“ที่ใดมีรักทีนั่นมีทุกข์” เป็นสุภาษิตไทยที่เราได้ยินกันบ่อยๆ แต่ในปัจจุบัน เรื่องที่ทำให้เกิดความทุกข์ในความรักมากที่สุด มักจะเป็นเรื่องของ “การเงิน”

คำพูดนี้ดูเหมือนจะรุนแรง แต่ความเป็นจริงนั้นรุนแรงเสียยิ่งกว่า ถ้าหากคู่รักของเรานั้นมีพฤติกรรมด้านการเงินที่แตกต่าง ย่อมจะสร้างปัญหาและความวุ่นวายในชีวิตคู่เพิ่มเติมอย่างไม่มีหยุดหย่อนตามมาอย่างแน่นอน

ดังนั้น ลองมาดู "3 เทคนิคบริหารการเงินสำหรับคู่รัก" ที่รับประกันว่าทำตามแล้ว จะทำให้ความรักของคู่เราไม่มีความทุกข์เรื่องเงินกันอีกต่อไป

1. เปิดใจคุยกัน

เพราะความรักไม่ใช่แค่เรื่องบนเตียง แต่ต้องเคียงคู่กันไปตลอดชีวิต ดังนั้นการเปิดใจคุยกัน ถือเป็นเทคนิคแรกที่สำคัญที่สุด เพราะถ้าหากต่างฝ่ายไม่เปิดใจ รับรองได้ว่าปัญหาชีวิตคู่นั้นต้องมีอะไรหลายอย่างตามมาอย่างแน่นอน

ลองคิดตามง่ายๆ ถ้าหากคู่รักของเราเป็นคนชอบใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย ไม่สนใจอนาคต ในขณะที่เราเป็นคนที่ประหยัดมัธยัสถ์ แบบนี้การอยู่ด้วยกันก็มีแต่ความลำบาก ยิ่งหากเราเป็นฝ่ายหาเงินคนเดียว แบบนี้คงมีเสียวไม่เลิกก็รักร้าวตามมา

โดยการเปิดใจคุยกันที่ว่านี้ ไม่ได้จบที่แค่ต้องทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งตามแนวทางของใคร แต่เป็นการหาหนทางเดินทางไปด้วยกัน จากตัวอย่างข้างต้น เราอาจจะลดความตระหนี่ลงสักหน่อย ในขณะที่คู่รักก็ยอมถอยให้เราโดยการลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยบ้าง ซึ่งจะช่วยกันสร้างความไว้ใจกันและกันมากขึ้นนั่นเอง

2. กำหนดเป้าหมายการเงินร่วมกัน

หลังจากที่เปิดใจกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งทีต้องทำต่อมาเพื่อให้อนาคตความรักมั่นคง เราต้องมาปรับปรุงและเปลียนแปลงเป้าหมายการเงินให้ตรงกัน เพราะทำให้คนทั้งคู่ได้เห็นหนทาง และวางแผนวิธีการจัดการเป้าหมาย เพื่อความสุขของครอบครัวในอนาคต

ยกตัวอย่างเช่น การเก็บเงินเพื่ออนาคตของลูก การวางแผนเกษียณร่วมกัน ไปจนถึงการวางแผนใช้จ่ายเล็กๆน้อยๆ อย่างการวางแผนใช้จ่ายเพื่อท่องเที่ยว ก็เป็นอะไรที่สร้างเป้าหมายและแรงบันดาลใจ แถมยังทำให้คนทั้งคู่เข้าใจความต้องการของกันและกันมากขึ้นอีกด้วย

3. ตรวจสอบและติดตามเพื่อแก้ไข

โลกนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ดังนั้นการเปิดใจ หรือการกำหนดเป้าหมายไว้นั้น อาจจะต้องมีการทบทวน เปลี่ยนแปลง หรือตรวจสอบว่าทำได้จริงไหม เพราะถึงแม้เรื่องเงินจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่ความสุขในชีวิตที่มีกันและกันนั้นก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า ดังนั้น ต้องมีการตรวจสอบ และจัดการเป้าหมายร่วมกันอยู่เสมอ เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายได้จริง พร้อมกับความสบายใจในการใช้ชีวิตร่วมกันด้วย

อย่าให้เป็นเหมือนบางคู่พยายามทำทุกอย่างเพื่อกันและกัน เพื่อไม่ให้มีปัญหาด้านการเงิน แต่กลายเป็นว่าก่อให้เกิดความเครียดด้านอื่นขึ้นมา จนเสียความสุขในการใช้ชีวิตคู่ร่วมกันไป แบบนั้นเห็นที่จะไม่ดีแน่ๆ

พฤติกรรมด้านการเงินที่แตกต่าง ย่อมจะสร้างปัญหาและความวุ่นวายในชีวิตคู่เพิ่มเติมอย่างไม่มีหยุดหย่อน

เคล็ดลับเหล่านี้เป็นเคล็ดลับง่ายๆสั้นๆ  แต่จะทำได้หรือไม่ได้นั้น มันอยู่ที่เรื่องของคนสองคน อย่าลืมถึงความสำคัญในการเปิดใจกับคู่ชีวิตที่เราเลือกเขามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต กำหนดทิศทาง และจัดการไปร่วมกัน

สุดท้ายแล้ว ชีวิตคู่ของเราจะเปลี่ยนสุภาษิตคำว่า “ที่ใดมีรักทีนั่นมีทุกข์” กลายเป็น “ที่ใดมีรัก ทีนั่นมีสุขด้านการเงิน” เสียที