โทนี่ รอบบินส์ (Tony Robbins) ไลฟ์โค้ช นักธุรกิจที่มีชื่อเสียงและนักเขียนหนังสือขายดีของ New York Times เป็นคนหนึ่งที่มีโอกาสได้สัมภาษณ์นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จระดับโลกมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett), เรย์ เดลิโอ (Ray Dalio) หรือ คาร์ล ไอคาห์น (Cark Icahn)

ตลอดช่วงเวลาหลายสิบปีที่เขาได้สั่งสมประสบการณ์และเรียนรู้จากนักลงทุนทั้งหลาย รอบบินส์เขียนหนังสือที่ได้รับความนิยมออกมาหลายเล่ม ล่าสุดคือ “Unshakeable” (เล่มนี้มีแปลไทยชื่อว่า ‘การเงินอย่าง โทนี่ รอบบินส์’ : คู่มือสู่อิสรภาพทางการเงินโดยนักธุรกิจพันล้านและโค้ชระดับโลก) ก็ติด “New York Times Bestseller” ด้วย

เมื่อพูดถึงการลงทุนรอบบินส์คอยย้ำเสมอว่าสิ่งที่เขาได้ยินจากนักลงุทนที่ประสบความสำเร็จอยู่เป็นประจำคือนักลงทุนที่ล้มเหลวส่วนใหญ่เป็นเหตุผลทางจิตวิทยาทั้งสิ้น พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือว่าสมองตัวดีของเรานี่แหละที่เป็นตัวขัดขวางไม่ให้เราไปถึงเป้าหมายทางการเงินที่เราตั้งเอาไว้

โดยรอบบินส์สรุปมาให้ 3 ข้อผิดพลาดใหญ่ ๆ ที่ทำให้นักลงทุนหลุดออกจากเส้นทางของตัวเอง (ซึ่งเขาเขียนไว้ในหนังสือ ‘Unshakeable’ ด้วยครับ)

1. อคติจากการยืนยันข้อมูล (Confirmation Bias)

ใครสักคนบอกอะไรสักอย่างแล้วคุณก็เชื่อ หลังจากนั้นก็ไปคุยกับคนอื่นที่เชื่อในสิ่งที่คุณเชื่อเหมือนกัน รอบบินส์บอกว่า “ถ้าคุณไม่ถามหาความคิดเห็นที่ต่างออกไป เรือคุณล่มแน่นอน”

เป็นการมองหาคนที่มองต่างออกไปอย่างเป็นเหตุเป็นผล และแสดงความคิดเห็นว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น เพื่อที่จะได้นำกลับมาประกอบการตัดสินใจที่ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ

เดลิโอ นักลงทุนที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งเคยพูดเอาไว้ว่า

“มันยากมากที่จะเป็นผู้ถูกต้องในตลาด ดังนั้นสิ่งที่ผมค้นพบว่ามีประสิทธิภาพมาก ๆ คือการหาผู้คนซึ่งไม่เห็นด้วยกับผม และจากนั้นก็รับฟังถึงเหตุผลของพวกเขา...พลังของการไม่เห็นด้วยที่ผ่านการไตร่ตรองมาแล้วนั้นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก”

คำถามสำคัญคือ “ฉันไม่รู้อะไรบ้าง?”

2. ความมั่นใจที่มากเกินไป (Overconfident)

ลองถามคำถามนี้กับตัวเองก็ได้ครับ

คุณเป็นคนรักที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยไหม?
คุณคิดว่าคุณขับรถเก่งกว่าค่าเฉลี่ยไหม?
คุณคิดว่าคุณฉลาดกว่าค่าเฉลี่ยไหม?

รอบบินส์บอกว่าคำถามเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องมีคำตอบ แต่คนส่วนใหญ่แล้วจะคิดว่าตัวเองนั้นเหนือกว่าค่าเฉลี่ยในหลาย ๆ เรื่อง รวมไปถึงเรื่องของการลงทุนด้วย อันนี้โดยเฉพาะผู้ชาย โดยมีสถิติบอกว่าผู้ชายซื้อขายหุ้นมากกว่าผู้หญิง 45% และทำให้ผลตอบแทนของตัวเองลดลงไปสุทธิ 2.65% ต่อไป

นั่นยังไม่อันตรายเท่ากับความเชื่อที่ว่าคุณสามารถคาดเดาทิศทางของตลาดได้ ไม่ว่าหุ้น ทองคำ น้ำมัน หรือสินทรัพย์ต่าง ๆ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลย

บัฟเฟตต์เคยบอกว่า “คุณค่าของผู้ทำนายหุ้นนั้นก็มีแค่เอาไว้ให้หมอดูทั้งหลายดูดีขึ้นเท่านั้นแหละ”

3. อคติความคิดเชิงลบ (Negativity Bias)

นี่คือส่วนหนึ่งของสมองที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเจอเรื่องร้าย ๆ เกิดเรื่องแย่ ๆ เราจะเรียนรู้และจดจำได้เป็นอย่างดี รอบบินส์บอกว่า “เรามีสมองอายุ 2 ล้านปีที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันอันตรายจากเสือเขี้ยวดาบ เราจะคอยมองหาอะไรก็ตามที่ผิดปกติ พร้อมที่จะวิ่งหนี จะสู้ หรือจะแกล้งตาย”

รอบบินส์บอกว่าสมองส่วนนี้แหละที่ทำให้เราไม่สามารถเป็นอิสระทางด้านการเงินได้

“เราต้องเข้าใจก่อนว่าความคิดเชิงลบนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ เราต้องทำการบ้านและคุณจะไม่คิดลบ แต่จะเข้าตลาดแล้วชนะได้”

อคติความคิดเชิงลบนี้ทำให้เราโฟกัสไปที่ข่าวร้าย มากกว่าโอกาสของสิ่งดี ๆ ที่จะเกิดขึ้น แต่การลงทุนนั้นต้องจำเอาไว้เป็นเรื่องของระยะยาว จะเอาอารมณ์หรือความรู้สึกอยากรวยเร็ว ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยไม่ได้ ต้องรู้ว่าเป้าหมายของเราคืออะไร กระจายความเสี่ยง อย่าไปคิดว่าจะคาดเดาทิศทางของตลาดได้ เมื่อตลาดร่วง อาจจะเป็นโอกาสที่ดีในการเก็บหุ้นคุณภาพ และแน่นอนว่าให้คาดหวังผลลัพธ์ที่เป็นจริงได้ในระยะยาว (ไม่ใช่ว่าจะต้องหุ้น 10 เด้งภายใน 12 เดือน)

การเสียเงินนั้นทำให้เราเจ็บปวด และจะทำให้เราตัดสินใจผิดพลาดได้ เพราะฉะนั้นถ้าอยากประสบความสำเร็จก็ต้องเอาชนะอคติทางธรรมชาตินี้ให้ได้ด้วยครับ