เราหาเงินได้แล้วเก็บไว้ที่ไหน สามารถดูได้ที่งบการเงินส่วนบุคคลส่วนของ “ทรัพย์สินและหนี้สิน” ภาพนี้เป็นเรื่องของทรัพย์สิน แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ซึ่งเหมาะกับเป้าหมายการเงินที่แตกต่างกัน เริ่มจาก...

1. ทรัพย์สินสภาพคล่อง

เราต้องการใช้ตอนไหน ถอนเงินออกมาใช้ทันที แม้ว่าดอกเบี้ยต่ำ แต่เงินต้นอยู่ครบ เหมาะกับเก็บเงินฉุกเฉิน เก็บเงินเพื่อดาวน์บ้านหรือรถ ค่าเทอมของลูก

2. ทรัพย์สินส่วนตัว

เราไม่คิดจะขาย เป็นของรักของหวง มีความรู้สึกผูกพัน ต้องการเก็บไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน

3. ทรัพย์สินลงทุน

ทำให้เงินเติบโต มีทั้งการเก็งกำไรระยะสั้นและเก็บระยะยาวใช้หลังเกษียณ วางแผนไว้ว่าเงินแต่ละก้อนจะใช้ตอนอายุเท่าไหร่ เพื่อเกลี่ยเงินให้มีใช้ตลอดชีวิต

การแบ่งทรัพย์สินออกเป็น 3 ส่วนแล้วจะช่วยให้เราจัดการเรื่องเงินได้ง่ายขึ้น รู้ว่าเงินแต่ละก้อนจะเก็บไว้เพื่อปรับสภาพคล่องระยะสั้น ใช้ตอนเกษียณหรือส่งต่อมรดกให้คนอื่น เรามาดูตัวอย่างจริงเพื่อให้เข้าใจมากขึ้นกันดีกว่านะคะ 

สัปดาห์ที่ผ่านมาอภินิหารเงินออมเจอเพื่อนใหม่ ดีใจที่ได้ฟังแนวคิดของคนในวงการที่เราไม่คุ้นเคย ทำให้เรามีความรู้ใหม่เพิ่มขึ้น เพื่อนคนนี้อาชีพหลักเป็นทนายความ มีอาชีพเสริมหลายอย่าง เช่น ขายอะไหล่เก่าที่สั่งจากต่างประเทศ นายหน้าประกันวินาศภัย

ภาพรวมมีรายได้ดีมาก แต่ส่วนใหญ่จะหมดเงินไปกับการแต่งรถที่เป็นตลาดกลุ่มเฉพาะ ผลงานแต่งรถที่ผ่านมาเคยเข้าไปอยู่ในนิตยสารรถยนต์มาแล้ว ก็เลยมีอาชีพเสริมให้คำปรึกษาด้านการแต่งรถด้วย

เขาบอกว่า 10 กว่าปีที่อยู่ในวงการแต่งรถนี้ก็เจ็บมาเยอะ บางคันซื้อมาแต่งแล้วราคาขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่บางคันแต่งหลักล้าน ขายได้หลักแสนต้นๆ ฟังแล้วเหมือนการลงทุนหุ้นที่รถแต่งคันแรกเป็นหุ้นเติบโต ในขณะที่คันที่สองเหมือนติดดอยหุ้น

ตอนนี้เขามีหนี้อยู่แค่อย่างเดียว คือ คอนโด 2 ล้านกว่าบาท ซื้อมาได้ปีกว่าๆ ส่วนรถยนต์หลายคันที่เขามีปลอดหนี้แล้ว เขากำลังตัดสินใจว่าจะขายรถยนต์หนึ่งคันมาจ่ายหนี้คอนโด จะทำให้เหลือหนี้คอนโด 500,000 บาท ภาระผ่อนรายเดือนน้อยลง แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าเขารักรถยนต์มาก ขายไปก็เสียดาย

หลังจากคุยกันไปนานๆ ก็เริ่มคุ้นเคย เราสรุปได้ว่าเงินสะสมที่เขามีทั้งหมด (แบบไม่รวมมรดกของครอบครัว) มีอยู่ 2 ส่วน คือ

1. ทรัพย์สินสภาพคล่อง คือ เงินสดและบัญชีออมทรัพย์ รวมประมาณ 170,000 บาท

2. ทรัพย์สินส่วนตัว คือ คอนโด นาฬิกา รถยนต์ รวมประมาณ 6 ล้าน

ไม่มีส่วนที่ 3 ที่เป็นทรัพย์สินลงทุน ลักษณะแบบนี้เรียกว่า “poor millionaire” เศรษฐีที่ยากจนเพราะมีแต่ทรัพย์สินที่ขาดสภาพคล่อง ถ้าต้องการใช้เงินแบบเร่งด่วนก็จะต้องขายทรัพย์สินออกมาใช้จ่าย อาจจะขายได้ต่ำกว่าราคาที่คิดไว้เพราะขายแบบรีบๆ

ถ้าเขาต้องการทำให้ภาระหนี้เบาลงและมีเงินใช้ในช่วงวิกฤต ควรเริ่มจาก…

1. ขายรถยนต์จ่ายหนี้คอนโด

โดยแบ่งรถยนต์ที่มีทั้งหมดออกเป็น 2 ส่วน คือ

=> ทรัพย์สินส่วนตัว รถที่เก็บไว้ทำงาน ของสะสมเพื่อความรู้สึกทางใจ

=> ทรัพย์สินลงทุน รถคันที่ตั้งใจจะเก็งกำไรซื้อมาขายไป เอาเงินมาหมุนแต่งคันใหม่ขายหรือนำมาจ่ายหนี้สินให้เบาลง

ความรู้ใหม่ของแอดมินเพิ่งรู้ว่ามีการซื้อขายทะเบียนรถกันด้วย ป้ายทะเบียนต่างจังหวัดกับ กทม.ก็ราคาแตกต่างกัน ราคาขึ้นอยู่กับความพอใจ เพื่อนเล่าว่าบางคนเก็งกำไรซื้อป้ายมา 3 ล้านขายไป 3.5 ล้านบาท 

แบบนี้วิธีการลงข้อมูลในงบการเงินก็จะคล้ายๆกับพระเครื่อง รถยนต์ ถ้าเราซื้อป้ายทะเบียนเก็บไว้ระยะยาวไม่คิดจะขาย แต่มันมีมูลค่าก็อยู่ในส่วนของ “ทรัพย์สินส่วนตัว” คิดตามราคาตลาดว่าถ้าขายแล้วได้เท่าไหร่ แต่ถ้าซื้อป้ายทะเบียนมาเก็งกำไรก็จะอยู่ “ทรัพย์สินลงทุน”  

2. สร้างสภาพคล่องด้วยการเตรียมเงินฉุกเฉิน

เขามีรายจ่ายเดือนละ 80,000 บาทและเป็นอาชีพอิสระ ควรมีเงินฉุกเฉินเก็บไว้ประมาณ 6 เดือน คือ 480,000 - 500,000 บาท เก็บไว้ที่ออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง ในช่วงเวลาวิกฤตรายได้ไม่เข้าหรือว่าเงินเข้าช้า จะได้มีเงินก้อนนี้มาใช้จ่ายได้แบบสบายๆ

ขอบคุณเพื่อนใหม่ที่อนุญาตให้นำเรื่องราวมาแชร์ เพื่อเป็นประโยชน์กับสาธารณะ ขอให้มีรายได้เข้ามาเยอะๆนะคะ

ตอนนี้เรามีความรู้พื้นฐานเรื่องงบการเงินส่วนบุคคลและแนวคิดในการลงข้อมูลทรัพย์สินแล้ว น่าจะทำให้เห็นภาพและวางแผนการเงินของตัวเองได้ง่ายขึ้นนะคะ

สำหรับคนที่ซื้อ E-book วิธีจัดการเงินขั้นเทพ ฉบับลงมือทำ เรื่องงบการเงินส่วนบุคคลและการวิเคราะห์สุขภาพการเงินของตัวเองจะอยู่ส่วนสุดท้าย สามารถใช้แนวคิดนี้ในกรอกข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ทรัพย์สินของตัวเองได้นะคะ

-------

PR : E-book “วิธีจัดการเงินขั้นเทพ ฉบับลงมือทำ” เคล็ดลับวิธีจัดการเงินแบบไม่ต้องคลำทางเอง อ่านแล้วทำ workshop ครบทุกเรื่อง รับรองว่าจัดการเงินดีขึ้นแน่นอน อ่านสารบัญและวิธีสั่งซื้อ E-book ได้ที่ลิงค์นี้นะคะ https://bit.ly/3eeO33Q

เพจอภินิหารเงินออม