เผอิญว่าเมื่อ 3-4 วันก่อน ระหว่างที่ผมกำลังนอนอยู่บนเตียงนิ่ม ๆ อย่าง เพลิดเพลินอยู่ ทันใดนั้นหลานสาวตัวแสบของผมก็ส่งเสียงอ้อน คุณแม่(พี่สาวของผม) ว่าไม่อยากให้คุณแม่จะต้องไปทำงาน เพราะว่าต้องการที่จะให้อยู่เล่นด้วย  ด้วยความที่พี่สาวของผมพอจะรู้ว่าจะต้องพูดคุยอย่างไรกับเจ้าตัวเล็กนี้ให้เข้าใจถึงเหตุผลที่ดีในการไปทำงาน จึงบอกกับหลานตัวแสบผมว่า

"แม่จะไปทำงาน จะได้เอาเงินมาให้คะน้าไง(หลานผมชื่อคะน้า) เอาไว้กินขนม หรือ กินข้าว ถ้าเราไม่ทำงานละก็อาจจะไม่มีข้าวกินก็ได้นะ คะน้าอาจจะอดไปเที่ยวกับพ่อและแม่ด้วย" 

ผมที่นอนอยู่ก็รู้สึกว่า เป็นเรื่องจริงและ ถูกต้องเหมือนกัน แต่ก็อยากจะเพิ่มความรู้สึกดี ๆ ให้กับหลานตัวเล็กของผมด้วยจึงลุกจากที่นอน และเดินไปบอกกับไอ้ตัวแสบว่า 

"คุณแม่เราน่ะ ทำงานเก่งมาก และรักงานที่ทำมาก ๆ ด้วย ที่สำคัญ ที่ทำงานมีเพื่อน ๆ เยอะแยะเลย ทำงานน่ะสนุกมากเลยนะ ทำไปมีความสุขไป

ไอ้ตัวเล็กก็เหมือนจะตื่นเต้นไปด้วย เพราะไอ้คำว่า "สนุก" นี่แหละครับ กลายเป็นทำให้ไอ้ตัวเล้ก อยากไปทำงานกะพี่สาวผมซะงั้น 55+ แต่ก็ไม่ได้ไปนะครับ สุดท้ายก็เหมือนไอ้ตัวเล็กก็ยอมอยู่บ้านแต่โดยดี

จึงเป็นที่มาของหัวข้อวันนี้ครับ ผมเองก็อยากสอนเด็ก ๆ ให้รู้จักออมเงิน และเริ่มเข้าใจเรื่องคุณค่าของเงิน รวมถึงถ้าเด็กเหล่านี้ได้เริ่มเข้าใจการลงทุนก็น่าจะดีไม่น้อยครับ

เรามาเริ่มกันเลยนะครับ

1. กำหนดเป้าหมายง่าย ๆ ให้รู้จักเก็บออม

วัยเด็ก (ก่อนอายุ 12 ปี) - วัยนี้ "คำชม" เป็นเรื่องสำคัญ "การให้รางวัล"เป็นเรื่องใหญ่ และพ่อแม่ "ต้องให้ความร่วมมือ"

การให้เด็กในวัยนี้รู้จัก เรื่องการออมเป็นเรื่องง่ายมากครับ เพียงแค่ ตั้งเป้าหมายร่วมกันในการออม โดยมีกระปุกออมสินใบใหญ่อยู่กลางบ้าน พ่อแม่ ต้องช่วยกันออมเงินให้ลูกเห็นทุกวัน และที่สำคัญเมื่อลูกของท่านได้หยอดกระปุกด้วยตนเอง อย่าลืมกล่าวคำชื่นชม หรือ ให้"ดาว"กันด้วยนะครับ ดาวอาจจะไร้สาระสำหรับพวกเราที่เป็นผู้ใหญ่ครับ แต่สำหรับเด็ก ๆ มันคือ "สัญลักษณ์" ที่บ่งบอกถึงความภูมิใจของเด็ก ๆ นะครับ อย่าทำเป็นไม่เห็นความภูมิใจ และ เชื่อมั่นของเด็ก ๆ เพราะว่า มันจะลดทอนความเชื่อมั่นแบบลึก ๆ ในตอนที่เขากลายเป็นผู้ใหญ่ครับ จากนั้นพอได้ดาวครบ หรือ ได้เงินตามที่ต้องการก็พาเด็ก ๆ ไปเที่ยวที่ที่ พวกเขาชอบครับ เป็นการบอกว่าการออมในระยะยาวนั้น นำมาซึ่งความสุขได้ครับ(ลำบากก่อน สบายทีหลัง และรู้จักรอคอย)

วัยรุ่น (หลัง 12 ปี)  - วัยนี้ "ตัวตน" เป็นเรื่องสำคัญ "ความหล่อและสวย"เป็นเรื่องใหญ่ และพ่อแม่ "ต้องแชร์ความสำเร็จ"

เนื่องจากเด็กในช่วงนี้ ต้องได้รับการยอมรับ และต้องการมีเพื่อน ถ้าลูก ๆ ของคุณ อยากได้อะไรที่มันดูดีในกลุ่มเพื่อน ๆ เช่น ต้องการเอาเงินไปรักษาสิว หรือ เอาเงินไปซื้อกีต้าร์มาเล่น ก็ลองให้เค้าเริ่มเก็บออมดูครับ แต่การเก็บออมต้องมีความเป็นไปได้ด้วยนะครับ เช่นอยากได้ของราคา 15000 บาท ให้เก็บวันละ 100 บาท 150 วัน อาจจะดูยากไปนิดครับ เนื่องจากเด็กวัยนี้อาจจะได้รายได้ต่อวันไม่เยอะ ดังนั้นคุณพ่อ คุณแม่ อาจจะช่วยสนับสนุนด้วยส่วนนึงครับ เช่นเก็บออมช่วยกันคนละครึ่งก็ได้ และจะได้มีกิจกรรมร่วมกัน ประโยชน์อีกอย่างของการเก็บออมร่วมกันคือ ได้คอยให้คำแนะนำการแบ่งเงินให้กับลูก ๆ ได้ด้วยครับ

2. บอกข้อดีของการลงทุน และข้อดีของกองทุนรวม

อันนี้ต้องบอกก่อนว่า เด็กทั้ง 2 วัยนี้เริ่มที่จะเข้าใจเหตุ และ ผล ได้แล้วนะครับ ถ้าเรามีเวลาในการพูดคุยกับลูก ๆ ครับ ดังนั้น วิธีการที่จะบอกว่า การลงทุนมันดีอย่างไร และ กองทุนรวมคืออะไรก็ไม่ยากครับ คือ บอกไปตรง ๆ ครับ

วัยเด็ก (ก่อนอายุ 12 ปีแต่ไม่ต่ำกว่า 5  ปี)

ถ้าเอาไปลงทุนจะได้ ดาวคูณ 2 หรือ ได้ไปเที่ยวเร็วขึ้นนะ

วัยรุ่น (หลัง 12 ปี)

การลงทุนอาจจะทำให้เราได้กีต้าร์ 2 ตัว หรือ อาจจะได้กีต้าร์เร็วขึ้นกว่าที่คิดนะ

+ ข้อดีของกองทุนคือ เราไม่ต้องบริหารเงินเอง มีคนมาบริหารเงินให้ แถมเงินที่เก็บมาก็เพิ่มมากขึ้นด้วย จากนั้นก็พาไปธนาคารกันครับ

3. พาลูกไปซื้อกองทุนรวมด้วยกัน

หรือที่เรามักจะเรียกว่า " ตัวอย่างที่ดีมีค่ามากกว่าคำสอนครับ "

ผมแนะนำว่าให้พ่อและแม่ พาลูก ๆ เข้าธนาคารด้วยกัน และทำการซื้อกองทุนรวม กับพนักงานธนาคาร เพื่อสร้างความเคยชิน และคุ้นเคยให้กับเด็ก ๆ ในการลงทุนครับ และถ้าจะให้ดีละก็ ให้เด็ก ๆ มีโอกาสสอบถามพนักงานถึงเรื่อง ความเสี่ยงของกองทุน, ผลตอบแทน, ค่าธรรมเนียม เรียกได้ว่าให้เด็ก ๆ ชวนคุยกับพนักงานธนาคารดูครับ ผมมั่นใจว่าเด็ก ๆ ไม่รู้เรื่องที่เค้าจะถามซักเท่าไหร่หรอกครับ แต่ว่า !! มันเป็นการเสริมสร้างนิสัย และ ความเคยชินในการลงทุน รวมถึง การปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นไปด้วย และคำถามเหล่านี้จะฝังอยู่ในความคิดของเด็ก ๆ แน่นอนว่าประโยชน์ที่ได้มันไม่ได้เกิดภายในวันนี้ครับ แต่โตไปเค้าจะเข้าใจได้อย่างดี และ เร็วกว่าคนอื่น ๆ อย่างแน่นอนครับ

จุดสำคัญครับ !! ถ้า พ่อซื้อกองทุน แม่ต้องชมพ่อ // ถ้าแม่ซื้อกองทุน พ่อต้องชมแม่ **** 

เพราะอะไรหรือครับ ??

เพราะว่าเด็ก ๆ จะเห็นถึงการชื่นชมกันเอง และความรักในครอบครัว เขาจะเลียนแบบครับ เพื่อให้ได้รับคำชมเช่นกัน เหมือนดูแล้วไม่มีอะไร แต่ในจิตใต้สำนึกของเด็ก ๆ จะทำงานและเรียนรู้ถึงการชื่นชมคนอื่น และเป็นที่ชื่นชมไปด้วย การทำความดีจะทำให้เราได้รับความสุข ความรักของคนในครอบครัวมันจะเติมเต็มจิตใจของเด็กให้มีความอบอุ่น และเมื่อเด็ก ๆ เหล่านี้เติบโตไปมีครอบครัวก็จะเลียนแบบท่าน เค้าก็จะสอนสิ่งเหล่านี้ให้กับหลานของท่านต่อไปด้วยครับ

ผมว่าเด็ก ๆ เป็นอะไรที่สอนง่าย และจดจำคำสอนของเราได้ดีมาก ๆ ครับ แต่เพื่อทำให้เด็ก ๆ เหล่านี้รู้จักคุณค่าของเงิน ด้วยหัวใจ มิใช่เพียงแค่มูลค่าของมัน