แล้วมีความสุขเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนาอยากได้เป็นเจ้าของ เนื่องจากคนเราเกิดมาใช้เวลาอยู่กับบ้านมากกว่าที่แห่งไหนในโลก และใช้เป็นที่สานสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัว

บ้านจึงมีความหมายมากกว่าอิฐหินปูนทรายมากองรวมกันเพื่อสร้างเป็นที่พักผ่อน

บ้านยังเป็นสถานที่สร้างสุขภาพร่างกายแข็งแรง สร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน และสร้างฐานะความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น ฯลฯ คนเราจึงทุ่มเททำงานเก็บเงินเพื่อให้ได้เป็นเจ้าของบ้านสักหลังหนึ่งในชีวิต

การเลือกซื้อบ้านถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในชีวิต ซึ่งส่งผลถึงสมาชิกทุกคนในครอบครัวตลอดช่วงที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้น จึงเป็นเรื่องที่ต้องตัดสินใจเลือกให้ดี และเหมาะกับครอบครัวของคุณอย่างแท้จริง โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคต ดังนั้น ผมขอหยิบยกปัจจัยหลัก 4 ประการที่มีผลต่อการเลือกซื้อบ้าน ดังนี้

1. ทำเลต้องเดินทางสะดวก

“ทำเล ทำเล ทำเล” เป็นคำพูดติดปากเวลาต้องการบอกว่าการเลือกซื้อบ้านอะไรสำคัญที่สุด ซึ่งหัวใจของทำเลคือเรื่องความสะดวกในการเดินทางระหว่างบ้านไปที่ทำงาน บ้านไปโรงเรียนลูก และบ้านไปช้อปปิ้ง ฯลฯ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้มีเวลาได้อยู่กับครอบครัวมากขึ้น โดยทำเลที่ดีไม่จำเป็นต้องอยู่กลางใจเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่น หากคุณทำงานอยู่นอกเมืองหรือทำงานอยู่ที่บ้านก็ควรเลือกที่ทำเลให้เหมาะสมตามวิถีชีวิตที่เราเลือกไว้

2. พื้นที่เพียงพอต่อสมาชิกในครอบครัว

ตอนเริ่มต้นทำงานยังไม่ค่อยมีภาระ บางคนอาศัยอยู่กับพ่อแม่ บางคนเลือกที่จะแยกมาอยู่ในคอนโดเพราะต้องการอิสระ บางคนมาจากต่างจังหวัดและต้องเช่าคอนโดอยู่ แต่พอถึงจุดหนึ่งหลายคนเริ่มรู้สึกว่าอยู่คอนโดแล้วอึดอัด เพราะด้วยขนาดพื้นที่ที่เล็ก อยู่ไปเสื้อผ้าเริ่มเยอะจึงต้องใช้ตู้เสื้อผ้าหลายใบ แถมอยู่ไปอยู่มาก็มีแฟนเลยต้องหาที่จอดรถเพิ่มอีก คบกันจนมั่นใจจนแต่งงานมีลูกจึงต้องเตรียมห้องนอนให้ลูกและปู่ย่าตายายซึ่งมาช่วยเลี้ยงหลานก็ต้องมีห้องให้ท่านอีก ดังนั้น พอเริ่มมีครอบครัวหลายคนจึงเทใจให้กับบ้านที่มีเนื้อที่สำหรับสมาชิกทุกคนในครอบครัว

3. คุณภาพบ้านสร้างได้มาตรฐาน

ซื้อบ้านเป็นกิจกรรมที่ทำไม่กี่ครั้งในชีวิต คนส่วนใหญ่แทบไม่มีประสบการณ์ว่าต้องดูอย่างไรว่าบ้านคุณภาพดีหรือว่าแย่ จากประสบการณ์ของผมการเลือกซื้อบ้านกับผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียงมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก แต่ผู้ซื้อยังคงมีหน้าที่ต้องตรวจสอบบ้านว่าได้คุณภาพก่อนรับโอน เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัย และไม่ต้องเสียค่าซ่อมแซมบ่อยๆ หากไม่แน่ใจควรจ้างมืออาชีพให้มาช่วยตรวจรับบ้านจะดีกว่า

4. ราคาบ้านอยู่ในงบที่จ่ายไหว

“นกน้อยทำรังแต่พอตัว” เป็นคำเตือนสติว่าซื้อบ้านให้เหมาะสมกับฐานะ อย่าก่อหนี้เกินตัวจนผ่อนไม่ไหว เพราะบ้านเป็นสินเชื่อที่มีระยะเวลาผ่อนชำระยาวนานที่สุดโดยเฉลี่ยเกือบ 30 ปี เราจึงควรเลือกซื้อบ้านที่อยู่ในงบที่จ่ายไหวสบายๆ มีเงินเหลือเอาไปลงทุน หรือส่งลูกเรียน เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงินที่ดี และใช้เงินเก็บที่เหลืออยู่ไปสร้างผลตอบแทน

จากปัจจัยดังกล่าวทำให้คนกรุงมักลังเลใจเวลาเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดว่าแบบไหนดีและคุ้มค่ากว่ากัน เพราะต่างก็มีข้อดีข้อเสียกันละคนแบบ ผมขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดๆ สมมุติว่ามีงบ 2.5 ล้านบาทต้องการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ หากซื้อคอนโดจะได้ทำเลในเมืองเดินทางสะดวกหน่อย แต่อยู่ค่อนข้างอึดอัด หากซื้อทาวน์โฮมจะได้ทำเลไกลออกไปแต่อยู่สบายกว่ามาก มีเนื้อที่รอบบ้านไว้ปลูกต้นไม้ และที่จอดรถเพียงพอกับความต้องการของสมาชิกในครอบครัว เราลองมาดูตารางเปรียบเทียบกันครับ

องค์ประกอบคอนโด (ห้องสตูดิโอ)ทาวน์โฮม 2 ชั้น
ทำเลกรุงเทพฯ ชั้นกลางกรุงเทพฯ ชั้นนอก
พื้นที่25 ตร.ม.18 ตร.ว./ 100 ตร.ม.
ราคาต่อพื้นที่100,000 บาทต่อตร.ม.25,000 บาทต่อตร.ม.
จำนวนห้องนอน1 ห้องรองรับ 3 ห้อง
จำนวนห้องน้ำ1 ห้อง2 ห้อง
จำนวนที่จอดรถ1 คัน (ขั้นต่ำ 35 % ของยูนิตทั้งหมด)2 คัน  (ส่วนตัว)

อย่างที่บอกไปว่าที่ทำเลถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกในการเลือกซื้อบ้าน ซึ่งวันนี้ผมขอแนะนำทำเล เพชรเกษม ย่านพุทธมณฑลสาย 4 ที่ปัจจุบันกลายเป็นพื้นที่ทำเลที่เหมาะพัฒนาเป็นทาวน์โฮมราคาคุ้มค่า เพราะย่านนี้กำลังจะมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินให้บริการช่วงปี 2564 และยังคงเป็นพื้นที่ในจังหวัดกรุงเทพมหานครอีกด้วย

หากวิเคราะห์เปรียบเทียบถนนหลักที่มุ่งหน้าสู่ภาคใต้ระหว่าง ถนนพระราม 2 กับ ถนนเพชรเกษม แล้วจะพบว่าภาครัฐมีแผนพัฒนาแตกต่างกันอย่างชัดเจน ถนนพระราม 2 มีแผนจะขยายทางด่วนตามแนวถนนพระราม 2 ล่าสุดจนถึงวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งใต้

ส่วนถนนเพชรเกษม มีแผนจะขยายรถไฟฟ้าตามแนวถนนเพชรเกษมล่าสุดจนถึงพุทธมณฑล สาย 4 ซึ่งรถไฟฟ้าถือเป็นการเดินทางที่ประหยัดและมีประสิทธิภาพดีกว่า โดยรถไฟฟ้าที่พาดผ่านเพชรเกษมเป็นสายสีน้ำเงินด้วยยิ่งน่าสนใจ เพราะเป็นสายเดียวที่วิ่งล้อมรอบกรุงเทพฯ ผ่านย่านเศรษฐกิจที่สำคัญอย่าง เยาวราช สีลม อโศก รัชดา จตุจักร บางซื่อ ปิ่นเกล้า และบางแค

ทำเลเพชรเกษม ย่านหนองแขม นอกจากสะดวกเดินทางแล้วยังสะดวกในการส่งลูกเรียนหนังสือและ ช้อปปิ้งด้วย ด้านการศึกษามีโรงเรียนชั้นนำตั้งแต่อนุบาลยันจบมหาวิทยาลัย ได้แก่ อนุบาลเด่นหล้า, ร.ร.เลิศหล้า, ร.ร.อัสสัมชัญ ธนบุรี, ร.ร.สารสาส์น วิเทศบางบอน, ม.มหิดล ศาลายา ผมเคยไปเยี่ยมชมร.ร.สารสาส์น วิเทศบางบอนเปิดสอนตั้งแต่ชั้นเตรียมอนุบาลจนถึงม.6 มีสอนหลักสูตรอินเตอร์ด้วยครับ

ด้านช้อปปิ้งมีตั้งแต่ตลาดน้ำยันห้างสรรพสินค้า ได้แก่ ตลาดน้ำคลองลัดมะยม, ตลาดน้ำดอนหวาย, Paseo Community Mall,Big C Extra พุทธมณฑล, The Mall บางแค ผมเคยไปเที่ยว Paseo เป็นคอมมิวนิตี้มอลล์ขนาดใหญ่พอสมควร ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นมีร้านอาหารหลากหลายประเภทตอบโจทย์คนชอบทานอาหารไม่ซ้ำร้านเดิม

เร็วๆ นี้จะมีโครงการทาวน์โฮมเปิดใหม่ในย่านดังกล่าวมีชื่อว่า Verve เพชรเกษม 81 ทำเลจัดว่าดีเพราะเข้าจากถนนเพชรเกษมไปเพียง 1.2 กิโลเมตร และอยู่ติดถนนเพชรเกษม 81 ซึ่งเป็นซอยที่มีขนาดใหญ่ทะลุไปออกได้ทั้งกาญจนภิเษก บางบอน และพระราม 2 โดยโครงการนี้เป็นแบรนด์ใหม่ของบริษัท SC Asset ทำให้มั่นใจเรื่องคุณภาพการก่อสร้างการออกแบบ และข้อมูลเบื้องต้นที่ผมได้มามีดังนี้ครับ

ทาวน์โฮม 2 ชั้นจำนวนเพียง159 ยูนิต

  • แบบบ้าน Loft รองรับ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ หน้ากว้าง  5.45 เมตร ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท
  • แบบบ้าน Luxe รองรับ 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 1 ห้องอเนกประสงค์ พื้นที่ใช้สอย 135 ตร.ม. หน้ากว้าง  5.7 เมตร ราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท

โฮมออฟฟิศ 4 ชั้นจำนวน 22 ยูนิต

  • 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ หน้ากว้าง 5 เมตร ราคาเริ่มต้น 7.59 ล้านบาท

โครงการนี้เหมาะกับคนที่มีครอบครัวหรือกำลังสร้างครอบครัว ต้องการสภาพแวดล้อมโครงการที่ดี มีพื้นที่เพียงพอกับจำนวนสมาชิก และอดใจรอโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายในอนาคตได้ โครงการนี้ตอบโจทย์คนกรุงที่ต้องการมีบ้านในราคาที่เข้าถึงได้ ทำให้ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อคอนโดก่อนแล้วค่อยขยับขยายมาซื้อบ้าน 

ใครที่สนใจโครงการ Verve เพชรเกษม 81 จะเปิด Pre-Sale ในวันที่ 11-12 พ.ย.นี้แล้วครับโดยโครงการมีโปรโมชั่นราคาพิเศษ 1.99 ล้าน*โดยมีจำนวนจำกัด และรับส่วนลด 20,000 บาท*สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.scasset.com สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 1749 หรือที่สำนักงานขายโครงการได้เลยครับ

บทความนี้เป็น Advertorial